WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-9-2021May

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y   R E P O R T / 28 กันยายน 2564

INVESTMENT STRATEGY

Sideways :

Bond Yield ขึ้นแรง

วันนี้คาด SET แกว่ง Sideways ในกรอบแนวรับ 1,615 จุด และแนวต้าน 1,640 จุด เน้นหุ้นในกลุ่มวัฎจักร โดย ATO Picks แนะนำ “KBANK, BANPU”

KBANK

คาดรับอานิสงส์บวกจากเศรษฐกิจฟื้นตัว และการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้นใน 4Q64 รวมถึงมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งผสาน Valuation Gap ต่างจาก SCB มากเกินไป โดยปัจจุบัน KBANK เทรดที่ 0.67x 2021 P/BV และ 7.3% ROE ในขณะที่ SCB เทรดที่ 1.0x 2021 P/BV และ 8.0% ROE

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 160 บาท

BANPU

คาดได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากราคาถ่านหินโลกยังคงปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 204.75 เหรียญ (+54%QTD) ส่งผลบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในช่วง 2H64 ผสานกับการปรับตัวขึ้นของ US Bond Yield เพิ่มจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มหุ้นวัฎจักรมากยิ่งขึ้น

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 13.5 บาท

INVESTMENT THEME

Bond Yield สหรัฐฯ เร่งตัวขึ้นเด่น : หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในรอบที่ผ่านมาบ่งชี้ถึงโอกาสในการปรับลดวงเงิน QE ในช่วงถัดไป เป็นสาเหตุที่หนุนค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าต่อเนื่อง (ค่าเงินบาทปัจจุบันอ่อนค่าทะลุระดับ 33.5 บาทต่อดอลล่าร์) อีกทั้งยังพบว่า Dot Plot ที่บ่งชี้ว่าดอกเบี้ยสหรัฐฯอาจขยับขึ้นปลายปี 2565 ถือเป็นสัญญาณที่สะท้อนดอกเบี้ยจะกลับมาเป็นขาขึ้นรอบใหม่ และช่วยเร่งให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยล่าสุดพุ่งสู่ระดับ 1.487% สูงสุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งคาดเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มวัฎจักร เช่น กลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB) และพลังงาน (PTTEP, BANPU, TOP) เป็นต้น

4Q64 ผันผวนทางกลางความหวัง : แนวโน้ม 4Q64 คาดSET แกว่งผันผวนในกรอบ 1580-1700 จุด โดยตลาดยังคงมีความหวังเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ (การฉีดวัคซีน, เปิดประเทศ) ในขณะที่สภาพคล่องแม้อาจโดนกดดันจากการลดวงเงิน QE และ PEPP รวมทั้งปัญหาหนี้อสังหาจีน แต่เชื่อว่าผลกระทบต่อไทยจะค่อนข้างจำกัด โดยประเมินดัชนีเป้าหมายสิ้นปี 2564 และ 2565 ที่ระดับ 1,660 และ 1,750 จุด ตามลำดับ แนะทยอยสะสมหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก แนะนำกลุ่มธนาคาร (KBANK), บริหารสินทรัพย์ (JMT), วัสดุก่อสร้าง (TOA) และอาหาร (TU)

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET ย่อตัว ตอบรับความกังวลจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในหลายจังหวัดของไทย โดย SET ปิดที่ 1,620.02 (-11.13 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 135 แสนล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 141 แสนล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 3,909 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 2,097 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 26,081 สัญญา)

EYES ON

28 ก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค US

29 ก.ย. การประชุม กนง., ตัวเลขยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย US, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยูโรโซน

30 ก.ย. รายงานภาวะเศรษฐกิจรายเดือนของไทย, ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US, 2Q64 US GDP

1 ต.ค. ดัชนี PMI ภาคการผลิตของไทย, US และยูโรโซน , ดัชนี ISM ภาคการผลิตของ US, ตัวเลขเงินเฟ้อ PCE US

M.C.S. Steel (MCS)

3Q64 จะยังเด่น ปรับประมาณการขึ้น

BUY

Share Price               THB 14.30

12 m Price Target     THB 20.00 (+40%)

Previous Price Target THB 18.50

ประเด็นการลงทุน

กำไร 3Q64 จะยังเด่นต่อเนื่อง 358 ล้านบาท (-12%QoQ, +24%YoY) จากการส่งมอบงานเหล็กโครงสร้างที่สูง รวมกำไร 9 เดือนแรกจะสูงถึง 1,000 ล้านบาท โต 37% เกือบเท่าประมาณการทั้งปีเดิม ปรับประมาณการเพิ่มขึ้น คาดกำไรปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ 1,234 ล้านบาท โต 29% เดือน พ.ย. ผู้บริหารเตรียมบินไปญี่ปุ่นลงนาม 1 โครงการ และ เจรจางานเพิ่มอีก 2-3 โครงการ จะช่วยเติม Backlog ปัจจุบัน 8 หมื่นตัน ราคาหุ้นซื้อขาย P/E ปี 2564 ต่ำ 5.5 เท่า เงินปันผลตอบแทน 10% เราคงแนะนำ ซื้อ ประเมินราคาเป้าหมาย เท่ากับ 20 บาท บนฐาน Average P/E - 1SD เท่ากับ 7.9 เท่า เพิ่มจากเดิม 18.50 บาท จากประมาณการที่ปรับเพิ่มขึ้น      

กำไร 3Q64 จะยังเด่นต่อเนื่อง 358 ล้านบาท (-12%QoQ, +24%YoY)

ปริมาณส่งมอบเหล็กโครงสร้างไปญี่ปุ่น 3Q64 คาดจะยังอยู่ในระดับสูง 20,000 ตัน (-17%QoQ, +4%YoY) ส่วนใหญ่เป็นการส่งมอบจาก MCS Thailand ซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยสูง คาดจะทำให้มูลค่ายอดขายยังอยู่ในระดับสูง 1,570 ล้านบาท (-18%QoQ, +16%YoY) อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะอยู่ในเกณฑ์ดี 43.3% เทียบกับ 43.3% ในไตรมาสก่อน และ 40.4% ในปีก่อน เนื่องจาก รับรู้โครงการ Toranormon Azabudai และ Toranomon 1,2 chome ซึ่งมีราคาเฉลี่ยที่สูง และกำไรดี รวมแล้วคาดจะมีกำไร 3Q64 ที่ยังเด่นเท่ากับ 358 ล้านบาท (-12%QoQ, +24%YoY)

ปรับประมาณการเพิ่มขึ้น คาดกำไรปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่

กำไร 9 เดือนแรกจะสูงถึง 1,000 ล้านบาท โต 37% เกือบเท่าประมาณการทั้งปี 1,031 ล้านบาท ในขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลังจะส่งมอบงานเหล็กโครงสร้างไปญี่ปุ่นต่อเนื่องประมาณ 30,000-35,000 ตัน รวมส่งมอบงานเหล็กในปีนี้จะสูงถึง 7 หมื่นตัน ดังนั้น เราจึ่งปรับประมาณการเพิ่มขึ้น ซึ่งเดิมเราประเมินจะส่งมอบงานเหล็กโครงสร้างเท่ากับ 57,500 ตัน ทำให้ปี 2564 จะมียอดรับรู้รายได้ 5,806 ล้านบาท โต 37% และ มีกำไรเท่ากับ 1,234 ล้านบาท โต 29% ทำสถิติสูงสุดใหม่

เดือน พ.ย. ผู้บริหารเตรียมบินไปญี่ปุ่นลงนาม และ เจรจางานเพิ่ม

MCS เหลืองานเหล็กโครงสร้างที่ยังไม่ส่งมอบประมาณ 8 หมื่นตัน ในเดือน พ.ย. นี้ ผู้บริหารเตรียมที่จะบินไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อลงนามกับบริษัทญี่ปุ่น 1 โครงการมีน้ำหนักเหล็ก 25,000 ตัน และ เจรจาอีก 2-3 งาน คาดจะได้งานใหม่ต่อเนื่องช่วยเติม Backlog   สำหรับบริษัทลูก คือ Xiamen China และ MCS Japan เริ่มได้งานมากขึ้นจะช่วยเพิ่มยอดขายและกำไร สำหรับสถานการณ์การปรับขึ้นของราคาเหล็ก MCS ปัจจุบันมีสต็อกเหล็กเพียงพอรองรับการผลิตถึงเดือน มี.ค. – เม.ย. 2565 โดยปกติ MCS จะมีการสต็อกเหล็กเมื่อได้งานใหม่

ความเสี่ยง : ภาวะการสร้างตึกสูงในประเทศญี่ปุ่น / ค่าเงินเยนเทียบกับบาท

Surachai Pramualcharoenkit

[email protected]

(66) 2658 6300 ext 1470

Ziga Innovation (ZIGA)

แหล่งรายได้ใหม่ ดันกำไรทำสถิติอีกครั้ง

BUY

Share Price               THB 5.15

12 m Price Target     THB 7.15 (+39%)

Previous Price Target THB 7.15

ประเด็นการลงทุน

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 7.15 บาท/ หุ้น อิง P/E เฉลี่ยกลุ่ม 21.7 เท่า ตามเดิม โดยแนวโน้มไตรมาส 3/64 คาด ZIGA จะทำกำไรเป็นสถิติใหม่อีกครั้งจากอุปสงค์ในเหล็กนวัตกรรม pre-zinc ที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการผ่อนคลายภาคก่อสร้างระหว่างไตรมาส ขณะที่ ZIGA กำลังเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการขายแฟรนไชส์เป็นครั้งแรก ทำให้สถานการณ์ที่เหลือในปีนี้ภาพรวมปี 2564 มีแนวโน้มที่ ZIGA จะทำได้ดีกว่าประมาณการของเรา 15-20% อีกด้วย ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดที่ PEG 0.4x ขณะที่ความสม่ำเสมอของกำไรเริ่มดูดีกว่ากลุ่มเหล็กซึ่งผันผวนไปกับราคาเหล็กโลก ส่วนหนึ่งมาจากการเป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนเหล็กท่อดำในประเทศ ซึ่ง ZIGA มียอดขายปีละ 5-8 หมื่นตัน ขณะที่ไทยบริโภคเหล็กปีละ 18 ล้านตัน

แม้จะมีปิดแคมป์คนงาน แต่ไตรมาส 3/64 จะยังทำได้ดี

เราคาดว่า ZIGA จะรายงานกำไรปกติไตรมาส 3/64 ที่ 59 ลบ. ขยายตัว +9.8% QoQ และ +44.3% YoY โดยแม้ในช่วงล๊อคดาวน์ และปิดแคมป์คนงานจะคาบเกี่ยวในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. แต่การทยอยเปิดทำงานในช่วงปลายเดือน ส.ค. และ ก.ย. ผบห.เผยว่า ได้มีอุปสงค์คั่งค้าง (pent-up demand) จากภาคก่อสร้างเข้ามาจำนวนมาก ขณะเดียวกันบริษัทก็ไม่ได้รับผลกระทบจากราคาเหล็กที่พุ่งขึ้นในเดือน ก.ค. เนื่องจากใช้การกำหนดราคาแบบบวกเพิ่ม (cost plus) ยิ่งไปกว่านั้น ความนิยมในเหล็ก Pre-zinc ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนเหล็กท่อดำยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในสถานการณ์นี้ ยิ่งทำให้ลูกค้าเร่งรีบซื้อสินค้าอย่างรวดเร็ว เราคาดว่า ZIGA จะประคองยอดขายได้ที่ราว 315 ลบ. พอๆกับไตรมาสก่อน ขณะที่คาดว่า ZIGA จะเริ่มบันทึกรายได้จากธุรกิจแฟรนไชส์ Ziga store เป็นครั้งแรกจากผู้สมัครราว 5 สาขา ดังนั้นจะมีรายได้ค่าธรรมเนียมบันทึกเข้าราว 2.5 ลบ. ซึ่งคิดเป็น 4.2% ของประมาณการกำไรอีกด้วย

ไตรมาส 4 อัพไซด์นอกประมาณการจะเริ่มจับต้องได้

ผู้บริหารคงเป้าเปิดแฟรนไชส์ Ziga store 60 สาขาในปีนี้ จากผู้สมัครครั้นเปิดตัวกว่า 500 ราย ดังนั้นหากเป็นไปตามเป้า ZIGA อาจได้บันทึกรายได้ค่าธรรมเนียมแรกเข้าสูงระดับ 27 ลบ. ในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งคิดเป็นถึง 55% ของกำไรปกติเฉลี่ยต่อไตรมาสอีกด้วย (40 ลบ./ ไตรมาส) ส่วนธุรกิจโรงเรือนปลูกกัญชงก็น่าจะได้ข้อสรุปเช่นกัน

แนวโน้มปีนี้จะดีกว่าคาดของเราอีก 15-20%

หากเป็นไปตามคาด กำไร 9M64 จะทำได้ที่ 140 ลบ. ซึ่งคิดเป็น 82% ของประมาณการปีนี้ของเรา และเมื่อรวมกับโอกาสในธุรกิจแฟรนไชส์ Ziga store ที่กำลังเกิดขึ้นเด่นชัดใน 4Q64 เราเชื่อว่า ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ที่ 169 ลบ. +43.6% YoY จะบรรลุได้แบบสูงกว่าคาดของเรา 15-20% อีกด้วย เสมอว่า ZIGA กำลังซื้อขายที่ P/E เพียง 13.7 เท่า

Jaroonpan Wattanawong

[email protected]

(66) 2658 6300 ext 1404

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!