บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-4-2021

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Wednesday, 28 April 2021 11:38; Hits: 8692

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-4-2021

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y R E P O R T / 28 เมษายน 2564

INVESTMENT STRATEGY

Sideways :

แกว่งรอการประชุม FED

วันนี้คาด SETแกว่ง Sideways แนวรับ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,570 จุด เน้นหุ้นที่คาดแนวโน้มกำไรดี โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “SIS, SONIC”

SIS (Upgrade)

คาดกำไร 1Q64 โดดเด่น 180 ลบ. +8%QoQ, +38%YoY จากยอดขาย PC ที่เติบโต +20%YoY และ smartphone ที่มากกว่าเท่าตัว และคาดปีนี้ยังได้อานิสงส์บวกจาก Work from Home ขณะที่ Valuation ยังถูกโดยเทรดเพียง PE 13 เท่า ต่ำกว่าคู่แข่งในกลุ่มที่เทรดเฉลี่ย 30 เท่า

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 41 บาท

SONIC (Upgrade)

ปรับประมาณการกำไรปี 2564/65 ขึ้น 20%/11% หลังตัวเลขส่งออกไทยเดือน มี.ค. ดีกว่าตลาดคาด และดัชนีShanghai Containerized Freight Index ก็ได้ยืนยันทิศทางของ SONIC ซึ่งมีโครงสร้างอิงกับส่งออกไทยโดยตรง และรายได้ 70% อิงกับ Sea freight จะออกมาสดใสมาก

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.8

INVESTMENT THEME

แกว่งรอการประชุม FED

จับตาการประชุม FED : แม้ว่าภาพเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯจะฟื้นตัวขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา แต่จากความเสี่ยงของการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงก็คาดจะยังคงทำให้ FED ดำเนินนโยบายต่างๆตามเดิม โดยรอบนี้การประชุม FED มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27-28 เมษายน ซึ่งเราจะรู้ผลในเช้าวันที่ 29 เมษายน จึงคาดว่า FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำตามเดิม (0-0.25%) และจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 1.2 แสนล้านเหรียญต่อเดือน ต่อเนื่องไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี ส่วนประเด็นในการส่งสัญญาณในการปรับลด QE นั้น เราคาดว่าหากเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวดี FED อาจมีการส่งสัญญาณครึ่งหลังของปีได้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันจิตวิทยาในการลงทุนในระยะกลาง ซึ่งคงต้องจับท่าที FED อย่างใกล้ชิดในช่วงถัดไป

และติดตามการรายงานงบ และตัวเลขผู้ติดเชื้อ : ภาพรวมการลงทุนในระยะสั้นยังอยู่กับประเด็นการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศ โดยหลังจากภาครัฐฯเพิ่มมาตรการเข้มข้นขึ้น แนะจับตาว่าการติดเชื้อรายวันจะดีขึ้นหรือไม่ รวมถึงแนะจับตาการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนโดยสัปดาห์จะมีหลายบริษัทที่น่าจับตา เช่น 28 เม.ย. SCC, PTTEP / 29 เม.ย. BH, DCC / 30 เม.ย. GLOBAL

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET แกว่ง Sideways มีแรงเทขายหุ้นกลุ่มเหล็กหลังนายกสั่งดูแลราคาเหล็กที่เพิ่มสูงขึ้นเร็ว โดย SET ปิดที่ 1,559.23 (-0.30) มูลค่าการซื้อขาย 9.8 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 8.4 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 52 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 2,076 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 667 สัญญา)

EYES ON

28 เม.ย. การประชุม FED, ดัชนี MPI ของไทย

29 เม.ย. US GDP 1Q64, ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก US

30 เม.ย. การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล US, รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนมีนาคม, PMI ภาคการผลิตและบริการของ จีน, Eurozone GDP 1Q64

Sonic Interfreight (SONIC)

ธุรกิจเดิมแกร่ง ธุรกิจใหม่กำลังไปได้ดี

BUY

Share Price THB 3.20

12 m Price Target THB 3.80 (+19%)

