WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

 

บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market Outlook
      QE ของ BOJ และ ECB หนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลก...เป้าหมาย SET ระยะสั้นที่ 1,600 จุด: SET ปรับสูงขึ้นแกร่งนำโดยการฟื้นตัวของกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่โดยเฉพาะ PTT หลัง BOJ ประกาศเพิ่มวงเงิน QE เป็น 80 ล้านล้านเยน/ปี รวมไปถึงการเพิ่มสัดส่วนลงทุนหุ้นเป็น 25% จากเดิม 12% ของ Pension Fund ญี่ปุ่น ปิดตลาดที่ 1,584.16 จุด +1.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 86 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสัปดาห์มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจาก 1) การใช้มาตรการ QE ของ BOJ และ ECB หนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลก 2) กระแสเงินทุนจาก RMF และ LTF มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท และ 3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ และการฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q14
กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ พื้นฐานแกร่งจะเป็น “กลุ่มนำ”: กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานแกร่งมีแนวโน้มเป็นกลุ่มนำตลาด ได้แก่ KBANK BBL AOT BTS CK STEC ขณะที่การฟื้นต้วของกลุ่มพลังงาน คาดว่าจะเป็นเพียง Rebound เท่านั้น ขณะที่กลยุทธ์หลัก แนะนำ “ซื้อ” Domestic Plays อย่าง KBANK BBL CK STEC SPALI LPN QH SIRI SAMART BEAUTY SAPPE BGH CPALL ต่อเนื่อง

Tactical Portfolio (1-3 months)
     TNS แนะนำ AOT, BEAUTY, BTS, CK, KBANK, SAMART, SAPPE, SPALI, STEC, และ TUF เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง
      Tactical Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน +3.28% w-w: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน +3.28% w-w (27-31 ต.ค. 2014) สูงกว่า SET ที่ให้อัตราผลตอบแทน +2.87% w-w อยู่ 0.4% โดยหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดใน Tactical Portfolio ได้แก่ BEAUTY, CK และ STEC (ดูกราฟหน้า Tactical Portfolio) โดย ให้อัตราผลตอบแทนสูง 5.8%, 8.9% และ 9.5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามลำดับ ขณะที่ SAPPE SPALI และ KBANK ให้อัตราผลตอบแทนต่ำสุดใน Tactical Portfolio ทั้งนี้เราประเมินมาตรการ QE ของ BOJ จะหนุนสภาพคล่องตลาดหุ้นโลก รวมไปถึงการเข้าซื้อของกองทุน RMF และ LTF จะเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT, BTS, KBANK ที่อยู่ใน Tactical Portfolio ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้...ทั้งนี้ตั้งแต่จัดทำ Tactical Portfolio เมื่อวันที่ 13 ม.ค.14 ให้อัตราผลตอบแทน 58.45% ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน 25.34% หรือให้อัตราผลตอบแทนดีกว่า SET อยู่ 26.24%


Technical
ขึ้นทดสอบ 1600 จุด : ตลาดฟื้นตัวด้วยที่แนวรับ 1520 จุดด้วยรูปแบบ Double Bottom ระยะสั้นมีแนวโน้มขึ้นด้วยเป้าหมายสัปดาห์นี้ขึ้นทดสอบยอดเดิมที่ระดับ 1600 จุด และมีโอกาสทะลุผ่าน 1600 จุดได้ในรอบถัดไป ด้วยเป้าหมายสำคัญที่ระดับ 1650 จุด สำหรับสัปดาห์นี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1555-1600 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ : TWZ จบการพักฐานและเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขึ้นอีกครั้ง โดยคาดว่าจะมีโอกาสขึ้นทดสอบยอดเดิมที่ระดับ 0.60 บาท ถ้าผ่านได้จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 0.64 บาท BTS มีโอกาสทำยอดสูงสุดใหม่ คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 10.80 บาท เป็นจังหวะขายทำกำไร KKP ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน เป็นจังหวะซื้อ แนวโน้มรองเปลี่ยนเป็นขาขึ้น คาดว่าจะมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 44.00 บาท ขณะที่เป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 46.00 บาท

TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50Z14 ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นถัดไปที่ 1,072 จุด อิง SET ที่ 1,600 จุด (เป้าหมายที่ 1,042 จุด ถูกทำลายไปแล้วในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน) ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,044 จุด
Gold Futures: แนะนำ “เปิด” สถานะ Short สัญญา GFZ14 ในจังหวะ Rebound ที่บริเวณ 18,500 บาท โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 17,700 บาท ทั้งนี้ราคาทองคำปรับลดลงแรงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้มาก เนื่องจากมาตรการ QE ของ BOJ หนุนค่าเงินดอลลาร์ฯแข็งค่าขึ้นแรง
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา BRX14 ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 2900 โดยเมื่อพิจารณาในทางเทคนิคถือว่าอยู่ในภาวะ Oversold มาก กำหนด Trailing Stop ที่ 2780

Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!