- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 May 2014 15:20
- Hits: 3374
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ยังมีสิทธิผันผวนและลุ้นปรับย้อนได้ ดังนั้นรอซื้อลบดีกว่า...
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET ยังขยับบวกขึ้นต่อได้ดี แต่ก็มีจังหวะแกว่งผันผวนในระหว่างวัน ประกอบกับปัจจัยทางการเมืองยังไม่มีความชัดเจนมากนัก ทำให้ตลาดยังมีสิทธิแกว่งผันผวนและย้อนลงได้ ดังนั้นถ้าเทรดดิ้งสั้นต้องตามระวังแรงขายในจังหวะบวกไว้ด้วย อย่างไรก็ตามเราคาดว่า SET แกว่งผันผวนเพื่อรอดีดขึ้นต่อเนื่อง จึงยังแนะนำเลือกหุ้นทยอยซื้อเพิ่มในช่วงลบได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : NOK, TRC, DCC(buy back)
แนวโน้ม : ถึงแม้ว่าการเปิดเผยตัวเลขประมาณการ GDP ไตรมาสแรกครั้งที่ 2 ของสหรัฐเมื่อคืนนี้จะออกมาน่าผิดหวัง แต่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ค่อนข้างสดใสทั้งจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงเกินคาด และดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายปรับตัวขึ้นในเดือน เม.ย. ยังช่วยหนุนให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดเป็นบวกอยู่ได้ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังแกว่งตัวผันผวนทั้งด้านบวกและลบ ขณะที่ SET ก็ยังมีแรงขายในภาคบ่ายกดดันติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ทำให้ FSS ยังคาดหมายว่า SET จะมีจังหวะแกว่งย้อนลงก่อนอีกครั้งมากกว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์การเมืองจะค่อนข้างผ่อนคลายลงไปมาก แต่การที่ยังไม่มีกำหนดการชัดเจนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ รวมถึงยังไม่มีกรอบเวลาที่จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไปให้เห็น จึงน่าจะยังกดดันให้ SET ขยับขึ้นได้ในกรอบจำกัดและยังมีสิทธิที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมากดดันในช่วงบวกต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นเพื่อทยอยเข้าซื้อเพิ่มในช่วงตลาดเป็นลบไว้ก่อนเช่นเดิม นอกจากส่วนถือลงทุนจึงจะถือต่อเนื่องได้
แนวรับ 1405-1402 , 1398-1395 จุด แนวต้าน 1410-1413 , 1415-1420 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในปริมาณที่ค่อนข้างเบาบาง นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$147.4 ล้าน เกาหลีใต้ US$74.7 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$11.4 ล้าน และเวียดนาม US$5.9 ล้าน แต่ยังขายหุ้นไทย US$61.2 ล้าน ส่วนอินโดนีเซียปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้นิ่ง Flow น่าจะยังไหลเข้าแต่เบาบางต่อเนื่อง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) BGH การซื้อกิจการ 100% ในบจก.โรงพยาบาลสนามจันทร์ ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลในนครปฐมและเพชรบุรีรวมถึงมีหุ้นในบจก.โรงพยาบาลเทพากร 44.5% และ บจก.ก.วสุพล 25% โดยใช้เงิน 3.5-3.6 พันล้านบาท เป็นดีลที่ดีเพราะได้ขยายฐานลูกค้าไปภาคตะวันตก ซึ่ง BGH ยังไม่มีโรงพยาบาลในพื้นที่ดังกล่าว และไม่แพงเพราะหากตัดที่ดินเปล่าซึ่งยังไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกไป คิดเป็น PE 20-21 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มรพ.ที่ 24-25 เท่า คาดว่าดีลนี้จะแล้วเสร็จเดือน ก.ค. และเริ่มรวมงบการเงินเข้ามาเดือน ส.ค. ผู้บริหารคาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 150 ล้านบาทจาก 3 รพ.ดังกล่าว ประกอบกับการเน้นควบคุมต้นทุน ทำให้เราปรับกำไรปกติปี 2014-18 ขึ้น 6-15% ทำให้กำไรปกติปีนี้โต 21% ปีหน้าโต 20% สูงกว่ากลุ่มที่โตเฉลี่ย 18% เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 18.30 บาทจากเดิม 15.50 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือ
