- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 03 November 2014 17:24
- Hits: 1674
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : สร้างฐานได้ขึ้นต่อ
Technical : แนวรับ : 1,559 / 1,550 แนวต้าน 1,574 / 1,587
หุ้นแนะนำพิเศษ : BIGC แนวรับ 227/223 แนวต้าน 239/243
หุ้นเด่นรายวัน : CHO
หลากหลายปัจจัยหนุนให้ SET สัปดาห์ก่อนพุ่งขึ้นแรงทั้ง
- FED คงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ 0 - 0.25% ต่อไปจนถึงกลางปีหน้า
- BOJ อัดฉีด QE เพิ่มเป็น 80 ล้านล้านเยน/ปี ,ซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 30 ล้านล้านเยนต่อเดือน และ pension fund เพิ่มการลงทุนหุ้นจาก 12% เป็น 24%
ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,584.16 จุด (+18.81จุด , +1.2%) มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ Net sell 86 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย SET ยังมี Momentum เชิงบวกต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนจากปัจจัยหนุน BOJ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการดีดตัวจะมี upside แคบลงเนื่องจากดัชนีขึ้นตอบรับข่าวไปพอสมควรแล้ว ดังนั้นมองว่าแนวต้านระดับ 1,590 – 1,600 จุด เป็นจังหวะในการขายทำกำไรระยะสั้นเพื่อรอจังหวะเข้าซื้อช่วงอ่อนตัวลงอีกครั้ง
*GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,600-18,880 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,730-18,930*
กลยุทธ์ สะสมหุ้นที่คาดว่ากำไร Q3/14 เติบโต เช่น CPF TUF KCE RML SYNTEC และหุ้นกลุ่มหลักที่คาดว่าจะช่วยหนุนให้ดัชนีดีดตัวขึ้น เช่น
กลุ่มธนาคาร KBANK BBL SCB KTB
กลุ่มอสังหาฯ แนะนำ SPALI PS RML ANAN
กลุ่มท่องเที่ยวน่าสนใจในการเข้าสู่ช่วงไฮซี่ซั่น AOT ERW MINT
กลุ่มสื่อสารน่าสนใจเข้าสะสมเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิตอลตามแผนของรัฐบาลซึ่งจะมีดีเดย์ 1 ม.ค. 58 แนะนำ THCOM AIT SAMART
หุ้นแนะนำพิเศษ
BIGC (ปิด 223 ซื้อเก็งกำไร) ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทำให้เกิดรูปแบบกลับตัว U Shape ในภาพใหญ่ โดยมีแนวต้านที่ 243 บาทเป็นจุดจบรูปแบบ แนะนำให้ซื้อเก็งกำไรเพื่อไปขายออกที่ระดับดังกล่าว ด้านผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังน่าจะได้ประโยชน์จากการบริโภคที่ปรับดีขึ้นจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นและการเข้าสู่เทศกาลไฮซีซั่นรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
หุ้นเด่นรายวัน
CHO (ปิด 5.25 ซื้อเก็งกำไร) ได้ประโยชน์จากการที่ "ขสมก." สรุปร่าง TOR จัดซื้อรถเมล์ล็อตแรก 489 คันแล้ว จ่อชงบอร์ดไฟเขียวต้นเดือนพ.ย.นี้ เปิดขายซองประมูลทันที รักษาการ ผอ.ขสมก.มั่นใจธ.ค.ได้เซ็นสัญญาจ้าง พร้อมรับมอบรถม.ค.-มี.ค. 58 ตามคำสั่งประจิน (ที่มา : ข่าวหุ้น) มุมมองด้านเทคนิค - แนวรับ 5.15 แนวต้าน 5.60 , 6.00 จุด cut loss 5.00 สัญญาณทางเทคนิคกลับตัวขึ้นแบบ W shape และราคายืนเหนือเส้น EMA 10 วันได้ตลอด พร้อมทั้ง RSI + MACD ชี้ขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* EE มีผลบังคับ 15 ก.ย. – 7 พ.ย. 57
* MLINK มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. – 7 พ.ย. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
* COLOR / SMART / EVER / RICH / SUPER / SOLAR / CWT / TMI / FVC มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 21 พ.ย. 57
* ACD / CIG / EMC / FOCUS / GENCO / NIPPON / SST / TAKUNI / TIES มีผลบังคับใช้ 20 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
* BSM / PCA / SANKO / SVOA / TFI / WIN มีผลบังคับใช้ 27 ต.ค. - 4 ธ.ค. 57
* ABC / CCN / CSS / EVER / GENCO-W1 / KC / LOXLEY-W / RCI / RPC / WAT มีผลบังคับใช้ 3 พ.ย. – 12 ธ.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 195.10 จุด
ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันนี้ โดยขยายเป้าหมายในการเพิ่มฐานเงินสู่ระดับ 80 ล้านล้านเยนต่อปี และซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 30 ล้านล้านเยนต่อปี ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นปัจจัยที่หนุนให้ตลาดหุ้นพุ่งทะยานในแดนบวกปิดท้ายเดือนตุลาคม ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้น 195.10 จุด หรือ 1.13 % ปิดที่ 17,395.54 ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 23.40 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 2,018.05 ดัชนี NASDAQ บวก 64.60 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 4,630.74 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 0.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสตลาดนิวยอร์กส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 80.54 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังผลผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งแตะระดับสุงสุดในรอบ 14 เดือน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 38 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 85.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศโอเปก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 53,000 บาร์เรล แตะที่ 30.974 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน โดยผลการสำรวจระบุว่า ผลผลิตน้ำมันดิบจากโอเปก ซึ่งมีสัดส่วน 40% ของอุปทานน้ำมันในตลาดโลก ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในอิรัก ซาอุดิอาระเบีย และลิเบีย
Analyst :
วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ชัยยศ จิวางกูร
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์