WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

รอบด้านตลาดหุ้น
Sideways
คาดวันนี้ดัชนีฯ Sideways แนวรับ 1,555 ต้าน 1,575 จุด
       ระยะสัปดาห์ 10-14 พย. ยังเป็นช่วงของการพักฐาน ต่อเนื่อง คงแนะนำ Buy on dips หุ้นบูลชิพที่ Undervalue และหุ้นกลาง-เล็กที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว ปัจจัยลบ บจ.ส่วนใหญ่รายงานกำไร 3Q14 ต่ำกว่าคาดการณ์, ตลท.เล็งออกมาตรการสกัดการเก็งกำไรหุ้นร้อน, ปัจจัยบวก คาด GDP ยุโรปฟื้นตัวปลายสัปดาห์นี้, MSCI standard และ Small Cap index เพิ่มหุ้นไทย มีผล 25 พย.เป็นต้นไป
แนวโน้มเดือน พย.คาดดัชนีฯจะเริ่มฟื้นตัว แนวรับ 1,555 จุด แนวต้าน 1,600 จุด (ซื้อเมื่ออ่อนตัว) แนะนำ แบงก์ ค้าปลีก สื่อสาร บ้าน กลุ่มน้ำมัน เน้นหุ้นบูลชิพที่ Undervalue (PBV, PE ต่ำ, Upside สูง) เช่น BBL PTTEP (น้ำมันลุ้นรีบาวด์ก่อนการประชุม OPEC 27 พย.) และ หุ้นกลาง-เล็ก ที่มีประเด็นสนับสนุน

หุ้นแนะนำ ย่อซื้อ LPN แนวรับ 22/22.5 บ. ย่อซื้อ BEAUTY แนวรับ 31 บาท
BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(-) BLA รายงานงบ 3Q14 พลิกขาดทุน 881 ล้านบาท แย่กว่าคาดมาก เป็นผลจาก การตั้งสำรอง Policy life reserve ตามเกณฑ์ใหม่ของ คปภ.ราว 2.2 พันล้านบาท โดยกำหนดให้เปลี่ยนการคำนวณเงินตั้งสำรองใหม่อิงกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ซึ่งไตรมาสที่ผ่านมาดอกเบี้ย Bond yield ลงแรง จาก 4% เหลือ 3.4% ส่งผลให้ตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ เราคาดว่ารายการพิเศษนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกถ้า Bond yield มีความผันผวนหรือ ปรับลงใน 4Q14 แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มดอกเบี้ยปีหน้า MS คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 0.50% ส่งผลให้มีโอกาสที่สำรองดังกล่าวจะ Reverse กลับมาเป็นกำไรได้ ทั้งนี้หากไม่รวมรายการตั้งสำรอง กำไรหลักอยู่ที่ราว 1 พันล้านบาท ตามคาด เรามีการปรับกำไรปี 2014-15 ลง เพื่อสะท้อนความเสี่ยงความผันผวนของดอกเบี้ยพันธบัตร และ ยอดขายเบี้ยที่ชะลอกว่าคาด และราคาเป้าหมายใหม่ 67 บาท ลงจาก 79 บาท
(-) BA (ยังอยู่ในช่วง Blackout period เราไม่สามารถแนะนำ และปรับเปลี่ยนคาดการณ์กำไรได้) รายการขาดทุน 3Q14 ที่ 47 ล้านบาท (แย่กว่าคาด) ขาดทุนลดลงจาก 2Q14
(+) LPN รายงานกำไร 3Q14 561 ล้านบาท ดีตามคาด ผู้บริหาร เชื่อมั่นว่าโครงการรังสิต จะผ่าน EIA ในบ่ายวันที่ 18 พย.นี้ (ถ้าผ่านข่าวนี้จะเป็นบวกต่อ LPN และ SF)
(+) AP รายงานกำไร 1.03 พันล้านบาท ดีตามคาด และ เราปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 7.8 บาท เพื่อสะท้อน Dilution จากการแจก หุ้นปันผล
(0) SIRI ลูกหุ้นเพิ่มทุนเข้าเทรดวันนี้ คาดราคาบนกระดานจะอยู่ที่ราว 1.9-2 บาท

(+) BEAUTY รายงานกำไร 3Q14 ที่ 81ล้านบาท ดีกว่าคาด 14% เราปรับกำไรปี 2014-15 ขึ้นและปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 38.25 บาท
(-) ANAN รายงานกำไรหลัก 3Q14 138 ล้านบาท แย่กว่าคาด 28% ส่วนกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็น 225 ล้านบาท จากรายการพิเศษขายที่ดินอโศกเข้า JV เป็น Item one time gain เรายังคงประมาณการณ์กำไรปี 2014-15 แนะ Trading buy ราคาเป้าหมาย 4.5 บาท
(-) BCP รายงานกำไรหลัก 1430 ล้านบาท แย่กว่าคาด 26% แต่ดีกว่าตลาดคาด 31%) เราปรับกำไรปี 2014 ลง 10% แนะนำ ถือ TP 33 บาท
(+) ICHI รายงานกำไร 3Q14 ที่ 266 ล้านบาท (+62%YoY, -35%QoQ) มากกว่าที่เราคาด 19% สาเหตุที่กำไรมากกว่าคาดมาจาก SG&A ที่ลดลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายที่ลดลง โดยใน 3Q14 นี้ระดับ SG&A/Sales ลดลงเหลือ 12% จากที่เราคาดการไว้ที่ 15%แนะนำ ซื้อ TP 30บ
(+) SIM กำไร Inline ส่วน SAMTEL รายงานกำไรต่ำคาด 5% ทั้งนี้เราคงประมาณการณ์กำไร เพราะ 4Q14 ของ SAMTEL จะมีงานประมูลที่รับรู้รายได้เพิ่มขึ้น คงแนะนำ ซื้อ (ทั้ง SIM และ SAMTEL)

หุ้นมีข่าว
(+) WORK เพิ่มทุน PP 32 ล้านหุ้น ที่ 33.5 บาท คาดได้เงินเพิ่มทุน จาก Mindo Asia Investment Ltd ราว 1 พันล้านบาท (ติด Silence 1 ปี) หนุนให้ DE ลดลงเหลือ 0.2 เท่า เราแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 43 บาท
(+) บอร์ด THAI แต่งตั้ง คุณจรัมพร โชติกเสถียร เป็น DD (กรรมการผู้อำนวยการใหญ่)
(+) BANPU ร่วมลงทุนพัฒนาสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในจีน
(+) MSCI review (มีผล 25 พย.เป็นต้นไป) หุ้นเพิ่มคำนวณในดัชนี MSCI Thailand รอบนี้ได้แก่ DELTA EA และ TUF (ไม่มีหุ้นถูกถอดออก) ส่วนหุ้นที่น้ำหนักลงทุนเพิ่มขึ้น ได้แก่ PTT (เพิ่ม +1.17%) และหุ้นที่น้ำหนักลงได้แก่ KBANK-F (-0.43%), SCB (-0.42%), ADVANC (-0.36%), PTTEP (-0.31%), CPALL (-0.30%), KBANK (-0.23%), SCC-F (-0.20%) / BBL ไม่ได้กลับมาเพิ่มน้ำหนัก อย่างที่คาด แต่ก็ไม่โดนลด น้ำหนัก ขณะที่ KBANK SCB กลับโดนลดน้ำหนัก คาด BBL ที่โดนลดน้ำหนักไปก่อนหน้าจะ Outperform กลุ่ม จากแรงซื้อทดแทน KBANK SCB
MSCI THAILAND Small Cap เพิ่มหุ้น AIRA EFORL ICHI KTIS PCSGH SAWAD SUPER ถอดออก DELTA EA (ย้ายไป Standard) CENTEL M MCOT PS TFD DRT