Previous Price Target THB 3.15

ประเด็นการลงทุน

เราปรับประมาณการกำไรปี 2564/65 ขึ้น 20%/11% หลังตัวเลขส่งออกไทยเดือน มี.ค. ออกมาดีกว่าตลาดคาด และ ดัชนีค่าระวางเรือ Shanghai Containerized Freight Index ก็ได้ยืนยันทิศทางของ SONIC ซึ่งมีโครงสร้างอิงกับส่งออกไทยโดยตรง และรายได้ 70% อิงกับ Sea freight จะออกมาสดใสมาก ขณะที่ธุรกิจใหม่ปล่อยสินเชื่อรถหัวลาก ก็ดำเนินได้เร็วกว่า-มากกว่าแผน และกำลังเริ่มสร้างรายได้ดอกเบี้ยรับส่วนเพิ่มคิดเป็น 4.6% ของประมาณการกำไรปี 2564 อีกด้วย เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับปรุงราคาเหมาะสมขึ้น 20% เป็น 3.80 บาท/ หุ้น อิง P/E 19.1 เท่าตามเดิม ปัจจุบันซื้อขายเพียง P/E21F ที่ 16.3 เท่า มีส่วนลดจากกลุ่ม 33%

ตัวเลขส่งออกไทยดีกว่าคาด ตอกย้ำทิศทางไตรมาส 1 ที่สดใส

เมื่อวันศุกร์ ก.พาณิชย์ รายงานตัวเลขส่งออกเดือน มี.ค. 2563 (หน่วยเหรียญสหรัฐ) ปรากฏว่าขยายตัว +8.5% YoY ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่หดตัว -1.5% YoY ทำให้ไตรมาส 1/64 การส่งออกไทยจะขยายตัว +2.3% YoY ดังนั้นด้วยโครงสร้างธุรกิจของ SONIC อยู่ในขาออก (export) เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/64 เราจึงคงไว้ที่เดิม 36 ลบ. +28.0% QoQ +172.4% YoY เป็นสถิติใหม่ของบริษัท ซึ่งจะทำให้ประมาณการของเราต่ำไป 20-30% (อ่าน “คาดกำไรจะทำสถิติใหม่อีกไตรมาส วันที่ 7 เม.ย. 63)

ธุรกิจสินเชื่อรถหัวลาก เริ่มรับรู้รายได้เดือน พ.ค.

ผู้บริหารเผยว่าปัจจุบันยอดปล่อยสินเชื่อรถหัวลากครบ 40 คันตามแผนแล้ว โดยเริ่มทยอยรับมอบรถหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา และจะใช้เวลาทำสีตกแต่งก่อนส่งมอบให้ผู้รับเหมาช่วง(ผู้เช่าซื้อ) ในเดือน พ.ค. จึงเริ่มรับรู้รายได้ดอกเบี้ยรับ บนพอร์ตสินเชื่อสะสมรวม 140 ลบ. ส่วนใน 2H64 ผบห.อยู่ระหว่างเตรียมการอย่างระมัดระวัง ซึ่งผู้บริหารวางเป้าพอร์ตไว้ที่ 200 ลบ. สิ้นปี 2564 และเพิ่มอีก 50% เป็น 300 ลบ. ในสิ้นปี 2565 ซึ่งจะสูงกว่าสมมติฐานของเรา 7-14% โดยผู้บริหารเผยจะใช้แหล่งเงินจาก SONIC-W1 (อัตราส่วนแปลง 1:1 ราคา 1.00 บาท อายุ 2 ปี) ซึ่งหากแปลงสภาพหมดทั้งจำนวน บริษัทจะได้เงิน 275 ลบ. เพียงพอดำเนินตามแผนข้างต้น

ปรับประมาณการกำไรขึ้น 20%/11% ในปี 2564/65

จากแนวโน้มกำไรที่สดใส เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 64/65 ขึ้น 20%/11% ตามลำดับ โดยกำไรปี 2564 คาดที่ 112 ล้านบาท +87.1% YoY ปรับปรุงรายได้จาก Sea freight ขึ้น 29% หลังพบว่า Shanghai Containerized Freight Index กลับมาทำ New high +5.1% WoW สอดคล้องกับมุมมองของอุตสาหกรรมว่าปัญหาการขาดแคลนตู้ยังคงมีอยู่ในปีนี้ นอกจากนั้นเราปรับรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่ม 17% หลังพบว่าพอร์ตสินเชื่อหัวลากมาได้เร็วกว่าสมมติฐานเดิม 6 เดือน และขนาดที่ใหญ่กว่า 17% ขณะที่ราคาเหมาะสมอิง P/E 19.1 เท่า ตามเดิม ได้เป้าหมาย 3.80 บาท/ หุ้น (อิงการแปลง W จำนวน ¼ ส่วนในปีแรก)

