- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 November 2014 16:15
- Hits: 2377
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แกว่งตัวในกรอบแคบ
Technical : แนวรับ : 1,572 / 1,567 แนวต้าน 1,591 / 1,602
หุ้นแนะนำพิเศษ : TUF
หุ้นเด่นรายวัน : CHO
SET วานนี้แกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ เนื่องจากนลท.รอฟังผลการประชุม ECB ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ส่งผลให้ภาวะตลาดส่วนใหญ่เป็นแรงซื้อในหุ้นกลาง-เล็ก ก่อน SET จะปิดที่ 1,580.77 จุด (+3.37 จุด หรือ +0.21%) Volume 5.5 หมื่นลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
ผลการประชุม ECB ออกมาตามคาดประกาศคงดอกเบี้ยระดับต่ำที่ 0.05% ต่อไป และจะเริ่มซื้อ Asset-backed Securities (ABS) ในเร็วๆนี้ รวมถึงตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯลดลงมาอยู่ที่ 2.7 แสนราย บ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นภาวะการลงทุนในวันนี้ อย่างไรก็ตามการดีดตัวขึ้นจะถูกแรงกดดันจากปัจจัยลบ OECD ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปี 2557 และ 2558 ลง ดังนั้นคาดว่า SET วันนี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,570 – 1,590 จุด โดยยังคงเน้นการเข้าซื้อเก็งกำไรรอบสั้นๆ จนกว่า SET จะทะลุ 1,600 จุดได้จึงจะเป็นการยืนยันสัญญาณขาขึ้นรอบใหม่
กลยุทธ์
เรายังคง focus ไปที่ทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.86 TB/USD ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มส่งออก ดังนั้นแนะนำให้สะสมหุ้นกลุ่มส่งออกเช่น CPF TUF KCE CCET รวมถึงสะสมหุ้นที่คาดว่ากำไร Q3/14 เติบโต RML SYNTEC
AKR วันที่ 7 พ.ย. จัดงาน AKR Day เปิดเผยแนวโน้มทางธุรกิจในอนาคต
คาดการณ์ MSCI ประกาศเพิ่ม DELTA EA TUF เข้าสู่ดัชนี MSCI Thailand มีผลบังคับใช้วันที่ 25 พ.ย.
หุ้นแนะนำพิเศษ
TUF : ปิด 77 บาท ซื้อเก็งกำไร ราคาพื้นฐาน consensus สูงสุดที่ 96 บาท
consensus คาดกำไร Q3/14 ที่ 1.5 พันลบ. (+3%QoQ และ +56% YoY) เติบโตจาก order ปลาทูน่าที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบลดลง ธุรกิจกุ้งฟื้นตัว
ตั้งเป้ารายได้ปี 2557 ที่ 4 พันล้านUSD และคาดกำไรปี 2557 ราว 4.4 พันลบ. (+55%yoy) ตามทิศทางธุรกิจหลักที่ฟื้นตัว (ปลาทูน่าและกุ้ง) รวมถึงได้ผลดีจากค่าเงินบาที่อ่อนค่าหนุนต่อการส่งออกมากขึ้น
เข้าซื้อกิจการต่างประเทศ 2 แห่ง ได้แก่ King Oscar และ MerAliance ช่วยหนุนรายได้และกำไรในอนาคต
ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมที่ 5 พันล้านUSD ในปี 2558 และ 8 พันล้าน USD ในปี 2563
หุ้นเด่นรายวัน
CHO : (ปิด 5.30 ซื้อเก็งกำไร) มีลุ้นได้งานต่อเรือของกองทัพเรือมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท พร้อมเร่งสรุปแผนงานปีหน้า ภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ส่งซิกครึ่งปีหลังเข้าช่วงไฮซีซันธุรกิจ ดันผลงานโตแรง แย้มรายได้ปีนี้มีลุ้นแตะ 1.4 พันล้านบาท พร้อมตั้งตารอการเปิดขายซองเข้าประมูลรถโดยสาร NGV ล่าสุดเปิดตัว "รถขนลาก" ครั้งแรกในเมืองไทย (ที่มา : ทันหุ้น)
มุมมองด้านเทคนิค - แนวรับ 5.20 แนวต้าน 5.60 , 6.00 จุด cut loss 5.00 สัญญาณทางเทคนิคกลับตัวขึ้นแบบ W shape และราคายืนเหนือเส้น EMA 10 วันได้ตลอด พร้อมทั้ง RSI + MACD ชี้ขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* EE มีผลบังคับ 15 ก.ย. – 7 พ.ย. 57
* MLINK มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. – 7 พ.ย. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
* COLOR / SMART / EVER / RICH / SUPER / SOLAR / CWT / TMI / FVC มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 21 พ.ย. 57
* ACD / CIG / EMC / FOCUS / GENCO / NIPPON / SST / TAKUNI / TIES มีผลบังคับใช้ 20 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
* BSM / PCA / SANKO / SVOA / TFI / WIN มีผลบังคับใช้ 27 ต.ค. - 4 ธ.ค. 57
* ABC / CCN / CSS / EVER / GENCO-W1 / KC / LOXLEY-W / RCI / RPC / WAT มีผลบังคับใช้ 3 พ.ย. – 12 ธ.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 17.60 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,484.53 จุด เพิ่มขึ้น 100.69 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,023.57 จุด เพิ่มขึ้น 11.47 จุด หรือ +0.57% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,620.72 จุด ลดลง 2.92 จุด หรือ -0.06% ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า พรรครีพับลิกันสามารถคว้าฐานอำนาจในการควบคุมวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และยังสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์กล่าวว่า พรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจมากกว่า ตลาดจึงขานรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากนั้น ชัยชนะของพรรครีพับลิกันได้จุดประกายความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าเสรีในภูมิภาคแปซิฟิกระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นด้วย
Analyst :
วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร