- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 May 2014 15:11
- Hits: 3568
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
HIGHLIGHT นโยบายของ คสช. ยังไม่สามารถทำให้ต่างชาติหยุดขายได้ ดีดขึ้นสั้นๆมองแค่ Rebound
SET View
ประเด็นหลักวันนี้ เรามองแรงขายของนักลงทุนต่างชาติยังเป็นปัจจัยกดดันที่ทำให้การดีดตัวขึ้นของ SET ยังเปราะบาง โดยที่วานนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันอีกราว 2.7 พันล้านบาทและพันธบัตรไทยอีก 1.3 พันล้านบาท ขณะที่ถ้าพิจารณาจากสถิติในปี 2556 จะพบว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติมีผลต่อการปรับตัวลงของ SET มากที่สุด โดยในช่วง 113 วันที่ SET ปรับตัวลงในปี 2556 พบว่ามีถึง 84 วัน (74%) ที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในทิศทางเดียวกัน ส่วนประเด็นที่ล่าสุด คสช. ได้มีประกาศการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาฯ เรามองว่านักลงทุนต่างชาติจะไม่ให้น้ำหนักกับประเด็นดังกล่าวมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นบุคคลเดิมที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับรัฐบาลหลังการรัฐประหารปี 2549 ขณะที่ในส่วนของนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน เรามองว่านอกจากการจ่ายเงินคืนในโครงการจำนำข้าวแล้ว นโยบายอื่นๆแทบไม่ต่างกับรัฐบาลชุดเดิม และส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่น่าจะเป็นรูปเป็นร่างในปีหน้ามากกว่า โดยที่ล่าสุดสำนักงบประมาณตั้งเป้าจะทำงบประมาณปี 2558 ตามคำสั่ง คสช. ไว้ที่ 2.6 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2557 ที่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ทำไว้ที่ 2.5 ล้านล้านบาท
ในเชิงแนวโน้มตราบใดที่ SET ยังคงไม่สามารถกลับไปปิดเหนือ 1,410 จุดได้ เรามองว่าเป็นเพียงแค่การ Technical Rebound เพื่อลงต่อไปสร้างฐานในกรอบ 1,380-1,350 จุด ในระยะ 1 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อของนักลงทุนระยะกลาง เนื่องจากเรายังคงประเมินเป้าหมายของ SET ใน 2H57 ไว้ที่ 1,570 จุด ขณะที่การประกาศตัวเลขการส่งออกเดือน เม.ย. ของไทยในวันนี้เวลา 11.00 น. อาจไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เนื่องจาก Consensus ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% YoY แม้จะฟื้นขึ้นจาก -3.1% YoY ในเดือนก่อนหน้า แต่ตัวเลขดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอในการฟื้นตัวของภาคการส่งออก
กลยุทธ์การลงทุน การลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) กรณีที่ SET ยังกลับไปปิดเหนือ 1,410 จุดไม่ได้ แนะนำ “ถือเงินสด” เรามองว่าการฟื้นตัวของราคาหุ้นที่ถูกประเมินว่าได้รับผลบวกจาก นโยบายเศรษฐกิจและการลงทุนของ คสช. ได้รับจิตวิทยาเชิงบวกเท่านั้น ส่วนนักลงทุนระยะกลาง (3-6 เดือน) แนะนำ “รอเพิ่มพอร์ตหุ้น” จากเดิม 50% มาเป็น 75% ที่บริเวณกรอบ 1,350-1,330 จุด โดยยังคงเน้นหุ้นกลุ่ม “Value Investing” ได้แก่ AP, SIRI, HEMRAJ, AAV, MAJOR, ESSO และ SAMART
Stock Picks
HMPRO (+) เราคงมุมมองต่อปัจจัยพื้นฐาน HMPRO และเชื่อว่าจะได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้เคอร์ฟิวทั่วประเทศอย่างจำกัด ทำให้ SSSG ใน 2Q57 จะเป็นบวกต่อเนื่องจากระดับ 3.8% ใน 1Q57 ในเบื้องต้นเราคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q57 เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ตามการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่ รวมทั้ง Gross margin ฟื้นตัวจาก 26% เราเชื่อว่าผลประกอบการที่เราคาดว่า HMPRO จะมีกำไรสุทธิ 3,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY ยังมีความเป็นไปได้ ขณะที่ราคาหุ้น HMPRO ปัจจุบันยังไม่สะท้อนปัจจัยบวกจากแนวโน้ม 2Q57 ที่แข็งแกร่ง มูลค่าเหมาะสมที่ 10.00 บาท แนะนำ “ซื้อ”
SPALI (+ ) เราคาดว่าผลประกอบการในปี 2557 ยังเติบโตเด่นจากงานในมือที่จะรับรู้รายได้ต่อเนื่องภายในปี 1.4 หมื่นล้านบาท จากสินค้าคอนโดมีเนียมกว่า 7 แห่ง โดยคาดว่าใน 4Q57 จะเป็นไตรมาสที่เติบโตสูงสุด และรายได้ยังมีความต่อเนื่องจากงานในมือระดับสูงและทำให้รายได้ในช่วง 2 ปีข้างหน้ามีความเสี่ยงจำกัดจากยอดขายที่หดตัวจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่าอุตสาหกรรม ขณะที่ยังคงระดับอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 40% พร้อมการจ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ผลตอบแทน 5-6% ต่อปี มูลค่าเหมาะสมที่ 22.40 บาท แนะนำ “ซื้อ”
Technical Plays
ดัชนี หุ้นเมื่อวันก่อนปิดเป็นแนวโน้มแกว่งตัว คาดว่าจะอยู่ในกรอบ 1390-1400 จุด อีกเล็กน้อย 1-2 วัน กรณียืนเหนือระดับ 1390 จุด แนวโน้มระยะสั้นจะเป็นขาขึ้นได้ (ส่วนต่ำกว่า 1380 จุด จะเป็นสัญญาณขาลง )