- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 December 2014 15:50
- Hits: 2525
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
หลังจากแบ่งทำกำไรช่วงบวกบ้างแล้ว ช่วงนี้ SET ลบลงก็ทยอยซื้อได้...
กลยุทธ์ : คาดว่า SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนและปรับพักตัวลงได้ แต่กรอบการปรับลงมีสิทธิที่จะไม่ลึกนัก เพราะยังคาดหวังเม็ดเงิน LTF, RMF ได้อยู่ และมีแนวโน้มที่จะกลับไปแกว่งบวกต่อได้ในเร็วๆ นี้ ดังนั้นยังเลือกหุ้นทยอยซื้อในช่วงลบและเน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อนได้ ส่วนเทรดดิ้งสั้นตามรอบหลังจากแนะนำให้แบ่งส่วนขายทำกำไรช่วงบวกไปบ้างแล้ว ช่วงนี้ดัชนีปรับลงมาให้กลับเข้าเลือกหุ้นทยอยซื้ออีกครั้งได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MAX, BMCL , BAY(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้(8 ธ.ค.) SET ปรับตัวลงค่อนข้างแรงและเร็วในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งมาจากความวิตกต่อสถานการณ์การเมืองของไทย หลังสำนักข่าวต่างๆ ได้ลงบทสัมภาษณ์ของอดีตนายกฯ ชวลิต ยงใจยุทธ จนทำให้เกิดแรงขายในลักษณะ panic sell ออกมา แต่ข่าวดังกล่าวยังไม่ได้มีมูลความจริงเท่าใดนัก จึงทำให้ FSS คาดว่า SET มีโอกาสที่จะรีบาวด์กลับขึ้นในวันนี้ หลังการปรับตัวลงแรงเมื่อวานได้ อย่างไรก็ตามบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ส่วนใหญ่ยังไม่สดใสนัก เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ปรับตัวลงค่อนข้างมาก โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ส่งผลให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานออกมา และกดดันตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้พอควรด้วย อย่างไรก็ตาม SET ปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้ไปบ้างแล้ว ขณะที่เม็ดเงินใหม่จาก LTF, RMF คาดว่าจะยังมีเข้ามาช่วยหนุนตลาดได้ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงตลาดอ่อนตัวลง เพื่อเน้นถือต่อเนื่องเช่นเดิม
แนวรับ 1573-1570 , 1567-1556 จุด แนวต้าน 1582-1584 , 1586-1592 จุด
Fund Flow วานนี้ปริมาณเบาบางเพราะเป็นช่วงหยุดพักผ่อนยาวของนักลงทุนและกองทุนต่างชาติ โดยต่างชาติขายตลาดหุ้นไต้หวัน US$102.2 ล้าน อินโดนีเซีย US$31.6 ล้าน และเวียดนาม US$0.5 ล้าน ขณะที่ซื้อตลาดเกาหลีใต้ US$94.4 ล้าน และไทย US$54.1 ล้าน ส่วนฟิลิปปินส์ปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะเบาบางต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) Forward PE ปี 2015 ลดเหลือ 14.2 เท่าเป็นระดับที่น่าซื้อลงทุน การไหลลงเร็วของ SET Index บ่ายวานนี้ (ด้วยข่าวลือการปฎิวัติซ้อนซึ่งเรามองว่าเป็นไปไม่ได้) ทำให้ค่า Forward PE ปี 2015 ลดลงเหลือ 14.2 เท่า จาก PE ปีนี้ที่ 17 เท่า เป็นระดับที่น่าซื้อลงทุนเพราะเมื่อเทียบกับกำไรปีหน้าที่เราคาดโต 18.2% Y-Y คิดเป็น PE to Growth เพียง 0.8 เท่า เป็นตลาดที่ถูกที่สุดในกลุ่ม TIP กลุ่มที่น่าสนใจยังคงเป็นกลุ่มธนาคาร รับเหมาก่อสร้าง ท่องเที่ยว (สายการบิน สนามบิน การแพทย์) และสื่อสาร
(+) THREL เราปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 20% เป็นหดตัว 7% Y-Y สะท้อนกำไรที่น่าผิดหวังใน 3Q14 (-37% Q-Q, -55% Y-Y) ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดทุนของโครงการร่วมพัฒนาโครงการหนึ่งและการจ่ายค่าสินไหมทดแทนรายหนึ่งจากการรับประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ หากไม่มี 2 รายการดังกล่าว จะมีกำไร 100 กว่าล้านบาทซึ่งเป็นระดับปกติของบริษัท เราคาดแนวโน้มกำไร 4Q14 จะฟื้นกลับสู่ปกติที่ 96 ล้านบาท และเราปรับกำไรปี 2015 ลง 4% เป็นโตแข็งแกร่ง 38% การที่กลุ่ม Fairfax ซื้อ THREL 55 ล้านหุ้นๆละ 14.70 บาทเมื่อเดือนก่อนจาก THRE ทำให้ Fairfax เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองที่ 9.17% ถือเป็นบวกเพราะมีกลุ่มทุนที่แข็งแกร่งสนับสนุนฐานเงินทุนและธุรกิจในระยะยาว เราปรับราคาเป้าหมายปี 2015 ลงเป็น 18.90 บาทจาก 19.70 บาท แต่ยังคงแนะนำซื้อ
(+) ITD เราปรับราคาเป้าหมายปี 2015 ขึ้นเป็น 8.10 บาทจากเดิม 5.40 บาท โดยปรับเพิ่ม Target PBV เป็น 2.8 เท่าจากเดิม 2 เท่าให้สอดคล้องกับโอกาสในการประมูลงานใหม่ๆ จากภาครัฐที่จะสูงขึ้นในปี 2015 ประกอบกับ Book value ของบริษัทก็สูงขึ้นหลังเพิ่มทุน (PP 419.37 ล้านหุ้นที่ราคา 5.05 บาท) ต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา สำหรับ Backlog ปัจจุบันมี 2.23 แสนล้านบาท (รวมงานสัมปทานในสาธารณรัฐโมซัมบิกมูลค่า 1.12 แสนล้านบาทแล้ว) และยังมีงานรอเซ็นสัญญาอีกประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ราคาหุ้นที่ปรับลงวานนี้เป็นโอกาสในการซื้อเก็งกำไรข่าวประมูลงานที่จะมีเป็นระยะๆจากนี้ไป
(+) PS ยอด Presales 2 เดือนแรกของ 4Q14 ทำได้ 5.9 พันล้านบาท -35% Q-Q, -11% Y-Y เพราะมีโครงการเปิดขายค่อนข้างน้อย แต่ Presales ในงวด 11M14 ทำได้แล้ว 87% ของเป้าทั้งปีของบริษัทที่ 4.3 หมื่นล้านบาท น่าจะทำตามเป้าได้ไม่ยาก และ Backlog ที่มีก็รองรับคาดการณ์รายได้ในปีนี้แล้ว 103% และปีหน้า 34% โดยรายได้ในส่วนที่เหลือจะมาจากการขายและโอนโครงการที่เปิดขายอยู่ตอนนี้ 7.8 หมื่นล้านบาท สำหรับแนวโน้มกำไรใน 4Q14 คาดว่าจะชะลอทั้ง Q-Q และ Y-Y เพราะมีคอนโดโอนน้อยลง แต่เรายังแนะนำ PS เป็นหนึ่งใน Top pick กลุ่มที่อยู่อาศัยในปีหน้า เพราะคาดกำไรเติบโตต่อเนื่องปีนี้ 8% Y-Y ปีหน้า 14% Y-Y ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 42 บาท
ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนวันศุกร์ยังขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย. ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดซึ่งน่าจะรับมือกับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในปีหน้าได้
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดบวกได้ค่อนข้างดีเช่นกันโดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีกว่าที่ตลาดคาด
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมโดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลขดุลการค้าจีนในวันนี้
ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงค่อนข้างแรงจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง คาดวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 32.88-33.03 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ร่วงลง 0.97 ดอลลาร์ มาปิดที่ 65.84 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียได้ลดราคาขายได้ปรับน้ำมันดิบที่ขายให้ลูกค้าเอเชียลงอีก
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ร่วงลง 17.30 ดอลลาร์ มาปิดที่ 1,190.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดออลาร์แข็งค่าสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10 ธ.ค. - ไทย: วันหยุดราชการและตลท. วันรัฐธรรมนูญ
- จีน: ยอดสินเชื่อเดือน พ.ย.
11 ธ.ค. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (พ.ย.)
12 ธ.ค. - จีน: ยอดค้าปลีก, การลงทุน (พ.ย.)
14 ธ.ค. - ญี่ปุ่น: เลือกตั้งทั่วไป
15 ธ.ค. - ญี่ปุ่น: 4Q14 Tankan Index
- สหรัฐ: Industrial Production (พ.ย.), NAHB Housing Market Index (ธ.ค.)
16-17 ธ.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
16 ธ.ค. - จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI, ZEW Survey Expectations (ธ.ค.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (พ.ย.)
17 ธ.ค. - ไทย: กนง.ประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852