- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 June 2021 16:20
- Hits: 2183
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 2-6-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 2 มิถุนายน 2564
INVESTMENT STATEGY
แกว่งขึ้นต่อ :
น้ำมันโลกดีดขึ้นเด่น
MTC
คาดกำไร 2Q64 จะทำจุดสูงสุดใหม่จากความต้องการสินเชื่อจำนำทะเบียนและสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ยังคงแข็งแกร่ง และผู้บริหารไม่มีนโยบายที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเนื่องจากบริษัท สามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นแล้ว
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 68 บาท
PTTEP
ราคาน้ำมันดิบโลกแกว่งขึ้นทะลุระดับ 70 เหรียญต่อบาร์เรล ตอบรับความต้องการการใช้น้ำมันที่เร่งตัวขึ้น หลังสหรัฐฯและยุโรปมีการทยอยเปิดประเทศต่อเนื่อง ขณะที่อุปทานยังไม่ได้กลับมาเร่งตัวขึ้นเร็วเกินไป ถือเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานต้นน้ำ ที่ตลาดมีโอกาสจะเพิ่มน้ำหนักมากยิ่งขึ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 148 บาท
INVESTMENT THEME
น้ำมันโลกดีดขึ้นเด่น
น้ำมันดิบโลกทะลุ 70 เหรียญ : หลังจากที่มีการฉีดวัคซีนที่ทั่วถึงขึ้น หนุนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายประเทศกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง โดยสัญญาณล่าสุดสอดคล้องกับตัวเลข ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือนพฤษภาคม ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 61.2 จุด จากเดือนก่อนที่ 60.7 จุด และดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 61.0 จุด เพิ่มจิตวิทยาเชิงบวกต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นแรงทะลุระดับ 70 เหรียญต่อบาร์เรล คาดจะส่งผลบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน และเป็นแรงขับเคลื่อน SET index ที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากมูลค่าตลาดของกลุ่มพลังงาน คิดเป็นกว่า 25% ของมูลค่าตลาดรวมของ SET
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มแรงหนุนบวก : ภาพรวมในประเทศก็มีการเร่งฉีดวัคซีนในเดือนมิถุนายนเช่นเดียวกัน ซึ่งล่าสุดวัคซีน Sinovac ก็ได้รับการรับรองจาก WHO เรียบร้อยแล้ว น่าจะสร้างความเชื่อมั่นได้มากยิ่งขึ้น ผสานกับแรงกระตุ้นเพิ่มเติมจากการที่ ครม. มีมติอนุมัติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนำโดย 1) เพิ่มกำลังซื้อแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละ 200 บาท 6 เดือน เป็นวงเงิน 1.63 หมื่นล้านบาท 2) เพิ่มกำลังซื้อแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ คนละ 200 บาท 6 เดือน เป็นวงเงิน 3 พันล้านบาท 3) คนละครึ่งเฟส 3 ให้ 3000 บาท เป็นวงเงินรวม 1.86 แสนล้านบาท และ 4) ยิ่งใช้ยิ่งได้ คาดวงเงินราว 2.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งทั้งหมดคาดจะเป็นแรงหนุนบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไป
MARKET SUMMARY
วันนี้ SET แกว่งขึ้น โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มโลจิสติกส์ขานรับแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ยังเติบโตเด่นในปีนี้ โดย SET ปิดที่ 1,618.59 (+25.00) มูลค่าการซื้อขาย 1.16 แสนล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 7.9 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย1,640 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 1,706.21) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 9,070 สัญญา)
EYES ON
1 มิ.ย. ดัชนี PMI ภาคการผลิต ของ US & Eurozone, ดัชนี ISM ภาคการผลิต US, ดัชนี CPI ของ Eurozone , OPEC Meeting
3 มิ.ย. การจ้างงานภาคเอกชน US (ADP), ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, PMI ภาคบริการ ของ US & Eurozone
4 มิ.ย. ดัชนี CPI ของไทย, การจ้างงานนอกภาคเกษตร US, อัตราการว่างงาน US
Eastern Polymer Group (EPG)
แนวโน้ม 2564/65 กำไรจะเติบโตดี
BUY
Share Price THB 11.30
12 m Price Target THB 13.50 (+19%)
Previous Price Target THB 12.50
ประเด็นการลงทุน
กำไร 4Q63/64 ชะลอตัว และ ต่ำกว่าคาด 7% แต่รวมปี 2563/64 มีกำไรที่เติบโตเด่น 1,219 ล้านบาท (+22%YoY) แนวโน้ม 2564/65 กำไรจะเติบโตดี เราคาดยอดขาย 10,749 ล้านบาท โต 12% แรงหนุนการเติบโตทั้งสามธุรกิจ AeroFlex, AeroKlas และ EPP และ มีกำไรที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ 1,462 ล้านบาท โต 20% ประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF (WACC 8%, LTG 3%) เท่ากับ 13.50 บาท เพิ่มจาก 12.50 บาท เนื่องจากเปลี่ยนปีฐานจากปี 2563 เป็นปี 2564 คงแนะนำ ซื้อ
กำไร 4Q63/64 ชะลอตัว และ ต่ำกว่าคาด 7%
4Q63/64 (ม.ค. – มี.ค. 2564) มีกำไรชะลอตัวจากไตรมาสก่อนเหลือ 404 ล้านบาท (-6%QoQ, +64%YoY) แต่ยังโตดีจากปีก่อน ต่ำกว่าเราคาด 7% ถ้าหากหักรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 355 ล้านบาท (-23%QoQ, +83%YoY) ผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดเนื่องจาก อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 31.7% จากไตรมาสก่อน 33.2% จากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น แต่ดีขึ้นจากปีก่อน 28.5% จากการปรับปรุงประสิทธิภาพ และ ลดต้นทุน และ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 527 ล้านบาท (+8%QoQ, +13%YoY) ยอดขายในไตรมาสนี้เติบโตได้ดี 2,698 ล้านบาท (+4%QoQ, +14%YoY) แรงหนุน ธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น และ อุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งรถยนต์
ผู้บริหารตั้งเป้าหมายยอดขายโต 12-15% และ GP 29%-32%
การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวาน (1 มิ.ย.) ผู้บริหารมีมุมมองในด้านบวกแนวโน้มผลประกอบการ ปี 2564/65 (เม.ย. 2564 – มี.ค. 2565) จะเติบโตดี ตั้งเป้ายอดขายประมาณ 11,000 ล้านบาท เติบโต 12-15% และ มีอัตรากำไรขั้นต้น 29%-32% เทียบกับปีก่อน 31.1% ธุรกิจของ EPG ทั้งสามธุรกิจ มีแนวโน้มจะเติบโต คือ 1) ธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น (AeroFlex) ตั้งเป้าจะเติบโต 10-12% และ มีอัตรากำไรขั้นต้น 41-43% ใกล้เคียงปีก่อน 2) ธุรกิจอุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งรถยนต์ (AeroKlas) ตั้งเป้าจะเติบโต 20-23% มีอัตรากำไรขั้นต้น 30-33% ใกล้เคียงปีก่อน และ 3) ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก (EPP) ตั้งเป้าหมายจะเติบโต 5-8% และ มีอัตรากำไรขั้นต้น 19-21% ดีขึ้นจากปีก่อน 18.6% โดยEPGได้ทยอยปรับราคาขึ้น ชดเชยต้นทุนปิโตรเคมีที่ปรับขึ้น
คงประมาณการ คาดกำไรปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่
ธุรกิจของ EPG ทั้งสามธุรกิจ มีแนวโน้มจะเติบโต คือ 1) ธุรกิจ AeroFlex ได้แรงบวกจากตลาดสหรัฐฯซึ่งมีสัดส่วนเกือบ 40% ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัว รองรับงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 2) ธุรกิจ AeroKlas ได้แรงบวกจากอุตสาหกรรมรถยนต์ในและต่างประเทศฟื้นตัว TJM โตสูง 3) ธุรกิจ EPP ได้แรงบวกจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับอาหารและเครื่องดื่มมีการเติบโตดี เราคงประมาณการคาดยอดขายปี 2564/65 เท่ากับ 10,749 ล้านบาท โต 12.2% และมีกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ 1,462 ล้านบาท โต 20%
Surachai Pramualcharoenkit
(66) 2658 6300 ext 1470
VGI Global Media (VGI)
เริ่มลุ้นการฟื้นตัวได้แล้ว
T-BUY
Share Price THB 6.40
12 m Price Target THB 7.60 (+19%)
Previous Price Target THB 8.10
ประเด็นการลงทุน
เราคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสมใหม่ปรับลด 7% เป็น 7.60 บาท/ หุ้น อิง SOTP เนื่องจากแม้ผลการดำเนินงานปี 63/64 จะออกมาผิดหวังเนื่องจาก COVID-19 ทว่า จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ การวางเป้าหมายอย่างระมัดระวัง, ทิศทางไตรมาส 1 (เม.ย.-มิ.ย.) ที่เริ่มฟื้นจากปีก่อนจากการที่ลูกค้า และ บริษัทเริ่มปรับตัวได้ เรามองว่า ไตรมาสแรกนี้มีแนวโน้มเป็นจุดต่ำสุดของปี และทำให้กำรปกติปี 64/65 ฟื้น +310.4% YoY เป็น 754 ลบ. ได้ แม้จะยังต่ำกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาด 25% ก็ตาม
ผู้บริหารวางเป้าหมายปี 64/65 อย่างระมัดระวัง
COVID-19 ประเด็นที่ทำให้ธุรกิจสื่อนอกบ้านยังคาดการณ์ได้ยากในมุมมองของผู้บริหาร อย่างไรก็ดีบริษัทได้วางเป้ารายได้ลดต่ำลงมาเป็น 3,500-4,000 ลบ. (vs ปีก่อน 2,480 ลบ. และก่อนหน้า 3,800-4,000) บนอัตราการใช้สื่อ 50-60% และ อัตรากำไรสุทธิ 15-25% (vs ปีก่อน core NPM 11.9%) รวมถึงการลดค่าใช้จ่าย 70-75 ลบ. และงบลงทุนอย่างระมัดระวัง 450 ลบ. โดยหัวหอกหลักปีนี้คือหน่วยธุรกิจ Rabbit ที่กำลังผลักดันธุรกิจนายหน้าประกันภัย ธุรกิจสินเชื่อบุคคลร่วมกับพันธมิตร (AEONTS, HUMAN) โดยเป้าหมายบริษัทนี้ อยู่ระหว่าง Best case (คุมโรคระบาดได้ภายใน มิ.ย. 64), Base case (ภายใน ก.ย. 64) และ Worse case (ภายใน ธ.ค. 64) ซึ่งเรามองว่า Base case มีความเป็นไปได้สูงสุด
แนวโน้มไตรมาส 1 (เม.ย.-มิ.ย.) จะเห็นการฟื้นตัว YoY
หลังจากรายงานผลกำไรงวดปี 2563/64 ที่ 980 ลบ. -31.2% YoY ซึ่งมีรายการพิเศษใหญ่จากการขายหุ้น KEX เข้ามาช่วยในท้ายไตรมาส 593 ลบ. กำไรปกติจะแสดงการหดตัว -81.8% YoY เหลือเพียง 184 ลบ. และเพียง 76 ลบ. -62.0% QoQ แต่ถือว่าดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน 78 ลบ. ซึ่งทั้งหมดเป็นผลกระทบจาก COVID-19 โดยตรง สำหรับในงวดไตรมาส 1 ปีนี้ ผบห.คาดว่าจาก backlog ที่มี รายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากฐานต่ำในปีก่อนด้วยซึ่งเป็นไตรมาสที่ VGI ขาดทุนเป็นครั้งแรก ดังนั้นภาพของผลการดำเนินงานจะออกมาในลักษณะ turnaround YoY และ ทรงตัวจากไตรมาส 4 (ม.ค.-มี.ค. 64) ในมุมมองของเรา
ปรับเป้าลง 7% คงน้ำหนัก “ซื้อเก็งกำไร” ลุ้นการฟื้นตัวปีนี้
ผลกำไรที่ผิดหวังปี 63/64 การแพร่ระบาดระรอก 3 ที่เหนือความคาดหมาย และรุนแรงกว่าคาด ซึ่งผลกระทบต่อบริษัทได้เกิดขึ้นแล้วช่วง เม.ย.-พ.ค. ทำให้ไตรมาส 1 คาดจะเป็นจุดต่ำสุดของปี เราจึงทบทวนประมาณการใหม่เป็นกำไรปกติฟื้นตัว +310.4% YoY จากฐานที่ต่ำในปี 63/64 ทว่ายังต่ำกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาด 25% ราคาเหมาะสมปรับลดลง 7% เป็น 7.60 บาท อิง SOTP (สื่อนอกบ้าน DCF WACC 8.5% = 4.60 เงินลงทุนให้ส่วนลด 15% จาก valuation KEX 1.58, PLANB 0.7, MACO 0.1)
Jaroonpan Wattanawong
(66) 2658 6300 ext 1404
Singer Thailand (SINGER)
All time high อยู่แค่เอื้อม
BUY
Share Price THB 40.75
12 m Price Target THB 50.00 (+25%)
Previous Price Target THB 50.00
ประเด็นการลงทุน
หลังจากการทำกำไรสถิติใหม่ในไตรมาสที่แล้ว เราเชื่อว่า 2Q64 จะเป็นการตอกย้ำเดิมอีกครั้ง ด้วยทั้งธุรกิจเช่าซื้อที่เป็นไฮซีซั่นที่มีแรงหนุนจากการเติบโตของภาคชุมชนที่ได้ผลกระทบอย่างจำกัดจากการระบาดระลอกสาม ส่วนธุรกิจจำนำทะเบียนพอร์ตสินเชื่อยังโตได้ตามแผน แม้กลุ่มธุรกิจจำนำทะเบียนจะถูกกดดันจากหลายปัจจัยเรามองว่าพื้นฐาน-การแข่งขันของบริษัทไม่ได้ถูกกระทบอย่างที่ตลาดกังวล เช่นเดียวกับภาพกำไรใน 2 ปีข้างหน้าที่เติบโตเฉลี่ย 42% สูงกว่ากลุ่ม แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 50 บาท อิง P/E 35 เท่า
2Q64 คาดกำไรทำสถิติใหม่ไม่ยาก
ประเมินกำไรสุทธิจะเติบโตโดดเด่นถึง +30%QoQ,+60%YoY ราว 180 ลบ. มาจาก i)ธุรกิจเช่าซื้อที่ยอดขายเติบโต +20%YoY เครื่องปรับอากาศ(บ้าน) และตุ้แช่(ร้านค้า) ยังเป็นสินค้าหลักในช่วงหน้าร้อน ตามฐานแฟรนไชส์ที่เติบโตเท่าตัวจากปีก่อน เศรษฐกิจระดับท้องถิ่นยังแข็งแรงกว่าเมืองหนุนทั้งนโยบายช่วยเหลือภาครัฐที่ต่ออายุ-แรงงานที่กลับคืนถิ่น-ราคาผลผลิตเกษตรที่ยืนในระดับสูง บวกต่ออุปสงค์และคุณภาพลูกหนี้ที่ทรงตัวได้ ii) ธุรกิจจำนำทะเบียน (C4C) พอร์ตสินเชื่อเติบโต +15%QoQ ที่ 4.6 พันลบ. ยังปล่อยได้ตามแผน หนี้เสียยังควบคุมได้ใกล้ไตรมาสก่อน ทำให้ 1H64 คาดกำไรคิดเป็น 49% ของเป้าหมายยังอยู่ในกรอบที่ประเมินไว้
ธุรกิจ C4C เดินหน้าตามแผน
แม้ว่าตลาดจะมีความกังวลต่อธุรกิจจำนำทะเบียนที่ถูกกดดันค่อนข้างมาก แต่ SINGER จะได้รับผลกระทบน้อยกว่ารายอื่น เนื่องจาก i) นโยบายภาครัฐ เน้นให้ความช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย (B2C) โดยเฉพาะจักรยานยนต์ ซึ่งบริษัทไม่มีฐานลูกค้าประเภทดังกล่าว ii) การลดลงอัตราดอกเบี้ย ปัจจุบันบริษัทคิดดอกเบี้ยเฉลี่ย 15.4% ต่ำกว่าอุตสาหกรรม (18-22%) ทำให้ Downside ที่ปรับลงนั้นจำกัด iii) การแข่งขัน จะไม่รุนแรงขึ้นเพราะผู้เล่นในตลาดยังคงเป็นรายเดิมๆ เรายังเชื่อว่ามีช่องว่างให้เติบโตของสินเชื่ออีกมาก ด้วยฐานลูกค้าปัจจุบันเพียงหลักพันคัน เทียบกับทั้งตลาดรถกระบะ-รถบรรทุกที่จดทะเบียนมากกว่าล้านคัน ซึ่งสะท้อนบนขนาดพอร์ต C4C มีมูลค่าเพียง 4 พันลบ. ใน 1Q64 เทียบกับผู้นำในตลาดที่ 5-6 หมื่นลบ.
คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 50 บาท
บริษัทจะยังสร้างเติบโตที่น่าประทับใจได้ต่อ เราประเมินกำไรปี 64-65 เท่ากับ 650/892 ลบ. คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 42% ต่อปี โดยให้ราคาเหมาะสมปี 2564 เท่ากับ 50 บาท/หุ้น อิง P/E เป็น 35 เท่า หรือเทียบ PEG 0.83 เท่า นอกจากนี้มีปัจจัยบวกรออยู่ในครึ่งปีหลัง ได้แก่ i) โอกาสถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET100 รอบกลางปี และ ii) ปลดล็อคมูลค่าของ SG Capital (บ.ย่อยที่ถือพอร์ตสินเชื่อ) คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดในปีหน้า
Thanatphat Suksrichavalit
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web