- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 March 2021 20:12
- Hits: 12751
บล.กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 22-3-2021
INVESTMENT STRATEGY
Sideways
รอจังหวะตั้งรับ
วันนี้คาด SET แกว่งSideways แนวรับ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,580 จุด เน้นหุ้นมีพัฒนาการเชิงบวก โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “TQM, HMPRO”
TQM
คาดกำไรปี 64 โตระดับ 20% จาก Synergy ที่จะเริ่มเห็นผ่านการ Cross-Selling สินค้าใน Platform ที่ได้ลงทุนไว้ปีก่อนๆ และมี Upside risk จากการ M&A บริษัทประกันอย่างน้อย 3 ดีล ในปีนี้ โดยตั้งเป้าเพิ่มเบี้ยประกันราว 8-10 พันลบ.(จากปัจจุบัน 15 พันลบ.)
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 138 บาท
HMPRO
คาดผลประกอบการของ HMPRO ในช่วง 1Q64 จะกลับมาฟื้นตัวได้ YoY ได้จากที่ %SSSG และอัตรากำไรฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องแนวโน้มการบริโภคที่ขยายตัว ด้วยแรงหนุนจากโครงการภาครัฐฯ รวมถึงโอกาสในการเปิดประเทศมากยิ่งขึ้น เป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 16 บาท
INVESTMENT THEME
รอจังหวะตั้งรับ
-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล US สูงสุดรอบ 14 เดือน : สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีปัจจัยกดดันในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติมจากการที่ FED ประกาศว่าจะไม่ต่ออายุโครงการผ่อนคลายด้านเงินทุนสำหรับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค. โดยโครงการนี้ ได้อนุญาตให้ธนาคารยกเว้นการนำพันธบัตรรัฐบาล และเงินฝากที่สถาบันการเงินฝากไว้กับ FED มาใช้ในการคำนวณ Supplementary Leverage Ratio (SLR) ส่งผลให้ช่วง COVID-19 ที่ผ่านมามีความต้องการซื้อพันธบัตรรัฐบาล และ MBS มากยิ่งขึ้น ซึ่งในทางกลับกันรอบนี้ FED จะไม่ต่ออายุอาจส่งผลให้เกิดแรงขายพันธบัตรรัฐบาลออกมา โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นสู่ระดับ 1.721% สูงสุดในรอบ 14 เดือน
-การเปิดเมืองเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น : สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาการประชุม ศบค.ชุดใหญ่มีการออกมาตรการผ่อนคลายมากขึ้น เช่น จะปรับลดระยะเวลากักตัวจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน ตั้งแต่ 1 เมษายน เว้นแต่กรณีผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่กระทรวงสาธารณสุขยังกำหนดว่าต้องกักตัว 14 วัน, ขยาย พรก. ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน, ผ่อนคลายในพื้นที่สีส้มกับสีเหลืองมีความใกล้เคียงกัน โดยพื้นที่สีส้ม ร้านอาหาร สถานบันเทิง ผับ บาร์ ให้เปิดถึง 23.00 น.ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ให้เปิดถึง 24.00 น. ซึ่งแนวทางทั้งหมดคาดจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศค่อยๆ ฟื้นตัวมากขึ้นในช่วงถัดไป
SET
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์
1,563.96 -4.86
สรุปมูลค่าการซื้อขาย 19 มี.ค. 64
นักลงทุน สุทธิ
สถาบัน 463.53
บัญชี บล. -6.15
ต่างชาติ -2,996.91
ในประเทศ 2,539.54
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ย่อเล็กน้อย จากความกังวลผลกระทบของการปรับพอร์ต FTSE ที่มีการลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทย โดย SET ปิดที่ 1,563.96 (-4.86 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.9 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 8.1 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 2,997 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 464 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 3,820 สัญญา)
EYES ON
22 มี.ค. ยอดขายบ้านมือสอง US (ก.พ.)
23 มี.ค. ยอดขายบ้านใหม่ US (ก.พ.)
24 มี.ค. การประชุม กนง. ,ยอดส่งออกไทย เดือน ก.พ. (คาด -2.05%), ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน US (ก.พ.), PMI ภาคการผลิตและบริการ ของ US & Eurozone (มี.ค.), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Eurozone (มี.ค.)
25 มี.ค. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US, 4Q63 US GDP (ครั้งที่3)
Thailand Construction Services
รถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 7.29 หมื่นล้านบาท ออก TOR แล้ว
NEUTRAL
ประเด็นการลงทุน
รถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 7.29 หมื่นล้านบาท ได้ออกเอกสารประกวดราคาแล้วระหว่างวันที่ 19 มี.ค. – 17 พ.ค. 2564 ส่วนสาย บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม 5.5 หมื่นล้านบาท รฟท. เตรียมออกเอกสารประกวดราคาระหว่างวันที่ 26 มี.ค. – 24 พ.ค. 2564 โดย TOR ได้แบ่งสัญญาก่อสร้างออกเป็นไม่กี่สัญญา และ แต่ละสัญญามีมูลค่าสูงประมาณ 2-2.8 หมื่นล้านบาท คาดจะทำให้การแข่งขันด้านราคาไม่รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้ และ เราคาดจะเป็นการแข่งขันในกลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่ คือ CK, ITD, STEC, UNIQ โดยสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จะมีงานขุดเจาะอุโมงทั้งสามสัญญา จึงทำให้ CK, ITD มีความเชี่ยวชาญงานขุดเจาะอุโมงค์มีความได้เปรียบ เราคงให้น้ำหนักกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเท่าตลาด (Neutral) หุ้นที่เราเลือก Trading Buy ในกลุ่มคือ CK (เป้าหมาย 22 บาท) และ STEC (เป้าหมาย 18 บาท)
รถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 7.29 หมื่นลบ. ออกTORแล้ว
รถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เผยแพร่ประกาศและเอกสารประกวดราคา แล้วระหว่างวันที่ 19 มี.ค. – 17 พ.ค. 2564 กำหนดยื่นข้อเสนอราคาวันที่ 18 พ.ค. 2564 และข้อเสนอเทคนิค วันที่ 19 พ.ค. 2564 คณะกรรมการพิจารณาความเห็นชอบ 24 มิ.ย.- 8 ก.ค. 2564 และ ประกาศผลผู้ชนะวันที่ 9 ก.ค. 2564 ซึ่งในโครงการแบ่งสัญญาเป็น 3 สัญญาคือ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย – งาว มูลค่า 26,599.28 ล้านบาท สัญญาที่ 2 ช่วงงาว – เชียงราย มูลค่า 26,913 ล้านบาท และ สัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย – เชียงของ มูลค่า 19,406.43 ระยะทางรวม 323.1 กิโลเมตร โดยจะมีงานอุโมงค์ 4 แห่ง ระยะทางรวมอุโมงค์ของโครงการ 13.4 กม. เมื่อรวมงานระบบอาณัติสัญญาณ จะมี มูลค่าโครงการรวม 85,345 ล้านบาท โครงการใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปี
ทางคู่สาย บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม 5.5 หมื่นลบ. เตรียมออกTOR26มี.ค.
รถไฟทางคู่สายใหม่ บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม รฟท.มีกำหนดจะประกาศและเอกสารประกวดราคา ในวันที่ 26 มี.ค. - 24 พ.ค. 2564 กำหนดยื่นข้อเสนอราคา 25พ.ค. 2564 และ ข้อเสนอเทคนิควันที่ 27 พ.ค. 2564 คณะกรรมการพิจารณาเห็นชอบ วันที่ 1-22 ก.ค. 2564 ประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคาวันที่ 23 ก.ค. 2564 ซึ่งในโครงการแบ่งเป็น 2 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก มูลค่า 27,123.62 ล้านบาท และ สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ3 มูลค่า 28,333.93 ล้านบาท ระยะทางรวม 354 กม. มูลค่าโครงการรวม 55,457 ล้านบาท
แต่ละสัญญามีมูลค่าสูง จะส่งผลบวกต่อรับเหมาขนาดใหญ่
รถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง แบ่งเป็นไม่กี่สัญญา และ แต่ละสัญญามีมูลค่าสูง คือ สาย เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มี 3 สัญญา มีมูลค่าแต่ละสัญญาระหว่าง 1.9-2.6 หมื่นล้านบาท สาย บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม มีเพียง 2 สัญญา มูลค่าแต่ละสัญญาณ 2.7-2.8 หมื่นล้านบาท ทำให้บริษัทรับเหมาขนาดใหญ่ในตลาด คือ CK, ITD, STEC, UNIQ มีความได้เปรียบ ซึ่งการประมูลรถไฟทางคู่ก่อนหน้านี้ปรากฏว่า แต่ละสัญญาณมีมูลค่าต่ำไม่ถึงหมื่นล้านบาท ทำให้มีบริษัทรับเหมาขนาดเล็ก จับมือกับรับเหมาจีน เข้ามาแข่งขันด้านราคาสูง ดังนั้น การประมูลรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง คาดการแข่งขันด้านราคาจะน้อยลง
SURACHAI PRAMUALCHAROENKIT
(66)2658 6300 ext 1470
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web