- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 27 May 2014 14:47
- Hits: 3357
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
แรงขายหุ้นขนาดใหญ่กดดัน SET…Sideways กรอบ 1,375-1,400 จุด: SET ปรับลดลง 0.61% ปิดตลาดที่ 1,388.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.55 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 3,357 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้น คาดว่าจะเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,375-1,400 จุด เนื่องจาก 1) ตลาดรอความชัดเจนต่อการตั้งทีมเศรษฐกิจ หลังมีพระบรมราชโอชงการโปรดเกล้า ผบ.ทบ.เป็นหัวหน้า คสช. 2) นักลงทุนต่างชาติยังปรับพอร์ตไม่เสร็จ ซึ่งเห็นได้จากแรงขายกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะธนาคาร ขณะที่กลุ่ม PTT ได้รับแรงกดดันจากโอกาสที่จะถูกปฎิรูปพลังงาน พลังรัฐประหาร ขณะที่ถ้าพิจารณาในเชิงเทคนิค SET ควรยืนได้เหนือ 1,395 จุด ถึงจะเป็นสัญญาณ “บวก”
MSCI Play ”เก็งกำไร” BH, TTCL, BJCHI…”ซื้อ” KBS: นอกจากกลุ่มค้าปลีก อย่าง CPALL MC ที่คาดว่าจะได้รับผลดีระยะสั้นจากการจ่ายเงินจำนำข้าว เราแนะนำ “เก็งกำไร” BH, TTCL, และ BJCHI ที่จะถูก “เพิ่ม” เข้าไปในดัชนี MSCI Small Cap ปลายสัปดาห์นี้ และ “ซื้อ” KBS ด้วยเป้าหมายพื้นฐานใหม่ที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้นจาก 14.20 บาท หลังประกาศลงทุนโรงงานเอทานอล และเพิ่มกำลังผลิตน้ำตาล 50%
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ “ถือ” BTS, CPALL, DTAC, EA, INTUCH, JAS, KBS, SAMART, SPALI และ SPCG ใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง
KBS: แนะนำ “ซื้อ” ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 15.50 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 14.20 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) กำไร KBS มีคุณภาพมากขึ้น จากธุรกิจไฟฟ้าตั้งแต่ปีนี้ และจะรับรู้กำไรจากธุรกิจไฟฟ้าเต็มปีตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรจากธุรกิจน้ำตาลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 2) PE ของ KBS ซื้อขายต่ำกว่า KSL ที่เป็น Integrated Plant (น้ำตาล + โรงไฟฟ้า + เอทานอล) 2-3x ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเราคาดว่าส่วนต่างตรงนี้จะหมดไปหลังจาก KBS ลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า และเอทานอล (ดูกราฟหน้า 2) 3) แม้เราปรับลดคาดการณ์กำไรลง 6.4-8.3% ในปี 2014-15 เนื่องจากธุรกิจไฟฟ้าที่ประสบปัญหาหม้อแปลงระเบิด และค่าใช้จ่ายในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำตาลในปี 2016 แต่กำไรจะเติบโตโดดเด่นตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไปจากโรงไฟฟ้า โรงงานเอทานอล และกำลังการผลิตน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น 50% และ 4) ถ้าพิจารณาในทางเทคนิค KBS มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด ขณะที่คงเป้าหมายระยะสั้นที่ 11.20-11.50 บาท
Technical
แรงขาย PTT กดดันตลาด: คาดว่าดัชนี SET จะอยู่ในกรอบ 1375-1405 จุดในระยะสัปดาห์ แรงขายหุ้น PTT กดดันดัชนี SET ลงมาแตะระดับ 1380 จุด ยังส่งผลต่อทิศทางตลาด สำหรับวันนี้ดัชนี SET จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1380-1398 จุด
ซื้อระยะ 1 สัปดาห์: ITD ทะลุผ่าน 3.80 บาท เป็นสัญญาณเปลี่ยนทิศทางขึ้น เป็นจังหวะซื้อตาม คาดว่าจะขึ้นต่อไปทดสอบ 4.00 และ 4.20 บาท TPOLY ทะลุ 1.95 มีจังหวะซื้อ คาดว่าจะมีโอกาสขึ้นต่อไปที่ 2.14 หรือสูงสุดระยะสั้นที่ 2.20 บาท เป็นจุดขายทำกำไร BIGC มีโอกาสแกว่งตัวขึ้น จังหวะทะลุ 183.50 และ 185 บาท ผ่านได้เป็นสัญญาณซื้อตาม คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 188 บาท เป็นจุดขายทำกำไร
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 932-944 จุด รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน โดยคาดว่าราคา S50M14 จะเคลื่อนไหว “ผันผวน” ระยะสั้น รอความชัดเจนต่อการจัดตั้งทีมเศรษฐกิจ ขณะที่แรงขายนักลงทุนต่างประเทศยังหนาแน่น
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short ต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 19,700 บาท และถัดไปที่ 19,200 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 20,200 บาท
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 3,610 ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 3,560 โดยการปรับสูงขึ้นเข้าใกล้เป้าหมาย 3,600-3,610 เป็นโอกาสในการปิดสถานะเพื่อทำกำไรบางส่วน
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล