- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 24 November 2014 17:22
- Hits: 2449
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
บวกจากจีน-ยุโรปกระตุ้นเศรษฐกิจ
Top Picks-Fund Jan-12: Fundamental : AOT, CK, PS, SCC, TUF Dark Horse: MINT, SCB
Top Picks -Fund Today: TMB
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, BCP, BTS, BTSGIF, CSL, CPNRF, DCC, DELTA, DTAC, INTUCH, MK, MODERN, SPALI, TISCO, TMT, TFUND
Shot Sell-Prev : MCOT 38% EGCO 18.3% BEC 16.1% CENTEL 13.5%
Technical View สัญญาณ Candlestick & Indicator เปลี่ยนเป็นบวกเหนือ SMA 10 วัน มีโอกาสรีบาวด์ได้ การเก็งกำไร เน้นซื้อเมื่อเป็นค่าบวกเท่านั้น
Support Resistance Stop loss
SET 1560,1550 1585,1590 ค่าลบ
SET50 1040,1035 1060,1070 ค่าลบ
Top Picks-Tech Today : TMB,PREB.SAMART,PTT,RS,BECL,EPCO,TWP
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน: วันศุกร์ดัชนีฯปรับตัวดีขึ้นเกินคาด +10.52 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ระดับ 1,579.20 จุด ปริมาณการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 60.2 พันล้านบาท สอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคแถบนี้ ปัจจัยต่างประเทศที่เป็นบวกคือสหรัฐเรื่องราคาบ้านมือสอง แม้ตัวเลขภาคการผลิต (PMI) พ.ย.หลายประเทศน่าเป็นห่วงคือ สหรัฐ ยุโรป และจีน แต่ที่ดีช่วงบ่ายคือ จีนประกาศลดดอกเบี้ย ด้านปัจจัยในประเทศที่เป็นบวกคือ ข่าวต่ออายุ LTF ด้านผู้ซื้อสุทธิคือ สถาบันและต่างประเทศ ส่วนขายสุทธิคือพอร์ตโบรกเกอร์ และรายย่อย สำหรับวันนี้ คาดว่าข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและยุโรปจะเป็นบวกกับดัชนีฯในระยะนี้ อีกทั้งข่าวกระทรวงการคลังอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนสิ้นปี ก็เป็นแรงเสริมทางบวกอีก ส่วนเรื่องบวกเดิมๆคือ ตลาดยังมีความหวังกับแรงซื้อของกองทุน LTF ในช่วง 1-2 เดือนสุดท้ายของปี และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ & กำไรบจ.ในปี 58 นอกจากนั้น Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาค แต่ก็พร้อมที่จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา หลังช่วงนี้ดัชนีฯปรับขึ้นดี ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง จึงแนะนำว่าการเก็งกำไรไม่ควรหวัง Gap ที่มาก เน้นซื้อค่าบวก หากเป็นลบจะดูไม่ดี ส่วนการซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาวควรเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี เพื่อป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อน หุ้นพื้นฐานแนะนำในวันนี้เป็น TMB
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดในระยะสั้นยังเป็นลบ หากต้องการเก็งกำไร การซื้อใหม่จึงยังควรเป็น Follow Buy ด้วยค่าบวก แต่หากเป็นลบดูไม่ค่อยดี เพราะมีสิทธิอ่อนตัวลงต่อไปยังแนวเด้ง 1560, 1550 แต่ถ้ายืนเหนือ SMA10 ได้ก็ลุ้นถือต่อ หุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high ที่ยังอยู่ใน List คือ RATCH, KTIS, FSMART, AJD, CTW หุ้นที่เข้ามาใหม่ เป็น BECL,INTUCH,RS หุ้นที่หลุด List MK ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ AMATA, UNIQ, TMB
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
+ จีน:วันศุกร์ประกาศลดดอกเบี้ย ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.4% เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีผลตั้งแต่วันเสาร์นี้ (สำนักข่าวซินหัว) เราคาดว่าเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เผชิญความกังวลว่าจะชะลอตัวลงกว่าคาด
