- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 11 November 2014 16:53
- Hits: 1822
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : เก็งกำไรในกรอบ
Technical : แนวรับ : 1,572 / 1,567 แนวต้าน 1,585 / 1,591
หุ้นแนะนำพิเศษ : KCE
หุ้นเด่นรายวัน : BWG
SET วานนี้ทรุดตัวลงแรงสวนทางตลาดหุ้นรอบบ้าน เนื่องจากกระแสข่าวสมาคมโบรกฯนัดถกใช้มาตรการสกัดหุ้นร้อนกลางพ.ย.นี้ ประกอบกับขาดปัจจัยใหม่เข้ากระตุ้นการลงทุน ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,567.34 จุด (-11.03 จุด หรือ -0.70%) Volume 5.5 หมื่นลบ. นลท.ต่างชาติ Net buy 823 ลบ. และ Net Long TFEX 2.2พันสัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
SET ช่วงนี้ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน อีกทั้งราคาน้ำมันดิบโลกที่ทรุดตัวลงเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มพลังงาน ทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่คึกคัก ดังนั้นคาดว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,575 จุด โดยตลาดส่วนใหญ่จะยังคงเป็นการเข้าเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีประเด็นข่าวเฉพาะตัว แต่หากผิดทาง SET หลุดแนวรับสำคัญ 1,560 จุดลงมาจะเป็นจุด stop loos
กลยุทธ์
แนะนำให้สะสมหุ้นที่คาดว่างบ Q3/14 เติบโต เช่น CPF TUF KCE RML SYNTEC และหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET 50 รอบใหม่ CK KTIS SPALI HEMRAJ (ประกาศกลางเดือนธ.ค.)
หุ้นแนะนำพิเศษ
KCE ราคาปิด 40.25 บาท ราคาพื้นฐาน consensus สูงสุดที่ 53 บาท
Consensus คาดกำไร Q3/14F ที่ 520 ล้านบาท เติบโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากยอดขาย PCB กลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้น และได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง
แนวโน้มกำไร Q4/14 ยังเติบโต จากกำลังการผลิตโรงงานใหม่เฟส 1 เข้ามา เพิ่มกำลังการผลิตอีก 7 แสนตารางฟุต/เดือน
ตั้งเป้ารายได้เติบโต 100% ใน 3 ปี จากกำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามาทั้งหมดปลายปี 2559
หุ้นเด่นรายวัน
BWG (ปิด 4.80 ซื้อเก็งกำไร) ก.อุตสาหกรรมมีโครงการผลักดันให้โรงงานที่มีขยะของเสียอุตสาหกรรมทั้งระบบทั่วประเทศจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมกำจัดกาก (ที่มา : ไทยรัฐ)
มุมมองด้านเทคนิค - แนวรับ 4.76 แนวต้าน 5.00 , 5.50 จุด cut loss 4.60 กราฟโค้งตัวขึ้นแบบกะทะหงาย และราคาไต่ระดับขึ้นเหนือเส้น EMA 10 วันได้ต่อเนื่อง พร้อมทั้ง RSI + MACD ชี้ขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ
CPF (ราคาปิด 28.75 ซื้อ ค่าเฉลี่ย consensus 37.75)ผู้บริหารชี้แจงในการประชุมนักวิเคราะห์ว่าผลการดำเนินในไตรมาสสุดท้ายมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของธุรกิจสัตว์บก และการตัดขายหุ้น"ซีพีพี"ในฮ่องกงทำให้ฐานะการเงินดีขึ้น อนาคตมีโอกาสได้ส่งออกหมูได้เพิ่มขึ้นจากความต้องการนำเข้าของรัสเซียซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจคุณภาพ ขณะที่การที่กลุ่มยุโรปตัด GSP ที่จะเริ่มมีผลปีหน้า CPF ไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะสามารถย้ายการส่งออกจากฐานการผลิตที่เวียดนามและมาเลเซียได้
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* MLINK มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. – 14 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
* COLOR / SMART / EVER / RICH / SUPER / SOLAR / CWT / TMI / FVC มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 21 พ.ย. 57
* ACD / CIG / EMC / FOCUS / GENCO / NIPPON / SST / TAKUNI / TIES มีผลบังคับใช้ 20 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
* BSM / PCA / SANKO / SVOA / TFI / WIN มีผลบังคับใช้ 27 ต.ค. - 4 ธ.ค. 57
* ABC / CCN / CSS / EVER / GENCO-W1 / KC / LOXLEY-W / RCI / RPC / WAT มีผลบังคับใช้ 3 พ.ย. – 12 ธ.ค. 57
* AEC/ AEC-W2 / CGD-W3 / CHOW / CKP / GEL-W4 / LIVE / MILL-W2 / PAE / PLE-W2 / RWI SPA / TEAM / TSE มีผลบังคับใช้ 10 พ.ย. - 19 ธ.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 39.81 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,613.74 จุด เพิ่มขึ้น 39.81 จุด หรือ +0.23% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,651.62 จุด เพิ่มขึ้น 19.09 จุด หรือ +0.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,038.26 จุด เพิ่มขึ้น 6.34 จุด หรือ +0.31% ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 214,000 ราย ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนต.ค.ร่วงลงแตะระดับ 5.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 1.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.4 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.34 ดอลลาร์/บาร์เรล กลุ่มโอเปคจะจัดการประชุมในวันที่ 27 พ.ย.ที่กรุงเวียนา ประเทศออสเตรีย ขณะที่นายอาลี อัล-โอมาร์ รมว.พลังงานของคูเวตคาดการณ์ว่า โอเปคอาจจะยังไม่ปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคปรับตัวเพิ่มขึ้น 53,000 บาร์เรล แตะที่ 30.974 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
Analyst :
วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร