- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 June 2021 12:21
- Hits: 2675
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 22-6-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 22 มิถุนายน 2564
INVESMENT STRATEGY
ฟื้นตัว :
รอถ้อยแถลงโพเวลคืนนี้
วันนี้คาด SET ฟื้นตัว ในกรอบแนวรับ 1,590 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรขยายตัวดี โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “SMT, KWM”
SMT
การขยับเข้าสู่สินค้า megatrend อย่าง Fiber Optics ที่มีอายุสินค้ายาว และมุ่งสู่บริการงานที่เป็นระบบ (Box Build) มากกว่างานเดิมที่เป็นชิ้นส่วน(Components) หนุนมาร์จิ้นทำจุดสูงสุดใหม่ และคาดกำไร 2Q64 จะเติบโต QoQ, YoY ยืนยันด้วยยอดจองกว่า 96% ของเป้ารายได้
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 8.0 บาท
KWM
คาดกำไรปีนี้ที่ 98 ล้านบาท (+126%YoY) ทำสถิติใหม่ 2 ปีติดกัน จากยอดขายและมาร์จิ้นที่สูงขึ้นหลังปรับสายการผลิตและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ อีกทั้งลูกค้าหลักที่มียอดผลิตรถแทร็กเตอร์ที่สูงมากหนุนรายได้เพิ่ม ส่วนเครื่องสกัดสารกัญชงคาดจะเร่งกำไรขึ้นในช่วงถัดไป
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 7.15 บาท
INVESTMENT THEME
ฟื้นตัวรอถ้อยแถลงโพเวลคืนนี้
ลุ้นฟื้นตัว : วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับฐานตอบรับความกังวลต่อโอกาสในการปรับดอกเบี้ยสหรัฐฯขึ้นเร็วกว่าคาด แต่อย่างไรก็ดีตลาดยังมีแรงซื้อหนุนกลับมาปิดบริเวณเหนือ 1,600 จุดได้ โดยคาดแรงหนุนหลักจากภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้นตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง รวมถึงการเร่งฉีดวัคซีนให้ขึ้นสู่เป้าหมายของภาครัฐที่ได้วางไว้ และท้ายที่สุดก็จะนำไปสู่การเปิดประเทศภายใน 120 วัน ซึ่งหากสามารถทำได้จริง คาดจะเป็นปัจจัยที่ช่วยฟื้นความเชื่อมั่น และเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของทั้งภาคท่องเที่ยวไทย และภาคการบริโภค ผสานกับ Sentiment บวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ที่รีบาวน์กว่า 586 จุด (+1.76%) และราคาน้ำมันดิบโลกที่ +1.9% ขานรับการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านที่ยังไม่คืบหน้า ผ่อนคลายอุปทานที่จะเข้ามากดดัน จึงคาดวันนี้ SET มีโอกาสฟื้นตัว
จับตาถ้อยแถลงโพเวลคืนนี้ : นายเจอโรม โพเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เตรียมกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์ COVID-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในคืนนี้ โดยคาดจะพูดถึงภาวะ
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ย่อก่อนฟื้นตัว โดยมีแรงขายจากความกังวลดอกเบี้ยสหรัฐฯจะเร่งขึ้นเร็วกว่าคาดเดิม โดย SET ปิดที่ 1,601.13 (-11.85) มูลค่าการซื้อขาย 8.3 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 1.10 แสนล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 3,244.39 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 2,022.07 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 14,748 สัญญา)
EYES ON
23 มิ.ย. การประชุม กนง., ยอดส่งออกไทย, PMI ภาคการผลิตและบริการสหรัฐฯและยูโรโซน, ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ
24 มิ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน สหรัฐฯ, US GDP, ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ
25 มิ.ย. PCE Core Deflator, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ
AEON Thana Sinsap (AEONTS TB)
คาดผลดำเนินงานดีขึ้นครึ่งปีหลัง 64
BUY
Share Price THB 191.00
12 m Price Target THB 260.00 (+36%)
Previous Price Target THB 260.00
มีโอกาสลด LLR ส่วนเกิน แนะนำ ซื้อ
จากการเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอในระยะเวลาอันใกล้นี้ เราคาดว่า AEONTS จะลดปริมาณสำรองหนี้เสียส่วนเกิน (LLR) เพื่อรองรับกำไรต่อหุ้นปี 64 ที่จะเติบโต 10% YoY เรามองเป็นโอกาสดีในการสะสมหุ้นเนื่องจากมูลค่าปัจจุบันน่าสนใจ โดย PER ปี 64 ที่ 12 เท่า และ P/BV 2.8 เท่า เราคาดว่าอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นและจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงต่อวันจะช่วยให้การใช้จ่ายผ่านบัตรดีขึ้นในครึ่งปีหลัง คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 260 บาท บน P/BV ปี 64 ที่ 3.3 เท่า, PER 16 เท่า และ ROE 21.5% ความเสี่ยงที่สำคัญคือคุณภาพสินทรัพย์แย่ลงและการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น
กำไรไตรมาส 1/64 เติบโต 88% YoY จากต้นทุนเครดิตที่ลดลง
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ AEONTS จะเติบโต 88% YoY (จากต้นทุนเครดิตที่ลดลง) แต่ลดลง 16% QoQ (จากการเติบโตของสินเชื่อที่อ่อนแอ) เป็น 996 ล้านบาทในไตรมาส 1/64 คาดสินเชื่อลดลง 2% QoQ เนื่องจากการหดตัวของบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลจากการระบาดระลอกที่ 3 เราคาดว่า NIM จะลดลง 17.6%, ลดลง 10bp YoY และ 260bps QoQ ผล จากเพดานดอกเบี้ยที่ลดลง ในแง่บวก คาดรายได้ non-nii เติบโต 12% YoY หนุนโดยรายได้ที่ดีจากหนี้สูญได้รับคืน ขณะที่ Opex คาดจะคงที่ด้วยแผนการลดต้นทุน
คาดคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นด้วยอัตราส่วน NPL ที่ลดลง
เราคาดว่าอัตราส่วน NPL จะลดลง 5.5% ใน 1Q64 จาก 5.8% ใน 4Q63 เนื่องจาก AEONTS เร่งตัดจำหน่ายเพื่อเคลียร์งบดุล ทั้งนี้ บริษัทตัดจำหน่ายในอัตราที่ช้าลงในไตรมาส 4/63 เนื่องจากลูกค้าที่ออกจากโครงการบรรเทาหนี้ (ประมาณ 500 ล้านบาท) กลับมาจ่ายหนี้ได้ เราคาดว่า AEONTS จะลด LLR ส่วนเกินและ NPL coverage ให้ค่อยๆ ลดลงเป็น 219% ในปี 64 จาก 230% ในปี 63
ผลกระทบจากการลดเพดานดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น
เราเห็นความเสี่ยงในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทบทวนอัตราดอกเบี้ยสำหรับบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล การวิเคราะห์ความอ่อนไหวของเราแสดงให้เห็นว่ารายรับปี 64 ของ AEONTS จะลดลง 1.8% หากผลตอบแทนเงินกู้ลดลง 10bp ทั้งนี้ ธปท. ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 2-4% เป็น 16% และ 25% ตามลำดับในเดือน ส.ค.63
Jesada Techahusdin, CFA
(66) 2658 6300 ext 1395
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web