+ ยุโรป: เร่งอัตราเงินเฟ้อนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวย้ำว่าอีซีบีจะเร่งผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวขึ้นเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ญี่ปุ่น: นายกฯประกาศยุบสภาเมื่อเช้าวันศุกร์ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การยุบสภาเลือกตั้งก่อนกำหนดนั้นเป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อหาเสียงสนับสนุนชุดนโยบาย "อาเบะโนมิกส์" และการตัดสินใจของเขาในการเลื่อนการขึ้นภาษีการขายออกไปเพื่อป้องกันเศรษฐกิจตกต่ำลงอีก
+ ดาวโจนส์: ทำสถิติสูงสุดรับข่าวธ.กลางกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 91.06 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 17,810.06 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 10.75 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 2,063.50 ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 11.10 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 4,712.97 จุด
+ ราคาน้ำมัน: ปรับขึ้นหวังจีนนำเข้าน้ำมันเพิ่ม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 76.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 80.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.เช่นกัน
+ ทองคำ: ดีดขึ้นรับข่าวกระตุ้นเศรษฐกิจ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 6.8 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1,197.7 ดอลลาร์/ออนซ์
- ดัชนีค่าระวางเรือ: ปรับลงเล็กน้อย ปิดตลาดวันศุกร์ลดลง 8 จุด หรือ -0.6% ปิดทำการที่ 1,324 จุด
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
+ กระทรวงการคลัง: ดันแพ็คเกจ ลดดอกเบี้ย-ภาษี ตามข่าวคือ ภายใน 3 สัปดาห์ เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่ก่อให้เกิดหนี้ครัวเรือน เช่น แบงค์รัฐลดดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อย จัดตั้ง "นาโนไฟแนนซ์" ทดแทนการกู้นอกระบบ และขยายเพดานลดภาษีนิติบุคคล-เอสเอ็มอี แม้ต้องสูญเสียปีละกว่าหมื่นล้านบาท
+รับเหมาก่อสร้าง: รถไฟทางคูไทย-จีน คมนาคมมั่นใจพรุ่งนี้ ได้พิจารณาร่าง MOU ไทย-จีน ทำรถไฟทางคู่ หนองคาย-กรุงเทพฯ วงเงินลงทุน 4 แสนล้านบาท เผยเบื้องต้นวางเงื่อนไขเป็นกรอบกว้าง เพื่อง่ายต่อการเจรจา แต่ยังไม่เปิดเผยการลงทุน เราคาดว่าหลักทรัพย์ผู้รับเหมาใหญ่จะได้ประโยชน์ หากรูปแบบการลงทุนทำให้มีการเปิดประมูล หลักทรัพย์ดังกล่าวคือ ITD, CK, STEC และ UNIQ
+JAS: มีความคืบหน้าเรื่องจัดตั้งกองทุน JASIF ขอเชิญชวนนักลงทุนและผู้สนใจเข้ารับฟังการเสนอข้อมูลกองทุนสาธารณูปโภคแล้ว ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คือ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่ เราเห็นว่าบริษัทต้องมีความมั่นใจที่จะออกกองทุนฯได้แล้ว จึงมีเหตุการณ์เช่นนี้ คาดว่าจะทำให้เป็นบวกกับราคาหุ้น JAS เพราะนักลงทุนคาดหวังปันผลพิเศษ และมีเงินไปลงทุน Fiber Optic แม้ว่าเรื่องคดีความต่างๆของ JAS ยังไม่เรียบร้อยเสียทีเดียว
+NWR: อาจมีการเก็งกำไรเรื่องคดีคลองด่าน หลังศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้ทางการคือ กรมควงคุมมลพิษต้องจ่ายเงินให้กับเอกชน 4 ราย เป็นเงินค่างวดงานรวมกับดอกเบี้ยประมาณ 9 พันล้านบาท-1 หมื่นล้านบาท ทั้งนนี้ NWR ได้รับเป็นผู้รับเหมาประเภท sub contract และมีคดีฟ้องผู้รับเหมาหลักอยู่ เช่น วิจิตรภัณฑ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกชนที่ชนะคดี ระยะสั้นจึงคาดว่าอาจจะมีการเก็งกำไรหลักทรัพย์นี้ แม้ปัจจัยพื้นฐานจะไม่สดใสก็ตาม หากเป็นจริงจะได้เงินมา 200 ล้านบาท ถือว่าสูงเทียบกับคาดการณ์กำไรปี 58 ที่เพียง 135 ล้านบาท ระยะสั้นจึงแนะนำ ซื้อเก็งกำไร
-/ หลักทรัพย์ติด Cash Balance คือ CGS, FSMART, PRINC, PRECHA, SMM ตั้งแต่ 24 พ.ย.-30 ธ.ค.57 ต่ออายุติดเพียง 1 สัปดาห์คือ AJD,CGD,RICH, SUPER ตั้งแต่ 24 พ.ย.-28 พ.ย.57 ส่วนหลักทรัพย์ที่หลุด cash balance สัปดาห์นี้คือ FVC, SMART, SOLAR, TMI
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : Tel 7835 [email protected]