- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 May 2014 16:09
- Hits: 3002
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เหนือ 1390 ซื้อ–ต่ำกว่ารอเลือกซื้อเมื่ออ่อนตัว
SET เปิดตลาดวานนี้ดีดตัวขึ้น 3.7 จุด และผันผวนขึ้นและลงในกรอบ +/10 จุดและปิดตัวลงที่ 1392.73 จุด (+4.44 จุด, +0.32%) เป็นการขึ้นและลงคละกันในกลุ่มขนาดใหญ่-กลาง เช่นขึ้นนำตลาดโดยธนาคาร พาณิชย์ อสังหาฯ และลงโดยสื่อสาร พลังงาน และวัสดุฯ มูลค่าการซื้อขายยังถือว่าสูงในระดับ 42,635 ล้านบาท เงินบาทกลับมาอ่อนค่าขึ้นแตะที่ 32.60 บาท/US$ สอดคล้งกับทุนยังไหลออกจากภาวะการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติอีก 2,731 ล้านบาท กองทุนในประเทศสลับซื้อสุทธิเล็กน้อย 31 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
Fitch Ratings ประเมินการทำรัฐประหารของไทยว่าไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันดับความน่าเชื่อถือในทันทีและเป็นปัจจัยเชิงลบที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ แต่ปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของไทยคือ การจัดตั้งรัฐบาลที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มรูปแบบที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมือง โดยการทำรัฐประหารได้เน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังคงดำเนินอยู่ แต่ไม่ได้แสดงถึงความท้าทายต่อการจัดตั้งกระบวนการใหม่ที่จะนำไปสู่รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ Fitch คาดว่าจะปรับลดประมาณการอัตราการจีดีพีไทยในปี 57 จากเดิม +2.5% เหตุจรกความไม่แน่นอนทางการเมือง และจีดีพีไตรมาส 1/56 หดตัวลง -0.6%YoY
Standard & Poor’sยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือ ตราสารหนี้ระยะยาวและสั้นสกุลเงินตราต่างประ เทศของไทยที่ระดับ BBB+/A-2 และอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวและระยะสั้นสกุลเงินบาทที่ระดับ A-/A-2 และยืนยันแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยได้ประเมินการเคลื่อนย้ายและความคล่องตัวในการแลก เปลี่ยนเงินตราต่างประเทศคงที่ในระดับ A จุดแข็งต่อการคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยคือมีสถานะการลงทุนระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งและมีสภาพคล่องที่เป็นเงินตราต่างประเทศที่มากเพียงพอ การเกินดุลการชำระเงินเป็นเวลานานทำให้ไทยมีทุนสำรองที่จะรองรับดุลบัญชีเดิน สะพัดได้ถึง 7.5 เดือน และการมีภาระหนี้ต่างประเทศสุทธิที่ยังอยู่ในระดับปานกลางที่ 26% ของจีดีพี
ประเมินแนวโน้มตลาดกำลังอยู่ในช่วงการย่อยปัจจัยการเมืองและแนวทางนโยบายปฏิรูปประเทศของ ศสช. ในเชิงเทคนิควันนี้ ถ้าตลาดปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 1,390 จุด คาดยังคงอยู่ช่วงย่อยแรงขายในกรอบ 1,390-1,375 จุด แนะนำเลือกซื้ออ่อนตัว แต่ถ้า SET อยู่แดนบวกเราคาดหวังแรงซื้อเก็งกำไรเข้าสู่ตลาด ผลักราคาทางขึ้นในกรอบ 1,390-1,425 จุด แนะนำซื้อ เน้นหุ้นกลุ่มเน้นการเติบโตจากภายใน
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
คงน้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือหุ้น 100%
คงน้ำหนักพอร์ตจำลองการลงทุนในหุ้นเป็น 100% และเงินสด 0%
Accumulate : สะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อเก็งกำไรเหนือ 1390 จุด ต่ำกว่า หลีกเลี่ยงการเก็งกำไร
ต้นปี-ปัจจุบัน SET ปรับตัวขึ้น 6.9% กลุ่มโรงพยาบาลนำตลาดสูงสุดที่ 29.6% ขณะที่กลุ่มพลังงาน อาหาร วัสดุฯ และมีเดียส์ เริ่มปรับตัวขึ้นมาเป็นบวก เหลือเพียงกลุ่มปิโตรเคมี
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 100% ถือเงินสด 0%
หลังการปรับราคา XD
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (100%) = +4.3%
ผลตอบแทน SET = +2.6%
พอร์ตจำลองสุทธิ > SET
หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130