- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 08 December 2014 16:55
- Hits: 2023
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (1-4 ธันวาคม 57)
SET มีการเคลื่อนไหวทรงตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากภาพรวมที่ขาดปัจจัยบวกที่โดดเด่น พร้อมการรอดูการประชุม ECB ที่กำลังจะมีขึ้น และการรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ ในช่วงปลายสัปดาห์ส่งผลให้แรงซื้อมีเข้ามาไม่มากนัก ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ปิดสัปดาห์ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.18จุด ปิดที่ 1,597.76ด
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(+) ภาพรวมตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 321,000 ราย เป็นอัตราเร็วที่ในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่อัตราว่างานยังคงทรงตัวอยู่ที่ 5.8% อัตราต่ำสุดในรอบ 6 ปี
(+) ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ลดความกังวลต่อปัญหาเงินเฟ้อ สร้างสัญญาณบวกต่อการดำเนินนโยบายการเงินทีผ่อนคลาย
(-) S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลอิตาลี ทั้งระยะสั้นและระยะยาวลงหนึ่งจุด ไปอยู่ที่ 'BBB-/A-3' จาก 'BBB/A-2'เพราะวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และหนี้สาธารณะ
(-) ผลการประชุม ECB สัปดาห์ก่อน อีซีบีจะประเมินมาตรการกระตุ้นทางการเงินรอบใหม่ในต้นปีหน้า ซึ่งเป็นท่าทีที่สวนทางกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่คาดว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม
(+/-) กมธ.ปฏิรูปการเมืองของสปช.มีความเห็นตรงกันว่า ให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.)โดยตรง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
(+/-) การประชุมรมว. คลังของยุโรป ต่อแผนงบประมาณปีหน้า
(+/-) เกียวโตนิวส์รายงานว่า ผลการสำรวจคะแนนนิยมก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่น วันที่ 14 ธ.ค พรรคนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีรักษาการ มีคะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง
(+/-) กระแสเงินลงทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี
(+/-) จีนรายงานตัวเลขนำเข้าส่งออก และตัวเลขเงินเฟ้อ
(+/-) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ Retail Sales และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
(+/-) กระแสการคาดหมายแนวโน้มดอกเบี้ยของไทยก่อนการประชุม MPC ในสัปดาห์หน้า
ความคิดเห็น
ดัชนีในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแกว่งตัว โดยมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ หลังการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาในระดับดี ลดความผิดหวังจากการประชุม ECB ขณะที่ภาพรวมในช่วงกลางสัปดาห์ยังไม่มีปัจจัยที่ชัดเจนส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ด้านในประเทศ แนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นพร้อมแรงซื้อของกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี ติดตามประเด็นรถไฟรางคู่ และการส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ย เน้นหุ้น การบริโภคในประเทศ อสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 8-12 ธ.ค.57
SET Closed 1,597.76 High : 1,600.29 Low : 1,586.23
Resistant : 1,605 , 1,620 Support : 1,585, 1,590
กราฟ SET สัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวแคบๆ ระหว่าง 1585-1600 จุดและไร้ทิศทางที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามยังสามารถรักษาระดับแนว Up trend line ได้ และหากราคาปิดวันใดสามารถเหนือ 1602 จุดได้ จะทำให้เกิด buy signal ตามมาในกราฟแท่งเทียน ขณะที่ MACD ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดสัญญาณขายตาม double top อย่างไรก็ตามสัญญาณปรับขึ้นมีความได้เปรียบ เนื่องจากอยู่ใกล้ระดับ break new high ดังนั้นให้มองฝั่งปรับขึ้นเป็นโอกาสที่ดี
กลยุทธ์
1. ซื้อ หรือถือหุ้นต่อไป และไปขายเมื่อใกล้ 1620 จุด
2.หาก SET ไม่ปรับตัวลงจนหลุด 1585 จุด ยังคงแนะนำให้ถือหุ้นต่อไป
3. หากหลุด 1585 จุด ให้ลดน้ำหนัก และไปตั้งรับที่ 1560 สำหรับการเล่นแบบ technical rebound
4. หากหลุด 1560 จุด ให้ลดน้ำหนักปริมาณมาก ราฟแท่งเทียนดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ รวบสัญญาณจาก Sell กลับเป็น Buy ในทันที โดยทำให้ RSI ดีดตัวขึ้น และกราฟจะไต่ระดับเหนือแนวเส้นกากบาท อีกทั้งมีโอกาสที่จะวิ่งขึ้นเหนือแนวจุด parabolic เข้าไปใกล้ 1,590 อีกครั้งหนึ่ง หรือหากมีการปรับตัวลงในระหว่างสัปดาห์เราก็เชื่อว่ายังคงผลักและดันกันในแนว Free Zone เว้นแต่หลุดแนวกากบาทล่างจึงจะเป็น Sell signal สรุป แนวขึ้นได้เปรียบในสัปดาห์นี้
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์
PS ราคาปิด 31.25 บาท
•คาดกำไรทั้งปี 57 เติบโตกว่าปี 56 ราว 15% ผลจากยอดโอนคอนโดและบ้านเดี่ยวน่าพอใจ
• Backlog อยู่ในระดับสูงถึง 4 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้ไปถึงปี 59
•จุดเด่นของ PS คือการส่งมอบบ้านได้เร็วขึ้น จากระบบ precast ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเองทำให้ลดระยะเวลาก่อสร้างลงราว 30%
•Q4 เตรียมเปิด 10 โครงการใหม่ ขณะที่ปี 58 คาดกำไรทุบสถิติ หวังการลดดอกเบี้ยของ ธปท. ได้อานิสงส์เต็มๆ เนื่องจากราคาบ้านของ PS เหมาะกับผู้บริโภคที่เป็นคนทำงานระดับกลาง แนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมาย 39 บาท Upside 25%
กราฟ PS อยู่ในช่วงของการปรับฐาน โดยสร้างรูปกระทะคว่ำ และมีแนวรับที่ 30.50 บาท เราเชื่อว่าแนวดังกล่าวเป็นจุดซื้อที่น่าสนใจ เนื่องจาก RSI เกิดภาพ Bullish divergence แล้ว เป็นสัญญาณของการสะสมหุ้นเมื่ออ่อนตัว
กลยุทธ์
1.ตั้งรับที่แนว 30.50 บาท และรอจังหวะของการ rebound
2.หากหลุดแนวรับ ยังแนะนำให้สะสมเพิ่มเนื่องจาก RSI อยู่ระดับต่ำ และมี down side จำกัด
3.หากฟื้นตัวผ่าน 32 บาทแนะนำให้ซื้อเพิ่ม และไปแบ่งทำกำไรที่แนวต้าน 34 บาท