Jaroonpan Wattanawong

[email protected]

(66) 2658 6300 ext 1404

SCG Packaging (SCGP)

กำไร 1Q64 สูงเด่น ปรับประมาณการขึ้น

BUY

Share Price THB 52.25

12 m Price Target THB 58.00 (+11%)

Previous Price Target THB 51.00

ประเด็นการลงทุน

ผลประกอบการปกติ 1Q64 เติบโตเด่น จากการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และ กลยุทธ์โซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจร และ การบรูณาการภายในห่วงโซ่คุณค่า ทำให้อัตรากำไรดี และ หนุนให้กำไรช่วงที่เหลือของปีจะเติบโตดีขึ้นอีก ผู้บริหารคงตั้งเป้าหมายจะเติบโต 2 หลัก มากกว่า 1 แสนล้านบาท และ ตั้งงบลงทุน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเติบโต เราปรับประมาณการเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ราคาเป้าหมายใช้วิธี DCF เพื่อสะท้อนแนวโน้มระยะยาว บนสมมิตฐาน WACC 8% และ L-T terminal growth 2% จะได้ราคาเป้าหมาย 58 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 51 บาท

กำไร 1Q64 สูงเด่น และ เติบโตสูง

SCGP ประกาศผลประกอบการ 1Q64 มีกำไรที่สูงเด่น และ เติบโตสูง 2,135 ล้านบาท (+44%QoQ, +23%YoY) ถ้าหากตัดรายการพิเศษต่างๆ จะมีกำไรปกติที่เพิ่มขึ้นเป็น 2,263 ล้านบาท (+39%QoQ, +8%YoY) ผลประกอบการได้แรงหนุนจากการเติบโตทั้ง สายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร และ สายธุรกิจเยื่อและกระดาษ จากการเติบโตทั้งขยายกำลังการผลิต และ การครบรวมกิจการ Sovi + Go-Pak ทำให้ยอดขายโต 27,253 ล้านบาท (+15%QoQ, +12%YoY) และ ด้วยกลยุทธ์โซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจร และ การบรูณาการภายในห่วงโซ่คุณค่า ทำให้ EBITDA margin เพิ่มเป็น 19% จาก 18% ในไตรมาสก่อน และ 15% ในปีก่อน

ผู้บริหารคงเป้าโตมากกว่า 2 หลัก มากกว่า 1 แสนล้านบาท

การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวาน (27 เม.ย.) ผู้บริหารมองแนวโน้มความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ในระดับสูง โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ คงเป้าหมายยอดขายในปี 2564 จะมากกว่า 1 แสนล้านบาท หรือ เติบโตมากกว่า 2 หลัก วางงบลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic แบ่งเป็น การเพิ่มประสิทธิภาพ วิจัย และ พัฒนา ประมาณ 5,000 ล้านบาท ใช้เงินเข้าซื้อ Go-Pak ประมาณ 4,500 ล้านบาท การขยายกำลังการผลิตที่เหลืออีก 3 โครงการ ประมาณ 1,500 ล้านบาท และ เตรียมซื้อ Duy Tan และ บริษัทอื่นๆอีกประมาณ 9,000 ล้านบาท

แนวโน้มผลประกอบการจะเติบโตเด่น ปรับประมาณการขึ้น

ในช่วงที่เหลือของปีผลประกอบการของ SCGP จะได้แรงหนุนเพิ่มจากการขยายกำลังการผลิต 4 โครงการ ที่ทยอยเสร็จ โดยจะรับรู้ในปีนี้ 3,000 ล้านบาท จากเต็มปี 10,000 ล้านบาท และ กลางปีจะมี M&Ps บริษัท Duy Tan ซึ่งมียอดขายประมาณ 6 พันล้านบาทต่อปี เข้ามาเสริมอีก เราปรับประมาณการยอดขาย และ กำไร ปี 2564 เพิ่มขึ้น 4% โดยยอดขายปีนี้จะเติบโต 20.6% สู่ระดับ 117,938 ล้านบาท และ มีกำไรปกติท่ากับ 8,912 ล้านบาท เติบโต 33%