- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 July 2021 12:22
- Hits: 16036
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 9-7-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 9 กรกฎาคม 2564
INVESTMENT STRATEGY
ผันผวน :
จับตาประชุม ศบค.วันนี้
วันนี้คาด SET แกว่งผันผวน ในกรอบแนวรับ 1,530 จุด และแนวต้าน 1,565 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรดี โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “TU, SIS”
TU
แนวโน้มกำไรแข็งแกร่งใน 2Q64 เติบโตทั้ง QoQ, YoY จากยอดขายอาหารทะเลแช่แข็งและอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงและควบคุมต้นทุนได้ดี ขณะที่ Red Lobster ฟื้นตัวได้ดีหลังการเปิดเมือง เราคาดว่ากำไร 3Q64 ดีต่อเนื่อง โดยได้ผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 22.1 บาท
SIS
คาดกำไร 2Q64 เติบโต YoY และทรงตัวในระดับสูง QoQ จากยอดขายสินค้า IT ที่อยู่ในเกณฑ์ดี ผสานโอกาสการ Work from home ที่คาดจะต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี เป็นปัจจัยที่หนุนกำไรครึ่งปีหลังขยายตัวดีกว่าครึ่งแรก และระยะกลางจะมีสัดส่วน Recurring income มากขึ้นหนุน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 40 บาท
INVESTMENT THEME
จับตาประชุม ศบค.วันนี้
เกาะติดการประชุม ศบค. วันนี้ : ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงแรง ตอบรับความกังวลต่อสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศที่ปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ใหม่ๆ กดดันให้การควบคุมสถานการณ์ทำได้ยากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ ศบค.นัดประชุมชุดใหญ่ เร่งด่วนในวันนี้ เพื่อหาทางแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเราเชื่อว่ามีโอกาสที่จะเพิ่มมาตรการสกัด COVID-19 ที่เข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ดี SET ที่ย่อตัวในช่วงสัปดาห์นี้ก็ถือว่าตอบรับปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวไปในระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นบริเวณ 1500-1530 จุด อาจจะเห็นการเกิด Technical Rebound ได้
กระแสเงินระยะสั้นยังคงไหลเข้าตลาดพันธบัตร : ตัวเลขเศรษฐกิจในระยะสั้นของสหรัฐฯเริ่มออกมาแย่กว่าคาด เช่น การรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 3.73 แสนราย จากที่ตลาดคาดที่ 3.5 แสนราย ผสานกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์ COVID-19 ที่มีการกลายพันธุ์ค่อนข้างมาก กลับมาเป็นประเด็นกดดันการฟื้นตัวของหลายประเทศทั่วโลกอีกครั้ง ส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนระยะสั้นยังคงเห็นกระแสเงินทุนไหลเข้าพักในตลาดสินทรัพย์ปลอดภัย สะท้อนได้ชัดเจนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทำจุดต่ำสุดในรอบ 16 เดือน สู่ระดับ 1.29% จึงอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET แกว่งตัวลง ตอบรับสถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศ เพิ่มโอกาสใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น โดย SET ปิดที่ 1,543.67 (-32.93) มูลค่าการซื้อขาย 1.11 แสนล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 8.2 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 5 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 1,864 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 14,256 สัญญา)
EYES ON
8 ก.ค. ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ของ US, สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของ US
9 ก.ค. ดัชนี CPI ของจีน
Thai Union Group (TU)
คาดกำไรแข็งแกร่งใน 2Q64
BUY
Share Price THB 20.90
12 m Price Target THB 22.10 (+6%)
Previous Price Target THB 18.00
ประเด็นการลงทุน
แนวโน้มกำไรแข็งแกร่งใน 2Q64 เติบโตทั้ง QoQ, YoY จากยอดขายอาหารทะเลแช่แข็งและอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงจากการเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงและควบคุมต้นทุน ขณะที่ Red Lobster ฟื้นตัวได้ดีหลังการเปิดเมือง เราคาดว่ากำไร 3Q64 ดีต่อเนื่อง โดยได้ผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า และเชื่อว่ากำไรปีนี้มีโอกาสดีกว่าที่เราเคยประเมิน ด้วยทิศทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นเราจึงปรับ PE Valuation จาก 13 เท่า เป็น 16 เท่า (อิง PE -0.5 SD) ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 22.10 บาท จากเดิม 18 บาท แนะนำ Trading Buy
คาดกำไร 2Q64 เพิ่มขึ้น 7% QoQ และ 25% YoY
เบื้องต้นเราประเมินกำไรปกติ 2Q64 เพิ่มขึ้น 7% QoQ และ 25% YoY เป็น 1,910 ล้านบาท เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่า และเข้าสู่ไฮซีซั่นของการขาย อาหารทะเลแช่แข็งมียอดขายฟื้นตัวสูงจากการที่ร้านอาหารในสหรัฐฯ กลับมาเปิดมากขึ้นหลังจากการเปิดเมือง ส่วนกลุ่มอาหารทะเลแปรรูปมียอดขายชะลอลงจากฐานสูงในปีก่อนที่มีการตุนสินค้าในช่วงล็อคดาวน์ แต่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นยังทรงตัวค่อนข้างสูง เนื่องจากควบคุมต้นทุนได้ดีและราคาวัตถุดิบปลาทูน่ายังต่ำ ขณะที่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตดีต่อเนื่อง เราจึงประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ TU จะอยู่ในระดับสูงที่ 18% (เพิ่มจาก 17.7% ใน 1Q64) นอกจากนั้นคาดว่า Red Lobster จะขาดทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อนที่มีมีล็อกดาวน์ เนื่องจากการเปิดเมืองในสหรัฐฯ เราคาดว่า TU จะจ่ายเงินปันผล 1H64 เท่ากับ 0.35 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 1.7%
ผลประกอบการมีสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่อง
แนวโน้มกำไรยังแข็งแกร่งต่อใน 3Q64 ที่เป็นพีคซีซั่นและเงินบาทอ่อน ธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งเป็นทิศทางขาขึ้น และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตดีตาม demand ที่เพิ่มขึ้นและการออกสินค้าใหม่ๆ ที่มีอัตรากำไรสูง ขณะที่ Red Lobster มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ยั่งยืนมากขึ้นหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจทำให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายลดลง อีกทั้งยอดขายฟื้นตัวจากการเปิดร้านให้นั่งทานได้แล้วกว่า 97% ของจำนวนร้านทั้งหมด
แนวโน้มกำไรปีนี้อาจดีกว่าที่เราคาด
หากกำไร 2Q64 เป็นไปตามที่เราคาด จะทำให้กำไร 1H64 คิดเป็น 56% ของประมาณการทั้งปี เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น 1H64 ที่ 17.8% ดีกว่าที่เราคาดไว้ในปีนี้ที่ 17.0% จากการเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรดี รวมทั้งควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพดำเนินงาน ขณะที่ผลประกอบการของ Red Lobster มีแนวโน้มดีกว่าคาด โดยขาดทุนลดลงมากกว่า 50% จากปีก่อน
ความเสี่ยง: Red Lobster ขาดทุนมากขึ้น ราคาปลาทูน่าผันผวน เงินบาทแข็งค่าอย่างมีนัยยะ ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น
Suttatip Peerasub
(66) 2658 6300 ext 1430
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