- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 December 2014 17:32
- Hits: 2272
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งในกรอบแคบ ปิดบวกเล็กน้อย 0.18 จุด มาอยู่ที่ 1,594.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,837 ล้านบาท โดยหุ้น PTT / PTTEP ฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่กลุ่มธนาคาร / AOT ถูกแรงขายทำกำไรมากขึ้น
เงินทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 555 ล้านบาท แต่คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 6,995 สัญญา และขายตลาดตราสารหนี้มากถึง 5,018 ล้านบาท สะท้อนกระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลาง เมื่อภาวะการลงทุนไม่ชัดเจน
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•กบง. ประกาศขึ้นราคาก๊าซ LPG / NGV อีก 1.00 บาท/กก. ซึ่งจะเป็นบวกต่อ PTT เพราะทุกๆ 1 บาทของการขึ้นราคาก๊าซ NGV จะให้มูลค่าเหมาะสมของ PTT เพิ่มขึ้น 10 บาท ซึ่งน่าจะชดเชยกับผลกระทบของราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับต่ำ
•เช้านี้ติดตามตัวเลข PMI ภาคบริการเดือนพ.ย. ของจีน
•คืนนี้ติดตามรายงานภาวะการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดจ้างงานเพิ่ม 2.22 แสนตำแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.30 แสนตำแหน่ง
•และรายงาน Beige Book ของเฟด ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินทิศทางการประชุมเฟดในปลายเดือนธ.ค. ว่าจะส่งสัญญาณอย่างไรต่อช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้า
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น 'กลางถึงบวก'เป็นวันที่ 8 ประเมิน SET INDEX ยังคงแกว่งระหว่าง 1,590-1,600 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายระดับ 4.0-5.0 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับ 2 วันทำการก่อนหน้า แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะทรงตัวดีขึ้น แต่ทิศทางของราคาน้ำมันดิบยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่กลุ่ม Domestic Play อย่างกลุ่มธนาคาร / ICT / วัสดุก่อสร้าง / รับเหมาก่อสร้าง / การท่องเที่ยว จะยังเป็นเป้าหมายการสะสมของสถาบันทั้งในและต่างประเทศ เพียงแต่เป็นการทยอยสะสม มากกว่าจะเป็นการไล่ราคาซื้อ เพราะภาพรวมยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุนการลงทุน
ทั้งนี้ นักลงทุนทั่วโลก ต่างรอดูผลการประชุม ECB ในเย็นวันพรุ่งนี้ หากประเมินจากตัวเลขเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อของอียู ย่อมเป็นแรงกดดันต่อ ECB ที่จะต้องเพิ่มมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและนอกกลุ่มอียู ขณะที่EC ต้องเร่งการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นการจ้างงาน และการลงทุนจากภาคเอกชน เราเชื่อว่าทั้ง ECB และ EC จะต้องเร่งออกมาตรการต่างๆ ในช่วงนี้จนถึง 1Q58 ซึ่งจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
กลยุทธ์การลงทุน
เราแนะนำให้ “เก็งกำไรต่อหุ้นขนาดกลาง – ใหญ่ ที่ผลการดำเนินงานใน 4Q57 เติบโตเด่น และมีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่องในปีหน้า” เป็นทางเลือกของการเก็งกำไร
Portfolio Top Pick in 4Q14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI
HOLD: SAMART/ SPCG/ IFEC/ BTS/ SIM/ CK/ LPN/ VGI/ PTT/ KTB
Speculative Buy: DEMCO / ITD
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1.ITD : ราคาปิด 8.00 บาท ราคาเหมาะสม 8.50 บาท
a)ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ หลังผู้บริหารคาดว่า ITD จะมีการลงนามสัญญาพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวายเฟสแรกกับรัฐบาลพม่าภายในเดือน ธ.ค. โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาพื้นที่ส่วนเพิ่มอีก 7 ตร.กม. หลังรัฐบาลเห็นชอบแล้ว 28 ตร.กม. เป็น 35 ตร.กม. หรือราว 17,400 ไร่
b)มีมุมองเชิงบวกจากแผนร่วมทุนกับ EGCO เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าทวาย โดย EGCO และ ITD จะถือหุ้นในสัดส่วน 70 : 30 แบ่งเป็นเฟสแรก 100 MW และเพิ่มเป็น 300 MW ในเฟสที่สอง
c)ITD จะได้ประโยชน์ถึง 2 ทาง ได้แก่ ค่าก่อสร้างโรงไฟฟ้าราว 1.8 หมื่นล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรในสัดส่วน 30% จากธุรกิจโรงไฟฟ้าซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวอย่างมั่นคง และคาดว่า ITD จะไม่ต้องจ่ายเงินสดในการลงทุน เนื่องจากจะใช้การโอนสิทธิที่ ITD ลงทุนพัฒนาโครงการทวายไปแล้วก่อนหน้าราว 6 พันล้านบาท เพื่อเปลี่ยนเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวแทน
d)คาดกำไรปกติปี 2558 ขยายตัว +56.9% yoy เป็น 904 ล้านบาท และราคาเหมาะสมของเรายังไม่รวม Upside Risk ที่มีนัยสำคัญ คือ โครงการเหมืองโปรแตซ (APPC) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอประทานบัตรเหมืองและคาดว่าจะได้ข้อสรุปในต้นปี 2558 คิดเป็นมูลค่าส่วนเพิ่มต่อหุ้น ITD สูงถึง 13.00 บาท
2.DEMCO : ราคาปิด 14.40 บาท ราคาเหมาะสม 17.00 บาท
a)MBKET แนะนำ “ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น” สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เพื่อคาดหวังการรีบาวน์ หลังราคาหุ้น DEMCO ปรับตัวลงแรงถึง -17.7% ใน 2 วันทำการที่ผ่านมา
b)เนื่องจากประเมินว่าผลกระทบของผู้บริหาร WEH เป็นปัญหาส่วนตัว แม้ว่าอาจส่งผลให้การ IPO ของ WEH อาจล่าช้าออกไป แต่จะไม่กระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจ EPC ของบริษัท
c)เพราะ Backlog ปัจจุบันของ DEMCO รวมเพียง 2 โครงการพลังลมที่เขาค้อ และวะตะแบกซึ่งได้รับ PPA แล้ว และยังไม่รวมอีก 5 โครงการ ใน จ.นครราชสีมา
d)และมีโอกาสที่ DEMCO จะได้งานเพิ่มเติมจาก EA / IFEC หากโครงการที่เหลืออีก 5 โครงการของ WEH ล่าช้าออกไป เนื่องจากโครงการพลังงานทางเลือกมีงานรออยู่อีกเป็นจำนวนมากเพราะเป็นเป้าหมายในระยะยาวของประเทศที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเป็น 25% ภายใน 10 ปีข้างหน้า
e)นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะผันตัวเองไปสู่การเป็นเจ้าของโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งจะสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว และเป็นธุรกิจที่ยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการของเรา
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$245 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$179 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX -269.4 -181.3 14,045.5 9,188.0
KOSPI n.a n.a 7,772.9 4,875.1
JSE 13.2 5.6 4,419.1 -1,806.4
PSE -1.0 3.0 1,386.4 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -4.5 -5.0 122.4 263.2
SET INDEX 16.9 -1.0 -232.5 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเริ่มทยอยขายทำกำไร
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +555 -32
SET50 Index Futures (สัญญา) -6,995 -7,134
SSF (สัญญา) +1,085 +2,254
Metal Futures (สัญญา) +1,125 -563
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -5,018 +1,058
แม้ว่านักลงทุนต่างชาติ จะกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 555 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเล็กน้อย เหลือ 9,175 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 14,129 สัญญา เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 24,505 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long เพื่อทำกำไร เมื่อ S50Z14 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 8 กว้างขึ้นเป็น 3.16 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 2.37 จุด
ด้านตลาด Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ 1,125 สัญญา เทียบกับ 4 วันทำการ Short สุทธิ 1,022 สัญญา เทียบกับ 12 วันทำการ Long สุทธิไปทั้งสิ้น 8,151 สัญญา คาดว่าเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long อีกครั้ง เมื่อ ราคาทองคำกลับมายืนเหนือ US$1,200/ounce ได้อีกครั้ง
ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยอีกครั้ง 5,018 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พันธบัตรอายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลงเป็นวันที่ 5 อีก 0.62bps ปิดที่ 2.941%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เท่ากับ 497 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 611 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 138.74 5.24% 365.87
TRUE 102.04 3.58% 12.44
PTTEP 60.32 5.23% 132.56
AOT 27.95 4.12% 285.18
SCB 26.67 3.85% 195.66
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิ เป็นวันที่ 25 เน้นกลุ่ม ICT แต่ขายกลุ่มธนาคาร
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิอีก 1,295 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,816 ล้านบาท รวม 25 วันทำการ NVDR ซื้อสุทธิ 31,376 ล้านบาท ภาพการลงทุน NVDR สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่ม ICT ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 422 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 15 บาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 253 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 279 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 229 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 500 ล้านบาท กลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 185 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 182 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 179 ล้านบาท
2.กลุ่มธนาคาร ถูกขายสุทธิสูงสุด 270 ล้านบาท และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 48 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
ADVANC 324.58 25.80 KBANK -239.02 57.01
JAS 274.10 15.35 BBL -121.36 20.92
PTTGC 253.64 12.62 DTAC -107.09 25.02
PTT 132.01 7.66 SAMART -75.77 23.69
LH 119.24 47.90 KTB -58.05 7.92
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong