- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 18 November 2014 16:50
- Hits: 1879
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
Sideways up
คาดวันนี้ดัชนีฯ ซึมขึ้น แนวรับ 1,560 ต้าน 1,578 จุด
ระยะสัปดาห์ 17-21 พย. คาดดัชนีฯซิ้กแซกขึ้น (ย่อก่อนแล้วค่อยเด้ง) แนวรับ 1,560 จุด แนวต้าน 1,585 จุด เมื่อวานผิดหวัง (Negative surprise) ตัวเลขเศรษฐกิจไทย และ ญี่ปุ่นแย่กว่าคาด (GDP 3Q14 ญี่ปุ่น -0.4% q-q หรือ -1.6% q-q annualize ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +2.2% ส่วนไทย +0.6% y-y ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +1% และสภาพัฒน์ปรับเป้าลงอีกเหลือ 1% จาก 1.5-2%) อย่างไรก็ตามมองกระทบต่อตลาดหุ้นจำกัด และคาดหุ้นกลาง-เล็ก ที่มีประเด็นหนุนขึ้นดีกว่าดัชนีฯ จากความชัดเจนเรื่อง กลต.ปรับเกณฑ์ Turnover list ช่วยคลายวิตก เพราะมาตรการไม่ได้รุนแรงอย่างกระแสข่าว
แนวโน้มเดือน พย.คาดดัชนีฯฟื้นตัว แนวรับ 1,555 จุด แนวต้าน 1,600 จุด (ซื้อเมื่ออ่อนตัว) แนะนำ แบงก์ ค้าปลีก สื่อสาร บ้าน กลุ่มน้ำมัน เน้นหุ้นบูลชิพที่ Undervalue PBV, PE ต่ำ, Upside สูง เช่น BBL, หุ้นน้ำมันอาจมีลุ้นรีบาวด์ก่อนการประชุม OPEC 27 พย. และ หุ้นกลาง-เล็ก ที่มีประเด็นสนับสนุน
หุ้นแนะนำ LPN (ลุ้นโครงการรังสิตผ่าน EIA วันนี้) ERW (แนวรับ 4.62 บ. ต้าน 4.8 บ.)
BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) DCON ผลประกอบการ 3Q14 ฟื้นตัวช้ากว่าคาด เราปรับกำไรปี 2014-16 ลง 4% 19% และ 23% ตามลำดับ และปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 20.00 บาท อิง PE ปี 2015 ที่ 17x คงคำแนะนำซื้อ ปัจจัยหนุนราคาหุ้น 1) การแจก warrants (DCON-W2) อัตราส่วน 6:1 ราคาใช้สิทธิ 0.50 บาท 2.) คาดกำไรใน 4Q14 จะได้รับปัจจัยหนุนจากการขายคอนโดโครงการ Dzio คาดจะมีปันผลพิเศษราว 1.38 บาท คิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 7.8%
(0) IRPC พบผู้บริหารเมื่อวานนี้เผยแนวโน้ม 4Q14 ผลการดำเนินงานหลักพลิกมีกำไร แต่กำไรสุทธิยังคงมีผลขาดทุนสต็อกน้ำมัน เราคงคำแนะนำ ขาย ราคาเป้าหมาย 3.26 บ.
(+) PTT เมื่อวานจัดประชุมนักวิเคราะห์ เราคงมุมมองเชิงบวก คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 400 บ.
หุ้นมีข่าว
(*) WHA เพิ่มทุน 8.8 พันล้านบาท และทำเทนเดอร์หุ้น HEMRAJ ที่ 4.5 บาท
(+) SUPER จัดให้ ผจก.กองทุน และ นักวิเคราะห์ เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าโซล่าร์ฟาร์ม ที่ปราจีนฯ วันที่ 18 พย.นี้
(+) EMC กระแสข่าวประกาศการเปลี่ยนโฉมธุรกิจใหม่ ในเดือน พย.นี้ (ซื้อเก็งกำไร หลุด 1.16 Stop loss แนวต้าน 1.29 บาท)
(+) MSCI review (มีผล 25 พย.เป็นต้นไป) หุ้นเพิ่มคำนวณในดัชนี MSCI Thailand รอบนี้ได้แก่ DELTA EA และ TUF (ไม่มีหุ้นถูกถอดออก) ส่วนหุ้นที่น้ำหนักลงทุนเพิ่มขึ้น ได้แก่ PTT (เพิ่ม +1.17%) และหุ้นที่น้ำหนักลงได้แก่ KBANK-F (-0.43%), SCB (-0.42%), ADVANC (-0.36%), PTTEP (-0.31%), CPALL (-0.30%), KBANK (-0.23%), SCC-F (-0.20%) / BBL ไม่ได้กลับมาเพิ่มน้ำหนัก อย่างที่คาด แต่ก็ไม่โดนลด น้ำหนั ขณะที่ KBANK SCB กลับโดนลดน้ำหนัก คาด BBL ที่โดนลดน้ำหนักไปก่อนหน้าจะ Outperform กลุ่ม จากแรงซื้อทดแทน KBANK SCB
MSCI THAILAND Small Cap เพิ่มหุ้น AIRA EFORL ICHI KTIS PCSGH SAWAD SUPER ถอดออก DELTA EA (ย้ายไป Standard) CENTEL M MCOT PS TFD DRT
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) วันอังคาร US PPI (ตค.) คาด -0.1% m-m คงที่, US NAHB ดัชนีฯบ้าน (พย.) ดีขึ้นเป็น 55 จาก 54, รายงานการประชุมธนาคารกลาง ออสเตรเลีย
(+) วันพุธ FOMC minute รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ, US Housing start (ตค.) +1.025 แสน จาก 1.017 แสน, ถ้อยแถลงคณะกรรมการ ECB ในการประชุม Euro Finance conference, รายงานการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น
(+) วันพฤหัส EU รายงาน PMI (พย.) ตลาดคาดเริ่มฟื้นตัว +52.3 จาก 52.1 และภาคการผลิต 50.9 จาก 50.6, HSBC PMI จีน (พย.) คาด 50.3 ลงจาก 50.4, สหรัฐฯคาดเงินเฟ้อ CPI (ตค) +0.2% m-m จาก 0.1%
(0) วันศุกร์ ประธาน ECB กล่าวสุนทรพจน์งาน European Banking Congress ที่เยอรมนี
หุ้นในกระแส
(+) MSCI add DELTA EA TUF เพิ่มน้ำหนัก PTT มีผล 25 พย.เป็นต้นไป
(+) หุ้น Small Cap ติดใน MSCI Small Cap แนะ AIRA ICHI SUPER
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
สภาพัฒน์หั่นจีดีพีปีนี้เหลือแค่ 1% แต่ยังมองปีหน้าสดใส
เศรษฐกิจไทยกู่ไม่กลับ สภาพัฒน์กัดฟันหั่นจีดีพีเหลือแค่ 1% จากเดิมคาดโตได้ 1.5-2% ชี้เหตุจากทุกภาคส่วนพร้อมใจกันร่วงทั้งการท่องเที่ยว-เบิกจ่ายภาครัฐล่าช้า ขณะที่การส่งออกไม่ขยายตัว หรือเติบโต 0% แต่พยากรณ์ปีหน้าโตได้ 3.5-4.5% (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)
ห่วงโลกวิกฤตทุบไทย
สภาพัฒน์คาดปีหน้าเศรษฐกิจโต 3.5-4.5% หวังส่งออก 4% เอกชนหวั่นโลกไม่ฟื้น นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2558 คาดว่าจะขยายตัว 3.5-4.5% เนื่องจากการส่งออกน่าจะเติบโต 4% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เทียบกับปีนี้ที่จะขยายตัว 0% (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
ทุ่มสุดตัวปั้น 5 เขตศก.พิเศษลดภาษีให้กึ่งหนึ่งจากปัจจุบันนาน 10 ปี
ทุ่มงบ 4-5 หมื่นล้านบาทดึงนักลงทุนบูมเขตเศรษฐกิจพิเศษ 5 แห่งลดภาษีลงครึ่งหนึ่งใน 10 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ 2/2557 ว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษที่วางไว้มี 12 เขต แต่เบื้องต้นจะจัดตั้ง 5 เขต ประกอบด้วยอ.แม่สอด จ.ตาก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อ.คลองใหญ่ จ.ตราด จ.มุกดาหาร และอ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งต้องใช้งบลงทุนสูงถึง 4-5 หมื่นล้านบาท (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
'ขนส่งทางเรือ' โตรับศก.ฟื้น กทท.โชว์ออเดอร์เพิ่ม 6.31%
เรือตรีทรงธรรม จันทประสิทธิ์ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ และรักษาการผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานให้บริการเรือสินค้าและตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน ท่าเรือเชียงของ และท่าเรือระนอง ในเดือนตุลาคม 2556-กันยายน 2557 มีตู้สินค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ทั้งที่ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง ส่งผลให้มีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่าในปีงบประมาณ 2557 ถึง 7.978 ล้านตู้ หรืออีทียู เพิ่มขึ้น 6.79% และมีสินค้าเพิ่มขึ้น 6.31% (หนังสือพิมพ์มติชน)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
รายงานวันนี้
หุ้น: KTC คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 81.00
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ เนื่องจากประมาณการของเรามีแนวโน้มอัพไซด์จากสินเชื่อที่เติบโตดีกว่าคาด การบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่มีคุณภาพ และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อในปี 2557 เติบโตที่ 10% สำหรับปี 2557 และ 10-15% สำหรับปี 2558 ซึ่งจะหนุนโดยสินเชื่อส่วนบุคคล (KTC proud) และเครดิตการ์ด
บริษัทมีแนวโน้มที่จะตั้งสำรองหนี้สูญในปีหน้าไว้ใกล้เคียงหรือสูงกว่าในปีนี้เล็กน้อยจากการบริการสินทรัพย์ที่มีคุณภาพมากขึ้น หากตั้งสำรองหนี้สูญลดลงจะบ่งชี้ถึงกำไรที่มากขึ้นกว่าคาดปีหน้า
เรามองว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทจะลดลง 5% เป็น 5 พันล้านบาทในปีนี้ ก่อนจะปรับตัวสูงขึ้น 8% ในปีหน้าเป็น 5.4 พันล้านบาท
สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ ณ สิ้นเดือนมิ.ย.ค่อนข้างอยู่ในระดับต่ำที่ 6.3 เท่า ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถเพิ่มการปล่อยสินเชื่อขึ้นอีกได้โดยไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนใดๆเป็นระยะเวลาอีกหลายปี
นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: DCON คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 20.00
เรามองว่าการฟื้นตัวของธุรกิจวัสดุก่อสร้างไม่เร็วตามที่เราคาด
บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q14 ที่ 46 ล้านบาท (-19%YoY, +4%QoQ) ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาด 10% โดยกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้น QoQ มีผลมาจากรายได้ 301 ล้านบาท (-14%YoY, +5%QoQ)
ที่ประชุมกรรมการมีมติแตกพาร์จาก 1 บาท เป็น 0.10 บาท และเพิ่มทุนจดทะเบียน
เราคาดบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการใช้สิทธิเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาฯ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมสำหรับงานโครงการภาครัฐฯ
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2014-16 ลง 4% 19% และ 23%ตามลำดับ และปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 20 บาท (จากเดิม 22.25 บาท)
นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน
กลุ่ม: ปิโตรเคมี คำแนะนำ: เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ราคาเป้าหมาย (บาท): -
ราคาปิโตรเคมีส่วนมากปรับตัวลงเมื่อสัปดาห์ก่อนจากอุปสงค์ที่อ่อนตัวทั่วภูมิภาคจากความกังวลต่อราคาน้ำมันที่อาจลดลงอีก
แต่ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก ส่งบวกต่อส่วนต่างราคาโดยส่วนใหญ่
ส่วนต่างราคาเอทิลีนหดตัว; ส่วนต่างราคาโพรพิลีนเพิ่มขึ้น WoW
ส่วนต่างราคา HDPE และ MEG ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง WoW
ส่วนต่างราคา PVC เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง WoW
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์