(+) GUNKUL เราปรับกำไรปกติปี 2014 และ 2015 ขึ้น 10.4% และ 14.4% ตามลำดับ โดยปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นจาก 21.5% ในปีนี้และปีหน้า เป็น 22.5% เพราะธุรกิจขายอุปกรณ์ไฟฟ้าในพม่าและในประเทศมีอัตรากำไรสูงกว่าคาด และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 16 บาท จาก 14.25 บาท ยังคงแนะนำซื้อ กำไรของ GUNKUL จะแกร่งยิ่งขึ้นใน 2-3 ปีข้างหน้าจากกำไรของธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะเพิ่มจาก 20% ของกำไรรวมในปี 2013 เป็น 80-90% ในปี 2016 หลังรับรู้รายได้เต็มที่จากโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 27MW (ไทย) โรงไฟฟ้า Gas Engine 50MW (พม่า) และโรงไฟฟ้าพลังงานลม 120 MW (ไทย)
(+) TTA แนวโน้มกำไรใน 2H14 (เม.ย.-ก.ย. 2014) จะดีขึ้นเพราะเข้าสู่ High season ของธุรกิจเมอร์เมดและ Baconco (ธุรกิจปุ๋ย) ธุรกิจเมอร์เมดจะใช้กำลังการผลิตสูงขึ้นและคาดอัตราค่าเช่าเรือเพิ่มขึ้น 35-40% Y-Y ส่วนธุรกิจ Baconco มีกำไรดีขึ้นเพราะต้นทุนวัตถุดิบปรับลง แต่ธุรกิจเรือเทกองมีแนวโน้มแย่ลงตามค่าระวางเรือที่ปรับลง เพราะเศรษฐกิจจีนที่โตชะลอ สำหรับแผนนำบ.ลูก PMTA (TTA ถือ 100%) ซึ่งถือหุ้น 100% ใน Baconco เข้าตลาดฯ คาดไม่เกิน 1 ปีหลังยื่น Filing ในเดือน ก.ย. นี้ โดยจะขายหุ้น IPO ให้แก่ผู้ถือหุ้น TTA เท่านั้น เรายังแนะนำซื้อจากผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวโดยมีธุรกิจเมอร์เมดผลักดันกำไรปีนี้ และเรือเทกองผลักดันกำไรปีหน้า ยังคงเป้าหมาย 25 บาท
(+) IPO ล่าสุด ‘PCA’ บมจ. แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิตอลทีวี โดยเป็นทั้งตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตชั้นนำต่างๆทั่วโลก เช่น CISCO, CODAN, Panasonic และผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อบริษัทเอง คือ “PlanetComm” เราคาดกำไรปกติปี 2014 โตสูง 47.2% Y-Y ได้แรงหนุนจากรายได้ขายเครื่อง Set Top Box ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนถึง 34.7% ของรายได้รวม เราประเมินมูลค่าหุ้นที่ 4.42 บาท อิง PE 11.5 เท่า (FSS เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ PCA)
(0) การเปลี่ยนแปลงหุ้นที่คำนวณใน MSCI มีผลวันนี้ การปรับเปลี่ยนหุ้นที่คำนวณในดัชนี MSCI ที่จะใช้ในรอบ 3 เดือนข้างหน้า (มิ.ย.-ส.ค.) หุ้น Big cap มีเพิ่ม 1 ตัวคือ BH ไม่มีหุ้นเอาออก ส่วนหุ้น Small Cap เพิ่ม 4 ตัว (BJCHI, MEGA, NYT, TTCL) เอาออก 6 ตัว (BH, GSTEL, GRAMMY, SITHAI, TUF, UMI) มีผล 30 พ.ค. 2014
ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับปรับตัวขึ้นได้ 65.56 จุด โดยนักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีหลังจากที่ไตรมาสแรกหดตัว นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลง
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดทรงตัว โดยนักลงทุนจับตาท่าทีของ ECB ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหรือไม่ รวมถึงตัวเลข GDP 1Q14 ของสหรัฐกดดันการขึ้นของตลาด
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นเช้านี้ที่ออกมาอยู่ในระดับที่รับได้
ค่าเงินบาทขยับอ่อนค่าลงต่อจากกรแสเงินทุนที่ยังไหลออกต่อเนื่อง คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.64-32.85 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.86 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 103.58 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยปัจจัยฝั่งอุปทานยังกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนและลิเบีย
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ยังร่วงอีก 2.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,257.10 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยระหว่างวันปรับลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือน หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนลดการถือสินทรัพย์ปลอดภัย
Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852