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) GPIF (Japan's government pension fund) รายงานการเปลี่ยนแปลงนโยบายเงินลงทุนรอบใหม่ / ผลกระทบคาดเงินในพันธบัตรญี่ปุ่นราว 68.3 ล้านล้านเยน (ณ.สิ้นเดือน กย.) และเงินที่ครบอายุไถ่ถอนจะไหลออกราวปีละ 10 ล้านล้านเยน และจะมีสัดส่วนที่ไหลเข้าตลาดหุ้นใน และต่างประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ จากนำหนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น (ดูตาราง) Overseas ต่างประเทศมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 25% จากเดิม 12% เท่ากับสัดส่วนหุ้นญี่ปุ่นที่ 25% (จาก 12%)
(0) วันพฤหัส ธ.กลางเกาหลีใต้ และ อินโด คาดคงดอกเบี้ย ที่ 2% และ 7.5% ตามลำดับ, US Budget statement (ตค) คาด $bn-111.7 จาก $bn+105.8
(+) วันศุกร์ EU GDP 3Q14 รอบแรก คาดกลับมาบวก +0.1% จาก 0% q-q sa. เยอรมนี GDP +0.1% จาก -0.2%, US retail sale (ตค.) +0.4% จาก -0.2% m-m, US import price (ตค.) คาด -1.8% จาก -0.5% m-m, มาเลเซีย GDP 3Q14 คาด +5.6% จาก 6.4% ส่วน HK GDP 3Q14 คาด +1.5% จาก 1.8% กระทบจากเหตุการณ์ประท้วง

หุ้นในกระแส
(+) MSCI add DELTA EA TUF เพิ่มน้ำหนัก PTT มีผล 25 พย.เป็นต้นไป
(+) กระแสข่าว M&A: SST IFEC

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336


นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
นายแบงก์ชี้ลดดอกเบี้ยไร้ผล เผยครึ่งปีแรกเศรษฐกิจชะงัก นักลงทุนรอผลปฏิรูปประเทศ
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจใช้นโยบายดอกเบี้ยผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 58 ว่า การลดดอกเบี้ยไม่ได้ช่วยมากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับเกียร์ว่างในช่วงครึ่งปีแรกของปี 58 (ม.ค.-มิ.ย.) เพราะนักลงทุนรอดูความชัดเจนด้านการปฏิรูปประเทศ นโยบายด้านภาษีและธุรกิจต่างด้าว ดังนั้นภาคธุรกิจชะลอการลงทุนจนกว่านโยบายต่าง ๆ จะเห็นผลเป็นรูปธรรม (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

คาดทองคำร่วงแตะหมื่นห้า
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ในปี 58 มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 15,500 บาทต่อบาททองคำ หากในกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าที่คาด หลังจากเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนักลงทุนให้ความสนใจในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความน่าสนใจของการลงทุนในทองคำปรับตัวลดลง (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

รื้อเกณฑ์ 'แคชบาลานซ์' สมาคมบล.ชงบอร์ดตลาด 19 พ.ย.นี้
แจงตลาดหุ้นไทยแรงเก็งกำไรมากเกินไป มาร์จินโลน แตะ 6 หมื่นล้าน
    นายกสมาคมโบรกยอมรับเห็นภาพการเก็งกำไรมากเกินไป จากสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 20% เน้นเทรดเก็งกำไร จึงเห็นว่าควรจะต้องเสนอเกณฑ์คุมหุ้นร้อนใหม่ มากกว่า 1 มาตรการ พร้อมทบทวนเกณฑ์แคชบาลานซ์ใหม่ เชื่อจะไม่ส่งผลกระทบตลาด ด้านรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ชี้นักลงทุนหันซื้อหุ้นขนาดเล็ก ทำซิงเกอร์ สต็อกฟิวเจอร์สซบ มองสัญญาณดีกระจายความเสี่ยงต่างประเทศมากขึ้น (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

บีโอไอปลื้มยอดลงทุนมั่นใจทั้งปีทะลุ 7 แสนล.
     นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนตลอดทั้งปี 2557 ว่าบีโอไอมั่นใจว่า ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งปีจะสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 700,000 ล้านบาท หลังจากช่วง 10 เดือน (มกราคม-ตุลาคม 2557) มีมูลค่า 645,300 ล้านบาท จากจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริม 1,206 โครงการ โดยเฉพาะการยื่นขอรับส่งเสริมในเดือนตุลาคม 2557 ถือเป็นสัญญาณที่สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนทั้งไทยและจากต่างประเทศสนใจลงทุนมากขึ้น มูลค่าเงินลงทุนรวมในเดือนตุลาคม มีจำนวน 55,800 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดกลางและขนาดเล็ก (หนังสือพิมพ์มติชน)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

