- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 20 November 2014 16:37
- Hits: 1444
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “พักหน่อย”
SET ปิดปรับตัวลดลง โดยมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบไม่หวือหวา จากภาพรวมที่ขาดปัจจัยเด่น ประกอบกับการอยู่ในช่วงปลายปี ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนออกไป โดยดัชนี SET ปิดที่ 1,577.55 จุด (-3.72 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 4.0 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) FED เปิดเผยรายงานการประชุมว่า FED ให้ความสนใจกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในต่างประเทศ และระบุถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง จากราคาน้ำมัน ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ว่า FED จะดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไปเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น
(+) การคาดหมายการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัฐในการสร้างการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า
(+) Fund Flow จากเม็ดเงินต่างชาติยังคงไหลเข้า โดยมี Net Buy ใน SET เกือบ 5 ร้อยล้านบาท
(-) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลัง EIA รายงาน สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย
(-) SET มีมติเห็นชอบมาตรการดูแลการซื้อขายหุ้นที่มีความร้อนแรงผิดปกติเพิ่มเติม โดยปรับปรุงเกณฑ์การเตือนนักลงทุน และแบ่งมาตรการออกเป็น 3 ระดับ ก่อนเสนอก.ล.ต.อนุมัติบังคับใช้ปี'58
(-) สอท.คาดยอดผลิตรถยนต์ปี 58 จะอยู่สรุปตัวเลขที่ 2 ล้านคัน ในประเทศ 9 แสนคัน และส่งออก 1.1ล้านคัน ลดลงจากปี 2556 ที่ 2.45 ล้านคัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* การจัดงาน SET In the City ในช่วงวันที่ 20-23 นี้
* การรายงานตัวเลข HSBC PMI ของจีน
* ความคืบหน้าการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
กลยุทธ์การลงทุน “เทรดอย่างระมัดระวัง”
คาดหมายการเคลื่อนไหวในกรอบแคบในวันนี้ ขณะที่ยังคงมีมุมมองการแกว่งตัวขึ้นในระยะกลาง จากภาพรวมการลงทุนที่ยังคงได้รับผลดีจากปริมาณสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นจาก ECB และ BOJ พร้อมความกังวลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐที่ลดลง ด้านในประเทศ การลงทุนของรัฐเป็นปัจจัยหลักในการลงทุน พร้อมแนวโน้มการบริโภคในประเทศที่มีสัญญาณบวกจาก การเพิ่มค่าครองชีพข้าราชการ และการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
TUF ราคาปิด 86.50 บาท
* รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ที่ 1,922 ล้านบาท +26%QoQ และ +91%YoY จากภาพรวมการขายที่ฟื้นตัว
* ได้รับผลดีจากการเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทใหม่ 2 แห่งที่เข้าซื้อเรียบร้อยตั้งแต่เดือน พ.ย. 57 นี้
* อยู่ระหว่างการศึกษาการ M&A เพิ่มขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายรายได้ในปี 58 ที่ระดับ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
TICON ราคาปิด 20.10 บาท
* เตรียมจัดตั้งกองทุน REIT ช่วง Q4-57 มูลค่า 5,200 ล้านบาท
* คาดหมายการจ่ายปันผลที่ 1 บาทต่อหุ้นสำหรับปี 57 ให้ Dividend Yield ราว 5%
* ปัญหาการเมืองที่คลีคลายลง ส่งผลให้การลงทุนของภาคเอกชนกลับมา สร้างสัญญาณบวกต่ออุตสาหกรรมนิคม
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