- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 29 May 2014 15:43
- Hits: 4001
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
HIGHLIGHT วันนี้ต้องปิดเหนือ 1,410 จุด เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณขาย ขณะที่ต่างชาติยังมีโอกาสขายต่อ
SET View
ประเด็นหลักวันนี้ ในทางเทคนิควันนี้ SET จำเป็นต้องปิดเหนือ 1,410 จุดให้ได้เพื่อยืนยันสัญญาณซื้อ โดยมีเป้าหมายที่ 1,450 จุดในระยะสั้นไม่เกิน 1 สัปดาห์ และเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสัญญาณการพักตัวในรูปแบบ “Triple Top” ทั้งนี้ถ้า SET ไม่สามารถปิดเหนือ 1,410 จุดได้วันนี้ เราประเมินว่าจะส่งผลให้ SET ลงไปสร้างฐานในกรอบ 1,380-1,350 จุดอีกครั้ง เนื่องจากเรายังคงมุมมองเดิมว่าแรงกดดันจากการขายของนักลงทุนต่างชาติจะยังคงมีอยู่ต่อไปจนกว่าจะมีความชัดเจนทางการเมืองใน 3 ประเด็น 1) เมื่อไรจะมีการยกเลิกกฎอัยการศึก หรือกฎหมายที่จำกัดสิทธิบุคคล 2) ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และ 3) การเลือกตั้งครั้งใหม่จะมีหรือไม่ และเมื่อไร ดังนั้นในเชิงของกลยุทธ์เราให้น้ำหนักกับการรอเข้าซื้อในช่วงที่ SET พักตัวลงมาอีกครั้งมากกว่าการไล่ซื้อในช่วงที่ SET ดีดตัวขึ้น โดยที่เรายังคงประเมินเป้าหมายของ SET ใน 2H57 ไว้ที่ 1,570 จุด
ในวันนี้ และพรุ่งนี้คาดว่ามีจะแรงซื้อ และขายเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มที่ถูก MSCI ปรับเข้า และออกจากคำนวณในดัชนีในช่วง มิ.ย.-ส.ค.2557 ซึ่งทั้งหมดจะมีผล 30 พ.ค.2557 โดยที่ในส่วนของ MSCI Global Standard มีหุ้น BH ได้รับการปรับเข้าคำนวณ และในส่วนของดัชนี MSCI Global Small-Cap มีหุ้น BJCHI, MEGA, NYT และ TTCL ที่ถูกปรับเข้าคำนวณ และมีหุ้น BH, GSTEL, GRAMMY, SITHAI, TUF และ UMI ถูกปรับออก นอกจากนี้เราประเมินว่าน่าจะเริ่มมีแรงเก็งกำไรไปยังหุ้นกลุ่มที่มีโอกาสถูกปรับเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ช่วงครึ่งหลังของปี (ก.ค.-ธ.ค.2557) ซึ่งจะมีการประกาศกลาง มิ.ย.2557 ด้วย เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำกว่ากรณีนักลงทุนต่างชาติขายต่อ โดยที่ในเบื้องต้นประเมินว่าจะมี M และ KKP ที่ถูกนำเข้าคำนวณ และมี CK และ THAI ถูกปรับออก ในส่วนของ SET100 ที่จะประกาศพร้อมกัน ในอดีตพบว่าผลตอบแทนก่อน และหลังประกาศผลของหุ้นในกลุ่มที่ถูกปรับเข้า และออกไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
กลยุทธ์การลงทุน การลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) กรณีที่ SET ยังกลับไปปิดเหนือ 1,410 จุดไม่ได้ แนะนำ “ถือเงินสด 100%” ต่อไป ขณะที่การลงทุนระยะกลาง (3-6 เดือน) แนะนำ “รอเพิ่มพอร์ตหุ้น” จากเดิม 50% มาเป็น 75% ในกรอบ 1,350-1,330 จุด โดยยังคงเน้นหุ้นกลุ่ม “Value Investing” ได้แก่ AP, SIRI, HEMRAJ, AAV, MAJOR, ESSO และ SAMART
Stock Picks
AP (+) เราคาดผลประกอบการของ AP มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องและทำระดับสูงสุดใน 4Q57 จากงานในมือมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท ผนวกกับแผนโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมีเนียมอีก 6 แห่ง ขณะที่ยอดขายใน 2Q57 ค่อนข้างดีจากยอดขายโครงการคอนโดมีเนียมใหม่ 3 แห่ง ที่มียอดขายเฉลี่ย 38% หลังเปิดตัว 1 สัปดาห์ หรือประมาณ 3 พันล้านบาท ระดับราคาหุ้นที่ซื้อขายที่ PER 7 เท่า ถือว่าถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มฯที่มีค่าเฉลี่ย PER 10 เท่า อีกทั้งหุ้นยังให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงกว่าราว 5 - 6% ต่อปี มูลค่าเหมาะสมที่ 6.70 บาท แนะนำ “ซื้อ”
SAMART (+) เราประเมินปัจจัยพื้นฐาน SAMART รวมกรณีที่งานประมูลโครงการภาครัฐชะลอไปอาจทำให้กำไรของ SAMTEL ลดลง โดยในกรณีแย่ที่สุดพบว่าจะกระทบมูลค่าเหมาะสม SAMART ลดลงเป็น 24.40 บาท ซึ่งยังมี Upside จากราคาตลาดปัจจุบัน นอกจากนี้ ราคาหุ้น SAMART ที่ซื้อขายถูกว่าบริษัทลูก รวมทั้งคาดว่าจะยังจ่ายเงินปันผลที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3-4% และมูลค่าเหมาะสมรวมกรณีแย่ของ SAMTEL ยังมี Upside 22% จากราคาปัจจุบัน ทำให้หุ้น SAMART มีโอกาสฟื้นตัวเร็วกว่าบริษัทลูก มูลค่าเหมาะสมที่ 27.40 บาท แนะนำ “ซื้อ”
Technical Plays
SET เมื่อวานนี้ ปิดเป็นแนวโน้มแกว่งตัวบวก โดยในทางเทคนิคเราคาดว่าวันนี้ SET จะอยู่ในกรอบ 1400-1415 จุด กรณี SET สามารถยืนเหนือระดับ 1,400 จุด จะทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังเป็นการแกว่งตัวแบบขาขึ้นได้ มีแนวต้านแรก 1,415 จุด ถัดไป 1425 จุด (ส่วนต่ำกว่า 1400 จุด จะเป็นสัญญาณขาลง )