- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 10 November 2014 15:31
- Hits: 1788
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ยังมีสิทธิผันผวนและปรับตัวลง จึงแนะนำค่อยๆ ทยอยซื้อลบ...
กลยุทธ์ : FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งพักตัวลงให้เป็นจังหวะในการเลือกหุ้นเข้าซื้อสะสมได้ในช่วงนี้ โดยยังแนะนำให้เน้นเป็นทยอยค่อยๆ เข้าดีกว่า เพราะตลาดยังเสี่ยงต่อการแกว่งลง โดยกลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ โรงแรม ค้าปลีก โรงพยาบาล ยานยนต์ แบงก์ รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มประกันชีวิต รวมทั้งสายการบินต้นทุนต่ำ เป็นต้น
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SAWAD, ICHI , CENTEL(buy back)
แนวโน้ม : สัปดาห์ที่แล้ว SET เริ่มแกว่งตัวผันผวนในกรอบจำกัด หลังจากบวกขึ้นมาพอควรแล้วในรอบที่ผ่านมา โดยมีแรงขายออกมากดดันให้มีจังหวะแกว่งพักตัวลงเคลื่อนไหวเป็นลบด้วย หลังจากผลประชุม ECB ออกมาถือว่าไม่ได้ส่งผลบวกมากนัก ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐก็ไม่ได้ดีเท่ากับที่นักลงทุนคาดไว้ แต่ตัวเลขการว่างงานของสหรัฐเดือน ต.ค.ที่ออกมาต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ยังพอที่จะช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐไว้ได้บ้าง ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดเป็นบวกได้เล็กน้อย แต่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ยังปรับตัวลง เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหนัก หลังเจ้าหน้าที่ ECB ส่งสัญญาณเข้มงวดในการตรวจสอบธนาคารพาณิชย์ ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดทำการค่อนข้างไร้ทิศทาง โดยส่วนใหญ่เคลื่อนไหวเป็นบวก-ลบแคบๆ มากกว่า (ยกเว้นตลาดหุ้นเกาหลีและฮ่องกงที่ขยับบวกขึ้นได้ค่อนข้างแรง) และถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นบ้าง แต่ทิศทางก็ยังมีสิทธิอ่อนค่าต่อเนื่องมากกว่า ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงก่อนได้ เราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นเข้าซื้อในช่วงตลาดปรับตัวย้อนลงน่าจะปลอดภัยกว่า
แนวรับ 1576-1573 , 1570-1567 จุด แนวต้าน 1580-1582 , 1585-1588 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในปริมาณที่เบาบางเพียง US$654 ล้าน จาก US$1,807 ล้านในสัปดาห์ก่อนหน้า ศุกร์ที่ผ่านมา Flow ไหลเข้าแต่ปริมาณเบาบางมาก โดยนักลงทุนซื้อตลาดไต้หวัน US$69.7 ล้าน ไทย US$41.3 และเวียดนาม US$5.1 ล้าน แต่ขายเกาหลีใต้ US$55.4 ล้าน อินโดนีเซีย US$15.1 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$9.2 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะไหลเข้าต่อแต่เบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) สัปดาห์ที่ผ่านมาบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบ 9 เดือน ส่วนตลาดหุ้นทรงตัว สัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทอ่อนค่าจากแรงหนุนของดอลลาร์ที่แข็งค่าตามข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดี และผลเลือกตั้งกลางเทอมที่พรรครีพลับลิกันชนะเสียงข้างมากทั้งในสภาสูงและสภาล่าง บวกกับการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมของ BOJ และ ECB ยิ่งหนุนให้มีการซื้อดอลลาร์ แม้ว่าค่าดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อไปในระยะยาวแต่สัปดาห์นี้ทิศทางค่าเงินบาทน่าจะปรับฐาน (แข็งค่า) ขึ้นมาบ้างโดยยังต้องจับตา GDP 3Q14 ของยูโรโซนปลายสัปดาห์และข้อมูลเศรษฐกิจเดือน ต.ค.ของจีน
(+) TUF นอกจากจะได้เข้าคำนวณ MSCI รอบนี้แล้ว (หุ้นที่เข้า MSCI ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% นับตั้งแต่วันที่ประกาศรายชื่อถึงวันที่มีผลบังคับใช้) แนวโน้มกำไรปกติ 3Q14 จะทำจุดสูงสุดใหม่ +26% Q-Q, +94% Y-Y เพราะเป็น high season ของธุรกิจและอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจทูน่าดีขึ้น ส่วนธุรกิจกุ้ง มีกำไรต่อเนื่อง เราคาดกำไรปกติปี 2014-15 เติบโต 115% Y-Y และ 22% Y-Y ตามลำดับ แต่ราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์ปรับขึ้นแรง แนะนำรอซื้ออ่อนตัว ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 84 บาท (PE 15 เท่า)
(+) ITD เพิ่มทุน PP 419.37 ล้านหุ้น ตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ราคาหุ้นละ 5.05 บาท ขายให้นักลงทุนทั้งสถาบันและบุคคลธรรมดา การเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น 2.1 พันล้านบาท มูลค่าตามบัญชีปี 2014-15 เพิ่มขึ้น 7-8% เป็น 2.75 บาทและ 2.87 บาทตามลำดับ หนี้ต่อทุนลดลงเหลือ 1.68 เท่าในปีนี้ และ 1.41 เท่าปีหน้า จากเดิมกว่า 2 เท่า ส่วน EPS จะ dilute 8% แต่ราคาเป้าหมายของเราอิง PBV อย่างน้อย 2 เท่า จึงมีแนวโน้มปรับขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 5.80 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นจากขาย เป็นเก็งกำไร
(0) GLOBAL กำไรสุทธิลดลง 23% Q-Q และ 34% Y-Y ต่ำกว่าทั้งเราและ Consensus คาด ยอดขายสาขาเดิมติดลบต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 เพราะกำลังซื้อในต่างจังหวัดยังไม่ฟื้น และยังถูกกระทบจาก Cannibalization จากสาขาที่เปิดใหม่ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า GLOBAL ผ่านกำไรที่ต่ำสุดไปแล้ว แต่การฟื้นตัวจะค่อยเป็นค่อยไป ยอดขายสาขาเดิมใน 4Q14 น่าจะติดลบน้อยลง เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 13 บาท คงคำแนะนำถือ
(0) CPF กำไรสุทธิ +17% Q-Q, +57% Y-Y ส่วนกำไรปกติ +6% Q-Q, +161% Y-Y เป็น 2,314 ล้านบาท แม้จะสูงสุดในรอบ 10 ไตรมาสแต่ต่ำกว่าเราคาด จากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่าคาด ในส่วนของธุรกิจหลักคือไก่ส่งออกและกุ้งดีขึ้น ใน 4Q14 เป็น low season แต่คาดกำไรชะลอเล็กน้อยเพราะบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขาย CPP ไปลดหนี้และบันทึกกำไรจากการขายที่ดินเป็นหลักร้อยล้านบาท เราปรับกำไรปกติปีนี้ลง 9% แต่คงกำไรปกติปี 2015 ที่คาดโต 45% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 37.50 บาท คงคำแนะนำซื้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาแกว่งตัวผันผวนแต่ก็ยังสามารถปิดในแดนบวกได้เล็กน้อย โดยตัวเลขอัตราการว่างงานปรับตัวลดลงดีกว่าที่คาด ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนลบเป็นส่วนใหญ่นำโดยกลุ่มธนาคารหลังเจ้าหน้าที่ ECB ส่งสัญญาณเข้มงวดการตรวจสอบธนาคารพาณิชย์
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกหลังตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานสหรัฐฯออกมาค่อนข้างน่าพอใจ
ค่าเงินบาทเริ่มมีจังหวะแข็งค่าขึ้นหลังจากอ่อนตัวต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์หลัง ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.68-32.80 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวขึ้น 0.74 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 78.65 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังประเด็นความตึงเครียดในลิเบียและยูเครนกลับมากดดันปัจจัยด้านอุปทานอีกครั้ง
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้น 27.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,169.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงรวมถึงแรงซื้อจากการ Short-Covering
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
8 พ.ย. - จีน: ดุลการค้า (ต.ค.)
10 พ.ย. - จีน: สินเชื่อใหม่ (ต.ค.)
11 พ.ย. - ไทย: NCL เริ่มเทรด (ราคา 1.80 บาท)
12-13 พ.ย. - ASEAN Summit
13 พ.ย. - จีน: Retail sales, Industrial production (ต.ค.)
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
14 พ.ย. - ฮ่องกง: 3Q14 GDP
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ต.ค.)
- ยูโรโซน: GDP 3Q14, อัตราเงินเฟ้อ (ต.ค.)
17 พ.ย. - ไทย: 3Q14 GDP, ยอดขายรถ (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: 3Q14 GDP
19 พ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ต.ค.)
21 พ.ย. - ไทย: CBG เริ่มเทรด (สรุปราคาจอง 11 พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
