WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Technical Rebound
ตลาดหุ้นวานนี้:
       ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขายและทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 1,603.89 จุด แต่เผชิญกับแรงขายทำกำไร และการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มพลังงานส่งผลให้ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้ ขณะที่ความกังวลต่อปัจจัยการเมืองส่งผลให้ตลาดปรับตัวลงในช่วงบ่าย และปิดที่ระดับ 1,575.55 จุด ลดลง 22.21 จุด หรือ -1.39% มูลค่าการซื้อขาย 6.13 หมื่นล้านบาท หุ้นกลุ่มหลักปรับตัวลง ได้แก่ พลังงาน -1.9%, ปิโตรเคมี -3.4%, ธนาคาร -1.2% และรับเหมาก่อสร้างที่อ่อนไหวต่อปัจจัยการเมืองปรับตัวลงแรง -4.4%


      นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 1,748 ล้านบาท จากขายสุทธิ 1,237 ล้านบาทในวันก่อนหน้า แต่ยัง Short สุทธิใน SET50 Index Future เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน 5,124 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน 1,105 ล้านบาท


ปัจจัยสำคัญวันนี้


• แรงขายทำกำไรของ Trigger Fund และปัจจัยการเมืองส่งผลให้วานนี้ตลาดเคลื่อนไหวผันผวนและปิดในแดนลบ อย่างไรก็ตาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ความเห็นว่าจะไม่มีการปฎิวัติซ้อนอย่างแน่นอน
• ติดตามการประชุม ครม.ในวันนี้ โดยมีวาระสำคัญ เช่น การพิจารณา พ.ร.บ.เศรษฐกิจดิจิตอล (+ต่อหุ้นกลุ่ม SI เช่น MFEC, SAMTEL, AIT) และการพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น (+ต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Play เช่น ธนาคาร, ค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์)
• การเปิดซองราคารถไฟฟ้าสายสีเขียวมูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท จำนวน 4 สัญญา โดยบริษัทที่เข้ายื่นประมูล ได้แก่ ITD, CK, STEC และ UNIQ
• Morgan Stanley ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ปี 2558 ลงเหลือ US$70.00/barrel จากเดิมที่ US$98.00/barrel และปี 2559 ลงเหลือ US$88.00/barrel จากเดิมที่ US$102.00/barrel
• จีนจะมีการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจกลางสัปดาห์นี้ (อังคาร - พฤหัส) โดยปัจจัยสำคัญอยู่ที่คาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปี 2558 ว่าจะสูงกว่าระดับ 7% หรือไม่
• ตลท.จะประกาศหุ้นเพิ่ม / ลดในการคำนวณดัชนี SET 50 ในวันที่ 15 / 16 ธ.ค. คาดหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี SET 50 ได้แก่ CK, KTIS, HEMRAJ, SPALI และถูกถอดออก ได้แก่ BAY, KKP, GLOBAL, THCOM


มุมมองต่อตลาด
เรามีมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” ต่อการลงทุนในวันนี้ และประเมินว่า SET Index มีโอกาสเกิด Technical Rebound หลังวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงสวนทางตลาดหุ้นเอเซีย โดยคาดว่าจะเห็นการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่จะมีการซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียวในวันนี้
อย่างไรก็ตาม คาดว่า Upside จำกัดที่บริเวณ 1,585 จุด เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานยังมีทิศทางปรับตัวลง และเข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดในวันพรุ่งนี้ส่งผลให้นักลงทุนมีทิศทางชะลอการลงทุน


กลยุทธ์การลงทุน
คงคำแนะนำ “เลือกซื้อรายตัว” หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / รับเหมาก่อสร้าง / สายการบิน และหุ้นเงินปันผลสูง เช่น กลุ่มสื่อสาร ที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดจากเม็ดเงิน LTF ที่ไหลเข้าสู่ตลาดในเดือน ธ.ค.
Portfolio Top Pick in 4Q14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI
HOLD: SAMART/ SPCG/ IFEC/ BTS/ SIM/ CK/ LPN/ VGI/ PTT/ KTB
Accumulate : INTUCH
Speculative Buy : AAV

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1. INTUCH : ราคาปิด 76.50 บาท ราคาเหมาะสม 114.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มสื่อสารจะตอบรับเชิงบวก หลังนายกฯเปิดเผยว่าจะสามารถเริ่มเปิดประมูลโครงข่ายระบบ 4G ได้ในปี 2558 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ADVANC ที่สัญญาสัมปทานบนคลื่น 900MHz จะหมดอายุลงในปี 2558
b) ราคาหุ้น INTUCH ยัง Laggard เมื่อเทียบกับ ADVANC โดย YTD หุ้น INTUCH +12.9% น้อยกว่า ADVANC ที่ +25.3% และ SET ICT +23.5%
c) และมี Discount จาก NAV สูงถึง 22.6% เมื่อเทียบกับ NAV จากการถือหุ้นใน ADVANC และ THCOM ที่หุ้นละ 98.87 บาท
d) ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีปีละ 6.9% ในปี 2558 และเพิ่มขึ้นเป็น 7.8% ในปี 2559
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
2. AAV : ราคาปิด 4.60 บาท ราคาเหมาะสม 4.90 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินจะได้รับ Sentiment บวกจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ NYMEX เมื่อคืนนี้ปรับตัวลง -US$2.79/barrel หรือ -4.2% dod เหลือ US$63.05/barrel
b) คาดผลประกอบการ 4Q57 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิ เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจท่องเที่ยว จึงส่งผลบวกโดยตรงต่อ Loading Factor ของ AAV ทั้งเส้นทางในประเทศ และเส้นทางต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจากจีนซึ่งเป็นฐานลูกค้าสำคัญของบริษัท
c) และราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวลงมากถึง -30.8% QTD ใน 4Q57 เหลือ US$63.05/barrel (สิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค.) ย่อมส่งผลบวกโดยตรงต่อต้นทุนเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญใน 4Q57 – 1Q58 และมีโอกาสที่จะเป็น Positive Surprise ให้กับตลาด
d) ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ที่ระดับเพียง PBV 2558 เพียง 0.84 เท่า และคาดว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโตสูงถึง +873.5% yoy เป็น 1,577 ล้านบาท

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!