รายงานวันนี้
หุ้น: BEAUTY คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 38.50
BEAUTY รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 3/57 ที่ 81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% YoY และ 32% QoQ สูงกว่าคาดการณ์ของเรา 14%
รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 48% YoY เป็น 375 ล้านบาท ยอดขายสาขาเดิมสูงกว่าประมาณการของเราที่ 15% ราวๆ 20%
เรามองว่าไตรมาส 4/57 จะเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งขึ้นอีก
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไร 7% สำหรับปี 2557 และ 5% สำหรับปี 2558 ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2558 จึงเพิ่มขึ้นเป็น 38.25 บาทจาก 36 บาท
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ หนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มค้าปลีก
นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: WORK คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 43.00
WORK รายงานกำไรไตรมาส 3/57 ออกมาที่ 27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 115% QoQ แต่ลดลง 76% YoY
กำไรที่ออกมาต่ำกว่าประมาณการของเรา 16% เนื่องจากรายได้อีเว้นท์ที่ต่ำกว่าคาดและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงกว่าคาด
WORK ประกาศเพิ่มทุนผ่านวิธี PP โดยจะออกหุ้นสามัญจำนวน 32 ล้านหุ้น เสนอขายที่ราคา 33.50 บาทต่อหุ้น ให้แก่ MINDO
เราคาดว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการเงินให้แก่บริษัท
คงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายลดลงเล็กน้อยเป็น 43 บาท จาก 44 บาทก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: บุญธิดา จนางคะกาญจน์

หุ้น: BCP คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย (บาท): 33.00
BCP รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 3/57 ที่ 381 ล้านบาท ลดลง 72% YoY และ 70% QoQ
กำไรหลักอยู่ที่ 1,430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% YoY และ 152% QoQ ต่ำกว่าคาดการณ์ของเรา 26% แต่สูงกว่าที่ตลาดคาด 31%
กำไรหลักที่เติบโต QoQ เป็นผลจากค่าการกลั่นตลาด, ปริมาณน้ำมันดิบเข้ากลั่น, ค่าการตลาดค้าปลีก และส่วนแบ่งรายได้จากหน่วยธุรกิจโซลาร์ที่ปรับตัวขึ้นทั้งหมด
ถึงแม้เราคาดว่ากำไรหลักน่าจะแข็งแกร่งในไตรมาส 4/57 แต่กำไรสุทธิกลับมีความเสี่ยงขาลงอย่างมีนัยสำคัญจากขาดทุนสต๊อกน้ำมัน
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2557 ลง 10% เป็น 4,653 ล้านบาทเพื่อสะท้อนกำไรพิเศษและขาดทุนสต๊อกน้ำมันที่บันทึกในไตรมาส 3/57
เรายังคงมีความกังวลต่อประเด็นแนวโน้มการขายหุ้น BCP โดย PTT และแผนการของ BCP ที่จะขยายไปยังธุรกิจสำรวจะผลิตปิโตรเลียมมากขึ้น รวมถึงความเสี่ยงต่อกำไรในปีนี้จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: BECL คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย (บาท): 48.00
BECL รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 3/57 ที่ 763 ล้านบาท ลดลง 18% YoY แต่เพิ่มขึ้น 14% QoQ
กำไรหลักอยู่ที่ 763 ล้านบาทเช่นกัน ลดลง 18% YoY แต่เพิ่มขึ้น 22% QoQ ตรงตามคาดการณ์ของเรา แต่สูงกว่าที่ตลาดคาด 5%
กำไรหลักที่ลดลง YoY มาจากรายได้อื่นๆที่ลดลง ในขณะที่เพิ่มขึ้น QoQ จากปริมาณการจราจรและส่วนแบ่งกำไรจาก TTW และ CK Power ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง
เราคาดว่ากำไรไตรมาส 4/57 จะเพิ่มขึ้น YoY หนุนจากปริมาณการจราจร, รายได้เฉลี่ยค่าผ่านทางต่อวัน และส่วนแบ่งกำไรจาก TTW และ CK Power ที่เพิ่มขึ้น แต่คาดจะลดลง QoQ
กำไรสุทธิช่วง 9 เดือนปี 2557 คิดเป็น 80% ของประมาณการปี 2557 ของเราที่ 2,663 ล้านบาท ซึ่งเรายังคงประมาณการไว้ตามเดิม
แม้แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/57 จะดูดีขึ้น แต่เรายังคงมองไม่เห็นปัจจัยที่จะช่วยหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้เนื่องด้วยแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ชะลอตัว
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: VNT คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย (บาท): 11.40
VNT รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 3/57 ที่ 4 ล้านบาท ลดลงถึง 92% YoY และ 98% QoQ
กำไรหลักอยู่ที่ 4 ล้านบาทเช่นกัน ลดลง 90% YoY และ 98% QoQ ต่ำกว่าประมาณการของเราเล็กน้อย
ผลการดำเนินงานหลักที่อ่อนตัวเป็นผลจากส่วนต่างราคา PVC, ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์รวม, ปริมาณขาย รวมทั้งเครดิตภาษีที่ลดลง
ผลการดำเนินงานหลักในไตรมาส 4/57 คาดหดตัวทั้ง YoY และ QoQ จากส่วนต่างราคา PVC ที่อ่อนตัว
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2557 ลง 32% เป็น 280 ล้านบาทเพื่อสะท้อนสมมติฐานต่างๆที่ลดลง
เรายังคงคำแนะนำ ถือ เนื่องจากเรายังคงมองไม่เห็นปัจจัยที่จะช่วยหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นได้อีก
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: LPN คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 30.00
LPN รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 3/57 ที่ 561 ล้านบาท ลดลง 9% YoY แต่เพิ่มขึ้น 53% QoQ ต่ำกว่าคาดการณ์ของเรา 7% แต่ตรงตามที่ตลาดคาด
เราคาดว่าผลกำไรในไตรมาส 4/57 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี
กำไรช่วง 9 เดือนของปี 2557 คิดเป็น 55% ของประมาณการทั้งปีของเรา และกำไรในปีนี้มีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลงเล็กน้อย แต่รายได้ในปีหน้านั้นมีความชัดเจนเป็นอย่างมาก
LPN ยังคงเป็นหุ้นที่เราชื่นชอบที่สุดในกลุ่มหุ้นอสังหาฯที่อยู่อาศัยที่เราวิเคราะห์อยู่ เนื่องด้วยเรามองว่ากำไรของ LPN จะเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในปี 2558 อย่างชัดเจน

หุ้น: AP คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 7.80
AP รายงานผลกำไรหลักสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3/57 ที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 155% YoY และ 45% QoQ ตรงตามคาดการณ์ของเรา แต่สูงกว่าที่ตลาดคาด 7%
เรามองว่ากำไรไตรมาส 4/57 จะหดตัว YoY และ QoQ จากฐานที่สูงมากทั้งไตรมาส 4/56 และ 3/57
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักขึ้น 12% สำหรับปี 2557 และ 11% สำหรับปี 2558 แตกำไรหลักต่อหุ้นเพิ่มเพียง 1% จากจำนวนหุ้นที่เพิ่มจากหุ้นปันผล
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ เนื่องด้วย AP เป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายถูกที่สุดในกลุ่มหุ้นอสังหาฯที่อยู่อาศัยที่เราวิเคราะห์อยู่
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: ANAN คำแนะนำ: ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย (บาท): 4.50
ANAN รายงานผลกำไรหลักไตรมาส 3/57 ที่ 138 ล้านบาท พลิกฟื้นจากขาดทุนหลักที่ 91 ล้านบาทไตรมาส 3/56 แต่ลดลง 57% QoQ
เรามองว่ากำไรไตรมาส 4/57 ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ
กำไรหลักช่วง 9 เดือนปี 2557 คิดเป็น 60% ของประมาณการทั้งปีของเรา ซึ่งยังคงเดิม
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ด้วยราคาเป้าหมายที่ 4.50 บาท

นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!