- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 26 November 2014 16:53
- Hits: 1521
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -2.96, NASDAQ +3.36, S&P -2.38, FTSE +1.35, CAC +13.87 และ DAX +75.67 โดยตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจมีทั้ง + / - โดย (1) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค - พย. อยู่ที่ 88.7 ลดลงจาก 94.1 เมื่อตค. และสวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 96.0 (2) ดัชนีราคาบ้าน – กย. เพิ่มขึ้น 4.9%yoy ชะลอตัวจากที่เพิ่มขึ้น 5.6%เมื่อสค. และ (3) ประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP – 3Q/57 ขยายตัว 3.9% ดีขึ้นจากประมาณการครั้งก่อนหน้าที่ 3.5% และดีกว่าที่คาดว่าจะขยายตัว 3.3%
.....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มจากตัวเลข GDP – 3Q/57 ของเยอรมัน ขยายตัว 0.1% ดีขึ้นหลังจากหดตัว 0.1%เมื่อ 2Q/57
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มค. -US$1.69 อยู่ที่ US$74.09 ต่อบาร์เรล ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยอยู่ระหว่างรอการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในวันพฤหัสบดีนี้ (27/11/57) ซึ่งก่อนหน้ามีการประเมินว่าโอเปคอาจจะลดเพดานการผลิตลงประมาณ 1.0 - 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อหนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้น
....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$1.4 อยู่ที่ US$1,197.1 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,260 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -10,297 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : มีโอกาสทดสอบ 1,600 จุด? แม้ตลาดต่างประเทศยังเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง แต่คาดได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นในประเทศ โดยเฉพาะน้ำหนักจาก Fund Flow ที่คาดยังเป็นบวก หลังมีแรงซื้อสุทธิต่างชาติล่าสุดอีกเกือบ 1,300 ล้านบาท รวมถึงปัจจัยหนุนต่อเนื่องจากสถาบันในประเทศ (LTF / RMF) อย่างไรก็ตามคาดภาพรวมของ Fund Flow ยังมีความผันผวนหลังแรงซื้อ / ขายสุทธิจากต่างชาติสลับกันไป และเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว (เดือนธันวาคม) ซึ่งคาด Fund Flow อาจชะลอตัวบ้าง และยังแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งคาดเป็นปัจจัยหนุนตลาดหลังจากนี้ไป หลัง GDP – 3Q/57 เติบโตต่ำกว่าคาด
....รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี ’58 – ’65 ซึ่ง ครม. อนุมัติเมื่อ 21/10/57 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว โดยล่าสุด (18/11/57) ครม. อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางหนองคาย – มาบตาพุด ระยะทาง 867 กม. ระหว่างไทย – จีน ด้วยวิธี G to G เงินลงทุน 400,000 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปี’59
....นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.05 อยู่ที่ 2.26% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.37 อยู่ที่ 12.25
หุ้นแนะนำ : KBANK
ประเด็นที่ต้องติดตาม (26 - 28 พย.’57)
26/11/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) รายได้ส่วนบุคคล - ตค. (2) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - ตค. (3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก - พย.(4) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - พย. (5) ยอดขายบ้านใหม่ - ตค. (6) สต็อกน้ำมันราย
27/11/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
28/11/57 : ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788