บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 10-5-2021

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Monday, 10 May 2021 12:41; Hits: 3463

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 10-5-2021

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y R E P O R T / 10 พฤษภาคม 2564

INVESTMENT STRATEGY

ฟื้นตัวต่อ :

สัปดาห์ผลประกอบการ

วันนี้คาด SET ฟื้นตัวต่อ ในกรอบ แนวรับ 1,570 จุด และแนวต้าน 1,593 จุด เน้นหุ้น Growth ที่คาดงบเด่น โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “CHAYO, WICE”

CHAYO

คาดกำไร 1Q64 (รายงาน 12 พ.ค. 64) ที่ 55 ล้านบาท +53%QoQ, +49%YoY จากการเก็บหนี้และซื้อหนี้ที่ยังเติบโตดี ผสานกับการเตรียมจัดตั้ง CHAYO JV ซึ่งจะเข้ามาเสริมภาพแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งใน 2 ปีข้างหน้า (ประเมินกำไรโตเฉลี่ย 57%ใน2ปีข้างหน้า) เพิ่มความน่าสนใจ

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 17 บาท

WICE

คาดแนวโน้มงบไตรมาส 1/64 ยังคงยอดเยี่ยม และลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งที่ 67 ลบ. +13.1% QoQ และ +122.0% YoY โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกทำให้บริษัทย่อยใน สิงคโปร์ ไทย จีน ฮ่องกง ซึ่งเป็นฐานการส่งออกไปยังผู้บริโภคทั่วโลก ทำงานได้เต็มที่ทุกจุด

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 7.6

INVESTMENT THEME

จ้างงาน US ต่ำคาด แต่ตลาดปรับขึ้น : วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเมษายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.66 แสนตำแหน่ง น้อยกว่าเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 9.16 แสนตำแหน่ง และต่ำกว่าที่ตลาดคาดมากที่ +1 ล้านตำแหน่ง เช่นเดียวกับ อัตราการว่างงาน US ที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 6% สู่ 6.1% สวนคาดที่ 5.8% ด้วยตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าภาคแรงงานที่เข้าอยู่ในระบบใหม่ค่อนข้างน้อย ซึ่งอาจจะเนื่องมาจากประชาชนบางส่วนได้รับเช็คช่วยเหลือจากภาครัฐฯ ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นแรงจูงใจในการรีบกลับเข้ามาอยู่ในระบบ ในด้านของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับเชิงบวก จากการที่เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะฟื้นตัวช้ากว่าคาด และ FED ยังจำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป รวมถึงเม็ดเงินในการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) ก็อาจจะไม่รีบปรับลดช่วงนี้

จับตา COVID-19 และโค้งสุดท้ายผลประกอบการ : สำหรับปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้คงต้องติดตามโค้งสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 1Q64 ซึ่งจะมีบริษัทจดทะเบียนรายงานงบค่อนข้างมาก ผสานกับติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศ รวมถึงการฉีดวัคซีนก็กำลังเร่งควบคู่กันไป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ในช่วงถัดไป

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET แกว่งขึ้นต่อ ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกที่ส่วนใหญ่ออกมาดี โดย SET ปิดที่ 1,585.03 (+13.12) มูลค่าการซื้อขาย 9.4 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 9.1 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 3,282 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 686 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 25,476 สัญญา)

EYES ON

11 พ.ค. CPI ของ จีน

12 พ.ค. MSCI Rebalancing, CPI ของ สหรัฐฯ, สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของ ยูโรโซน

13 พ.ค. ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ

14 พ.ค. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ, ดัชนีความเชื่อมั่น

M.C.S. Steel (MCS)

กำไร 1Q64 เติบโตเล็กน้อย แนวโน้มดีขึ้น

BUY

Share Price THB 14.50

12 m Price Target THB 18.50 (+28%)

Previous Price Target THB 18.50

ผลประกอบการ 1Q64

MCS ประกาศผลประกอบการ 1Q64 มีกำไรที่เติบโตเล็กน้อย 234 ล้านบาท (+4%QoQ, +8%YoY) โดยมีปริมาณส่งมอบเหล็กโครงสร้างเกือบทั้งหมดส่งไปญี่ปุ่นชะลอตัวลดลงเท่ากับ 13,009 ตัน (-2%QoQ, -13%YoY) ในขณะที่มูลค่ายอดขายรวมเพิ่มเป็นเป็น 1,172 ล้านบาท (+57%QoQ, +14%YoY) จากการรับรู้โครงการ Toranormon Azabudai และ Toranomon 1,2 chome ซึ่งมีราคาเฉลี่ยที่สูง และ มีกำไรดี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 41.5% จาก 34.5% ในไตรมาสก่อน และ 38.6% ในปีก่อน

แนวโน้มผลประกอบการ

ณ สิ้นไตรมาส 1Q64 MCS จะเหลือ Backlog ประมาณ 5.7 หมื่นตัน ทั้งนี้ MCS เตรียมจะประกาศโครงการใหม่ๆ อีก 2 โครงการ โครงการแรก 30,000 ตัน และ โครงการที่สอง 15,000 ตัน ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2565-2566 และ ยังมีอีก 2-3 โครงการกำลังเจรจารวมประมาณ 2.5-3.5 หมื่นตัน ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2565-2566 เช่นกัน เป็นงานประเภท S-Grade ซึ่งมีกำไรดีจากราคาขายมากกว่า 250,000 เยน/ตัน แนวโน้มปี 2564 จะรับรู้โครงการ Toranormon Azabudai และ Toranomon 1,2 chome อย่างเต็มที่มากขึ้น และ เป็นงานประเภท S-Grade ซึ่งมีกำไรดี สัปดาห์ก่อน MCS ได้แจ้งต่อตลาดฯระบุว่า บริษัทฯได้รับอนุญาตดำเนินการจัดตั้งสถานที่กักกันในรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organizational Quarantine) ประเภท ข จากกรมควบคุมโรค ทำให้ลูกค้าจากญี่ปุ่นสามารถที่จะเดินทางมาตรวจงาน และ ติดต่องานได้สะดวกขึ้น คาดจะทำให้กำไรช่วงที่เหลือของปีเติบโตดีขึ้น สำหรับประเด็นที่ราคาเหล็กปรับขึ้นจะไม่มีผลกระทบเนื่องจากปัจจุบันมีสต็อกเหล็ก 42,000 ตัน และ อยู่ระหว่างขนส่งอีก 7,000 ตัน รองรับงานในมือที่จะส่งมอบทั้งหมดแล้ว กำไร 1Q64 คิดเป็น 23% ของประมาณการ เราคงประมาณการประเมินยอดรับรู้รายได้เท่ากับ 4,502 ล้านบาท เติบโต 5.9% คาดจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,031 ล้านบาท โต 8%

คำแนะนำการลงทุน

ราคาหุ้น MCS ปัจจุบันยังซื้อขายด้วย Valuation ที่ถูก P/E ปี2564 เท่ากับ 6.7 เท่า เงินปันผลตอบแทน 8.2% เราคงแนะนำ ซื้อ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2564 เท่ากับ 18.5 บาท บนฐาน Average P/E - 0.5*SD เท่ากับ 8.6 เท่า