- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 03 November 2014 16:12
- Hits: 1703
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนเชิงบวก
เราคาดว่าตลาดไทยวันนี้จะผันผวนเชิงบวก ด้วยปัจจัยหนุนจากการที่ญี่ปุ่นเพิ่ม QE ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และการคาดการณ์ว่า ECB จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรลงทุนควรลงทุนอย่างระมัดระวังหากดัชนี SET Index เข้าใกล้จุด 1600 จุด เนื่องจาก Upside เริ่มมีจำกัดแล้ว
แนวรับ/แนวต้าน : 1560/1600
กลยุทธ์ : เน้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล และกลุ่มที่มี story หนุน
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
นักลงทุนระยะสั้น : WAT(0.10), DEMCO(19)
นักลงทุนระยะยาว : EE(2), THREL(21)
จับข่าวมาเก็งกำไร
TOP : บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3/57 ขาดทุน 2,175 ล้านบาท ซึ่งไม่เป็นที่น่าแปลกใจ และเราเชื่อว่าผลประกอบการไตรมาสที่ 4/57 จะขาดทุนต่อเนื่อง จากการลดลงอีก 10เหรียญ/บาร์เรลของราคาน้ำมันดิบ ตั้งแต่สิ้นไตรมาสที่ 3/57 ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือความไม่แน่นอนของแนวโน้มราคาน้ำมัน สำหรับธุรกิจน้ำมันและก๊าซ PTTGC คือหุ้นเด่นของเรา จากมูลค่าหุ้นที่ถูกกว่า โดยอยู่ที่ 7 เท่า PE 2558 ขณะที่ TOP อยู่ที่ 8.6 เท่า คงคำแนะนำ ถือ ด้วยราคาพื้นฐานที่ 45.00 บาท ราคาเหมาะสมที่ควรเข้าซื้อคือ 40.00 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
- สศอ. ได้ปรับลดประมาณการดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของปีนี้ลงเป็นติดลบ 3% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 1.5-2% ซึ่งถือเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากปี 2556 ที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมติดลบ 3.2% หลังดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในช่วง 9 เดือนแรกติดลบและยังไม่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น บริโภคภายในชะงัก ทางด้านกระทรวงพาณิชย์เผยเศรษฐกิจซบ-ผ่อนรถคันแรกไม่ไหว ดันรถมือสองล้น เร่งศึกษาตลาด-อัตราภาษีก่อนผลักดันส่งออก
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้น 195.10 จุด หรือ 1.13 % ปิดที่ 17,395.54
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์(31 ต.ค.) หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันนี้ โดยขยายเป้าหมายในการเพิ่มฐานเงินสู่ระดับ 80 ล้านล้านเยนต่อปี และซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 30 ล้านล้านเยนต่อปี ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นปัจจัยที่หนุนให้ตลาดหุ้นพุ่งทะยานในแดนบวกปิดท้ายเดือนตุลาคม
+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 80.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) หลังผลผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งแตะระดับสุงสุดในรอบ 14 เดือน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น