- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 13 November 2014 16:59
- Hits: 1592
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET มีจังหวะปรับลดลงไปปิด Gap ที่ 1,557 จุด...กลุ่มพลังงานถูกกดดันจากราคาน้ำมัน: SET ปรับลดลง 0.58% ปิดตลาดที่ 1,562.03 จุด นำการปรับลดลงโดยกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก จากความกังวลต่อมาตรการป้องกันการเก็งกำไรเพิ่มเติมจากตลาดหลักทรัพย์ ด้วยปริมาณการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 505 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ มีจังหวะปรับลดลงไปปิด Gap ทางเทคนิคที่บริเวณ 1,557 จุด โดยกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ถูกกดดันจากแนวโน้มการออกมาตรการป้องกันการเก็งกำไรเพิ่มเติมของตลาดที่จะมีความชัดเจนในวันที่ 19 พ.ย.นี้ ขณะที่กลุ่มพลังงานถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงต่อเนื่อง หลังตัวเลขภาคการผลิตยูโรปอ่อนแอ และดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น
“ซื้อ” SAMART และ BEAUTY: แนะนำ “ซื้อ” BEAUTY ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 37 บาท และระยะสั้นที่ 33.75/35.0 บาท หลังประกาศกำไร 3Q14 เติบโตแข็งแกร่ง 81 ล้านบาท +68% y-y มี Upside Risk ต่อประมาณการกำไรทั้งปี รวมไปถึง “ซื้อ” SAMART ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 36.50 บาท ราคาหุ้นปรับลดลงมาที่แนวรับ 30+/-บาท จากแนวโน้มกำไร 3Q14 อ่อนแอ แต่กำไรจะกลับมาดีอีกครั้งใน 4Q14 และมี Upside จากธุรกิจไฟฟ้า
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BGH, BTS, CK, EA, KBANK, SAMART, SAPPE, SPALI, และ TUF เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง
BTS… “ซื้อ” เป้าหมายพื้นฐาน 11.50 บาท: เราแนะนำ “ซื้อ” BTS ด้วยเป้าหมายพื้นฐานที่ 11.50 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) BTS ยังมีจุดเด่นจากกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากกองทุน BTSGIF, Balance Sheet แข็งแกร่งพร้อมลงทุนรถไฟฟ้าสายใหม่ในอนาคต และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 6-7% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า 2) บริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจากับ รฟม. ในการเข้าบริหารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายทิศเหนือ และใต้ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในภายในกลางปี 2015 3) การปรับราคาตั๋วขึ้น 10% ในช่วงกลางปี 2015 เป็น Upside Risk ต่อประมาณการกำไรของเรา ที่คาดว่าจะปรับค่าตั๋วขึ้นในปี 2018 และ 4) การ Synergy ธุรกิจอสังหาฯ กับ SIRI และ NPARK คาดว่าจะทำให้ BTS สามารถ Unlock มูลค่าของธุรกิจอสังหาฯ ดีขึ้น และเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อ BTS
Technical
วันนี้ต้องปิดบวก : วันนี้คาดว่า SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1556-1572 จุด ดัชนีหลุด 1565 จุด แต่ยังคงอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน อยู่ที่ระดับ 1556 จุด เป็นแนวรับสำคัญวันนี้ คาดว่าจะฟื้นตัวกลับขึ้นไปปิดสูงกว่า 1565 จุด เพื่อขึ้นสู่เป้าหมายยอดเดิมที่ 1600 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ : SPCG สิ้นสุดรูปแบบพักตัวในจังหวะพุ่งขึ้นทะลุกรอบแนวต้าน 26.00 บาท เกิดสัญญาณซื้อ คาดว่าจะผ่านแนวต้านย่อย 26.50 บาท และมีเป้าหมายขึ้นไปทดสอบยอดเดิมที่ 28.00 บาท TICON แกว่งตัวขึ้น : ฟื้นขึ้นมายืนเหนือระดับแนวต้านย่อย 19.00 บาท เป็นจังหวะซื้อ มองแนวต้านถัดไปที่ 19.80 บาท เป็นจุดขายทำกำไรระยะสั้น JAS มีลักษณะที่แข็งแกร่งมากกว่าตลาด ราคาทรงตัวเหนือแนวรับ 7.45-7.50 บาท เป็นโอกาสซื้อ คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.80 และเป้าหมาย 8.20 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 1,035-1,050 จุด สัญญา S50Z14 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ ต่อไป สำหรับการเปิดสถานะ Long ในช่วงระหว่างวันเมื่อวานนี้ในช่วงที่สามารถยืนได้เหนือ 1,050 จุด ควรถูก Stop Loss ไปแล้วในช่วงระหว่างวัน
Gold Futures: แนะนำ “เปิด”/“ถือ” สถานะ Long สัญญา GFZ14 โดยมีเป้าหมายการ Rebound ที่บริเวณ 18,400-18,500 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 17,900 บาท ล่าสุดราคาทองคำปรับลดลง US$3.9/ออนซ์ ปิดที่ US$1,159.1/ออนซ์ ด้วยแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น
Oil Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 2630-2720 สัญญา BRX14 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน โดยราคาน้ำมันถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น แต่อยู่ในภาวะ Oversold มากเกินไป
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล