- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 10 November 2014 15:56
- Hits: 1754
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
Downside Risk จำกัด...คงมุมมองเชิงบวกต่อ SET เหมือนเดิม: SET เคลื่อนไหวในกรอบแคบปิดตลาดปรับลดลง 0.15% ที่ 1,578.37 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,355 ล้านบาท...การ “พักฐาน” ของ SET ในสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้มุมมองเชิงบวกต่อ SET เปลี่ยนไป โดยคงเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสั้นที่ 1,600 จุด และปลายปีที่ 1,650 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) แรงซื้อหุ้นจากกองทุน RMF LTF มูลค่า 1-2 หมื่นล้านบาทในช่วง พ.ย.-ธ.ค. 2) เศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนเร่งตัวขึ้นเป็น +16.5% ในปี 2015 3) ผลกระทบจากการยุติ QE สหรัฐฯ จำกัด ขณะที่ BOJ และ ECB ใช้มาตรการ QE หนุนสภาพคล่องต่อเนื่อง
“ซื้อ” CPF กำไรฟื้นตัว ขณะที่ราคาหุ้นถูกกดดัน...และ “ซื้อ” EA ต่อเนื่องจากเมื่อวันศูกร์: กลยุทธ์หลักยังแนะนำ “ซื้อ” Domestic Play โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่-กลาง อย่าง AOT KBANK BBL SCC CK STEC SPALI LPN QH BGH INTUCH SAMART SIRI SAPPE TUF EA (ถูกนำไปคำนวน MSCI) และ “ซื้อ” CPF หลังประกาศกำไร 3Q14 ที่ 4.2 พันล้านบาทดีกว่าคาด 6% คาด Rebound เป้าหมาย 29.5/30.5 บาท
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BGH, BTS, CK, EA, KBANK, SAMART, SAPPE, SPALI, และ TUF เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง จากสัปดาห์ก่อน โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา Tactical Portfolio มีการปรับพอร์ต 2 ครั้ง โดย 1) “ซื้อ” BGH และ “ขาย” BEAUTY 2) “ซื้อ” EA และ “ขาย” STEC
Tactical Portfolio: ให้อัตราผลตอบแทน -1.03% w-w (3-7 พ.ย. 2014) ต่ำกว่า SET ที่ให้อัตราผลตอบแทน -0.37% w-w อยู่ 0.66% โดยหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดใน Tactical Portfolio ได้แก่ TUF (ถูกนำเข้าไปรวมในดัชนี MSCI Thailand ที่จะ Effective ในวันที่ 25 พ.ย.นี้) และ SPALI ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง 7.4% และ 1.9% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามลำดับ ขณะที่ SAMART และ CK ให้อัตราผลตอบแทนต่ำสุดใน Tactical Portfolio...ทั้งนี้ตั้งแต่จัดทำ Tactical Portfolio เมื่อวันที่ 13 ม.ค.14 ให้อัตราผลตอบแทน 56.82% ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน 24.88% หรือให้อัตราผลตอบแทนดีกว่า SET อยู่ 25.57%
BTS กำไร 2Q15 ใกล้เคียงคาด: BTS ปะรกาศกำไร 611 ล้านบาท +8% y-y และ 7% q-q ใกล้เคียงคาด โดยเราแนะนำ “ซื้อ” ต่อเนื่อง เป้าหมายพื้นฐาน 11.50 บาท
Technical
ควรปิดเหนือระดับ 1580 จุด : ดัชนี SETมีจังหวะลงมาทดสอบแนวรับย่อย 1578-80 จุด ยังคงยืนเหนือแนวเส้นค่าเฉลี่ย 1 สัปดาห์ คาดว่าจะยืน 1580 จุดได้ และมีมุมมองบวกที่จะขึ้นทดสอบแนวต้าน 1600 จุด และเป้าหมายทำยอดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1640-50 จุดในช่วงสิ้นปี สัปดาห์นี้คาดว่า SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1570-1590 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ : EE ฟื้นเป็นสัญญาณบวก ราคากลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1.50 บาท มีแนวโน้มขึ้นระยะสั้น คาดว่าจะทดสอบยอดเดิมที่บริเวณ 1.66 บาท APURE สิ้นสุดการพักตัวระยะสั้น ราคากลับมายืนเหนือระดับ 2.20 บาท กำลังจะทำยอดสูงสุดใหม่ จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2.42 เป้าหมายทำยอด 2.60 JAS (7.60) สัปดาห์ที่แล้วทะลุ 7.40 บาท ปิดบวกขึ้นแข็งแกร่ง เป็นจังหวะซื้อตาม คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.80 และเป้าหมายสูงสุด 8.20 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50Z14 ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,072 จุด อิง SET ที่ 1,600 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,048 จุด ต่อไป
Gold Futures: แนะนำ “ปิด” สถานะ Short สัญญา GFZ14 หลังจากปรับสูงขึ้นเหนือแนวต้านที่ 18,000 บาท มีจังหวะ Rebound ไปที่บริเวณ 18,400-18,500 บาท โดยเราแนะนำ “เปิด” สถานะ Long ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 17,900 บาท
Oil Futures: แนะนำ “เปิด” สถานะ Long สัญญา BRX14 โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 2780-2800 ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 2700 โดยราคาน้ำมัน Brent อยู่ในภาวะ Oversold มาก และพร้อมที่จะ Rebound ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น US$0.53 ปิดตลาดที่ US$83.39/bbl
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล