- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 29 April 2021 16:39
- Hits: 7576
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 29-4-2021
AT THE OPEN (#ATO)
S T R A T E G Y R E P O R T / 29 เมษายน 2564
INVESTMENT STRATEGY
Sideways :
FED คงดอกเบี้ยและ QE
วันนี้คาด SET แกว่ง Sideways แนวรับ 1,565 จุด และแนวต้าน 1,590 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรดีโดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “PTTGC, BEC”
PTTGC
คาดกำไร 1Q64 ขยายตัวสู่ 9,673 ล้านบาท (+51%QoQ) โดยประเมิน Adjusted EBITDA เพิ่มขึ้น +30%QoQ จากความต้องการปิโตรเคมีที่เร่งตัวสูงขึ้น หนุนส่วนต่างปิโตรเคมีขยายตัวเด่น นอกจากนี้ด้านธุรกิจโรงกลั่นคาดจะมีการบันทึก Stock gain สูงถึง 2 พันล้านบาท
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75
BEC
การปรับโครงสร้างธุรกิจจะหยุดภาพกำไรที่เป็นขาลงมา 7 ปี โดยคาดปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไรถึง 741 ล้านบาท จาก 1) รายได้ค่าโฆษณาที่จะฟื้นตัว +4%YoY จากการกลับมาของคุณสรยุทธ์ 2) อัตรากำไรแข็งแรงขึ้น หลัง Ad.rate ฟื้น และมีการลดต้นทุนคงที่ในสองปีที่ผ่านมา
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 12 บาท
INVESTMENT THEME
FED คงดอกเบี้ยและ QE
FED คงอัตราดอกเบี้ยและคงมาตรการ QE ตามเดิม : ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่า FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำตามเดิมที่ 0-0.25% และคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลล่าร์ต่อเดือน โดยแบ่งเป็นการซื้อพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลล่าร์ต่อเดือน และ การซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) วงเงิน 4 หมื่นล้านดอลล่าร์ต่อเดือน โดยถ้อยแถลงของ FED ระบุว่าภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น จากความคืบหน้าการฉีดวัคซีนและการใช้นโยบายการคลังสนับสนุน แต่อย่างไรก็ดีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังมีอยู่ดังนั้นยังคงจำเป็นต้องใช้เครื่องมือต่างๆ ในการสนับสนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวเต็มที่ก่อนที่จะปรับลดมาตรการต่างๆ ในขณะที่ตลาดเริ่มตีความถึงถ้อยแถลงต่อภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อาจนำมาสู่การส่งสัญญาณการลด QE ได้ในช่วงปลายปีนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ตอบรับในเชิงลบ โดยปรับลดลงราว -164 จุด (-0.48%)
จับตา US GDP, งบ และ COVID-19 : ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงที่ผ่านมาบ่งชี้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยคืนนี้จะมีการรายงาน US GDP 1Q64 ซึ่งตลาดคาดจะเติบโต +6.7%QoQ จาก 4Q63 ที่ +4.3%QoQ เป็นตัวเลขสำคัญที่ต้องจับตา นอกจากนี้ยังคงแนะติดตามการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงเกาะติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งยอดผู้ติดเชื้อรายวัน, ยอดการเสียชีวิต, การกระจายวัคซีน และวันนี้น่าจะมีการพิจารณายกระดับพื้นที่เสี่ยง รวมถึงจับตามาตรการควบคุมเพิ่มเติม
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET แกว่งขึ้น ตอบรับตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศทรงตัว และเริ่มมีแรงเก็งผลประกอบการมากยิ่งขึ้น โดย SET ปิดที่ 1,576.79 (+17.56) มูลค่าการซื้อขาย 9.5 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 9.8 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 1,907 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 756 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 13,685 สัญญา)
EYES ON
29 เม.ย. US GDP 1Q64, ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก US
30 เม.ย. การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล US, รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนมีนาคม, PMI ภาคการผลิตและบริการของ จีน, Eurozone GDP 1Q64
AEON Thana Sinsap (AEONTS TB)
ต้นทุนสินเชื่อลด หนุน EPS โตในปี 64
BUY
Share Price THB 226.00
12 m Price Target THB 260.00 (+15%)
Previous Price Target THB 260.00
มีโอกาสกลับรายการ LLR จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น
เราคาดว่า AEONTS จะกลับรายการค่าเผื่อสำรองหนี้สูญ (LLR) เนื่องจากความเสี่ยงด้านเครดิตน้อยกว่าที่คาดไว้ ซึ่งน่าจะหนุนให้ EPS ปี 64 เติบโต 10% YoY แม้ว่าการเติบโตของรายได้จะยังคงอ่อนแอ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 260 บาท (P / BV ปี 64 ที่ 3.3 เท่า, PER 16 เท่า และ ROE 21.5%) หุ้นจะขึ้น XD ในวันที่ 12 พฤษภาคม เงินปันผลอยู่ที่ 2.65 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลผลตอบแทน 1.2% สำหรับการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 63 ความเสี่ยงสำคัญ คือ คุณภาพสินทรัพย์เสื่อมและรายได้เติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้
กำไรไตรมาส 4/63 ดีกว่าคาด จากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง
AEONTS รายงานกำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาทสำหรับ 4Q63 เพิ่มขึ้น 12% YoY เนื่องจากการตั้งสำรองที่ลดลงและการควบคุมต้นทุนที่ดี กำไรปี 63 ลดลง 7% YoY เป็น 3.7 พันล้านบาทเนื่องจากกำไรจากการขาย NPL ที่ลดลง ขณะที่ NII ลดลง 17% YoY จากการหดตัวของสินเชื่อและ NIM ที่อ่อนแอ ส่วน Non-NII ลดลง 34% YoY เนื่องจากไม่มีกำไรจากการขาย NPL ใน 4Q63 โดย NPL Coverage ลดลงจาก 296% ใน 3Q63 เหลือ 230% ใน 4Q63 เนื่องจาก NPL Ratio ที่สูงขึ้น (เพิ่มขึ้น 130bp QoQ เป็น 5.80%)
คาดแนวโน้มรายได้อ่อนแอในระยะสั้น
ในการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารเผยว่าสินเชื่อและการเติบโตของ NII ยังคงอ่อนแอในเดือน มี.ค. และเม.ย. 64 จากการระบาดระลอกที่ 3 ดังนั้น บริษัทจึงมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและวางแผนที่จะปล่อยสินเชื่อดิจิทัลผ่านแอพมือถือด้วยวงเงินน้อยๆ ที่ 20,000 บาทและผลตอบแทนเงินกู้ 25% ส่วนในโครงการร่วมทุน (บริษัทเงินสดแรบบิท) ระหว่าง AEONTS, BTS group (BTS, HOLD TP THB10.8) และ Humanica (HUMAN, not rate) บริษัท JV จะให้บริการสินเชื่อบนแพลตฟอร์มสินเชื่อออนไลน์ นอกจากนี้ AEONTS ยังเน้นขายประกันผ่านสาขาและดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมอีกด้วย
กำไรปี 64 หนุนโดยการควบคุมต้นทุนที่ดี และต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง
ผู้บริหารยังคงสบายใจกับสภาพคุณภาพสินทรัพย์ในปัจจุบัน ซึ่งมี NPL coverage อยู่ที่ 230% (เป้าหมายอย่างน้อย 200%) AEONTS ตัดบัญชีในอัตราที่ช้าลงใน 4Q63 เนื่องจากลูกค้าที่ออกจากโครงการผ่อนปรนหนี้ (ประมาณ 500 ล้านบาท) กลับมาใช้หนี้ได้ หากกลุ่มเหล่านี้สามารถชำระหนี้ได้ 3-6 เดือน เราเห็นความเป็นไปได้ที่จะจัดประเภทใหม่เป็นเงินกู้ขั้นที่ 2 จาก NPLs ในขณะนี้ เมื่อมองไปข้างหน้า เราคาดว่า AEONTS ยังคงให้ความสำคัญกับการจัดเก็บหนี้และลดต้นทุนเพื่อชดเชยแนวโน้มรายได้ในระยะสั้นที่อ่อนแอ
Jesada Techahusdin, CFA
(66) 2658 6300 ext 1395
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web