- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 27 November 2014 16:37
- Hits: 1692
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนเชิงบวก
เมื่อวานนี้ตลาดไทยถูกแรงขายทำกำไรบริเวณ 1600 จุดตรงตามที่เราบอกไว้สัปดาห์ก่อน สำหรับวันนี้ตลาดไทยมีโอกาสขยับขึ้นได้อีกครั้งแต่จะยังยากที่จะผ่าน 1600 จุดได้ เนื่องจากอาจมีแรงขายทำกำไรเข้ามาอีก เพราะตลาดส่วนใหญ่ยังขาดปัจจัยใหม่ๆมาสนับสนุนนอกจากเรื่องการเก็งกำไรประเด็นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของยุโรปแล้ว ซึ่งก็ต้องรอความชัดเจนเพิ่มเติม ขณะเดียวกันตลาดจะได้รับผลบวกจาก sentiment ของดัชนีดาวโจนส์ที่ปรับขึ้นทำกำไร หลังตัวเลข consumer confidence ปรับขึ้นสูงในรอบ 7 ปีในสหรัฐ
แนวรับ/แนวต้าน : 1580/1600
กลยุทธ์ : ทยอยสะสมหุ้นเพิ่มขึ้น หากดัชนีย่อตัวลงแรง เนื่องจาก Target ปลายปียังคงอยู่ที่ 1600 จุด
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
นักลงทุนระยะสั้น : KBANK(290), IFEC(18)
นักลงทุนระยะยาว : SAMART(40), AMATA(18.80)
จับข่าวมาเก็งกำไร
AMATA : เราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะอยู่ในระดับสูงสุดในไตรมาสที่ 4/57 ที่ 897.2 ล้านบาท สนับสนุนโดยการโอนที่ดินจำนวนมากที่ย้ายจากในไตรมาสที่ 3/57 เป็นในไตรมาสที่ 4/57 เราเชื่อว่าตลาดยังไม่ได้สะท้อนเป้าหมายการขายที่ดินจำนวน 1,000 ไร่ในปี 2557 ซึ่งหากบริษัทสามารถบรรลุเป้าหมาย จะเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักต่อราคาหุ้น คงคำแนะนำ ซื้อ จากมูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูดใจ และศักยภาพของการลงทุนที่ซ่อนอยู่ เช่น การขาย RBF ให้กับ REIT และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ อมตะ VN ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 18.80 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
+ พาณิชย์เผยส่งออกเดือน ต.ค. ขยายตัว 3.97% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังตลาดหลักโตเกินคาด เฉลี่ย 10 เดือนยังติดลบ 0.36% มั่นใจทั้งปี "ไม่ติดลบ" ส่วนปีหน้าโต 4% ขณะญี่ปุ่นแนวโน้มลดลง ทางด้าน “ประยุทธ์” เล็งแจกคูปองคนจนซื้อสินค้าถูก เร่งแจกที่ดิน 7 แสนไร่ ใน ธ.ค.นี้ สั่งคลังใช้สหกรณ์แก้สลากราคาแพง "หม่อมอุ๋ย" ชี้ต่างชาติสนตั้งสำนักงานใหญ่ในไทย ทางด้านหอการค้าเตือนต้องเร่งแก้ปัญหาแรงงานด้วย
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,827.75 จุด เพิ่มขึ้น 12.81 จุด หรือ +0.07%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) ขานรับข้อมูลในด้านบวกของสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ต่างก็ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนต.ค. ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 73.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าโอเปคจะปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันลงหรือไม่ หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา