- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 March 2021 16:13
- Hits: 10748
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 5-3-2021
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ลดลงต่อ แต่ไม่น่าลงแรงเท่าหุ้นต่างประเทศ
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันศุกร์ปรับลงต่อ แต่ไม่น่าลงแรง... หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับฐานตามจิตวิทยาเชิงลบในตลาดหุ้นเอเชีย และหลังจากการปรับขึ้นร้อนแรงเมื่อวันพุธ (ตามคาด)... ขณะที่ปัจจัยตลาดหุ้นโลกเมื่อวานนี้เป็นลบ หลังจากบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นแรงและกดดัน valuations ของตลาดหุ้นโดยเฉพาะตลาดหุ้นที่เชื่อมโยงกลุ่มเทคโนโลยี แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยน่าจะลงไม่แรง เพราะมีแรงช่วยจากตลาดน้ำมันที่ฟื้นตัวแรง รวมทั้งความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นลบ: i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐานค่อนข้างแรง ตอบรับการปรับขึ้นของบอนด์ยิลด์ 10 ปี ที่พุ่งสู่ 1.57% หลังจากประธาน ธ.กลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวล กล่าวในงานสัมมนาของ เดอะ วอลสตรีท เจอร์นัล ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ น่าจะพุ่งขึ้นในระยะสั้นๆ และบอนด์ยิลด์ของสหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้น แต่เขามิได้ส่งสัญญาณถึงมาตรการใดๆ ในการควบคุมบอนด์ยิลด์แต่อย่างใด ii) อย่างไรก็ดี มีปัจจัยบวกเข้ามาในตลาดน้ำมัน หลังจากที่ประชุม OPEC+ มีมติขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตพิเศษไปอีก 1 เดือน ถึงสิ้น เม.ย. 2564 ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTi ฟื้นตัว 4.89% และน่าจะสนับสนุนราคาหุ้นหลักๆ ในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี (และจำกัดความเสี่ยงทางลงของ SET Index)
ปัจจัยในประเทศ - เป็นบวกเล็กน้อย: นักลงทุนยังคงคาดหวังถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 2/2564... ล่าสุดรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ตั้งเป้า GDP ไทยปี 2564 เติบโต 4% และส่งสัญญาณว่าน่าจะมีมาตรการกระตุ้นระยะสั้นออกมาอีก... น่าจะส่งผลดีต่อหุ้นเชื่อมโยงการใช้จ่ายบริโภคและเศรษฐกิจภายในประเทศ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ESSO*, MINT*, BEM*
ESSO* (เป้าพื้นฐาน 9.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 8.7 บาท / แนวต้าน 9.0 - 9.4 บาท (Stop loss 8.6 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวจาก i) ราคาน้ำมันดิบบวกแรง หลังที่ประชุมโอเปกพลัส มีมติคงกำลังการผลิตน้ำมันต่อถึง เม.ย. (ลดความกังวลเรื่องการกลับมาเพิ่มกำลังการผลิต) ii) ค่าการกลั่นสัปดาห์ล่าสุด ฟื้นตัวแรงตามคาด (ล่าสุดอยู่ที่ 1.7 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จาก 1.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ในสัปดาห์ก่อน ... ดูบทวิเคราะห์ Commodity Weekly วันที่ 2 มี.ค.)
MINT* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 30 บาท / แนวต้าน 31 บาท หาก Breakout ผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 34 บาท (Stop loss 29 บาท) 2) ประเมินสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับทั่วโลก โดยเฉพาะที่ยุโรปและในไทยจะเป็น Sentiment บวกต่อ MINT* ประเมินเม็ดเงินลงทุนจะไหลกลับจากหุ้นกลุ่ม "Stay at home" มายังกลุ่มท่องเที่ยวแทน ... ล่าสุด ศบค. เตรียมพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม 3) คาดแรงเก็งกำไรรับ Warrant ซีรีย์ใหม่ MINT-W8 และ MINT-W9
BEM* (เป้าพื้นฐาน 10.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 8.45 บาท / แนวต้าน 8.7 - 8.8 บาท (Trailing stop 8.3 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก i) รฟม เตรียมออกร่าง TOR รถไฟฟ้าสายสีส้ม และเปิดรับฟังความคิดเห็น โดยเกณฑ์ใหม่คาดเป็นบวกต่อ BEM* และ CK* (นำคะแนนเทคนิคมาร่วมประเมิน) ii) คาดรับอานิสงส์สถานการณ์โควิดคลี่คลายและเลิกการ Work from home
หุ้นมีข่าว
(+ กลุ่มพลังงาน) เมื่อวานนี้ OPEC+ ตกลงจะรักษาระดับการผลิตให้คงที่ส่วนใหญ่ในเดือนเมษายน ยกเว้นการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ให้กับรัสเซียและคาซัคสถาน (Bloomberg) ความคิดเห็น: สมาชิก OPEC+ ตกลงที่จะคงกำลังการผลิตในปัจจุบันจนถึงเดือนเมษายน แต่อย่างไรก็ตาม รัสเซียและคาซัคสถานได้รับอนุญาตให้เพิ่มการผลิตได้ 130KBD และ 20KBD ตามลำดับ ในขณะเดียวกันซาอุดิอาระเบียจะยุติการลดอุปทานโดยสมัครใจที่ 1.0MBD ในเดือนเมษายน ทั้งนี้ตลาดน้ำมันดิบตอบสนองในเชิงบวกเนื่องจากโอเปกจะรักษาระดับการผลิตให้คงที่ส่วนใหญ่ในเดือนเมษายน ดังนั้นเราเชื่อว่า PTTEP, PTT, และ PTTGC จะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น
(+) เล็ง 5 จ."แอเรียควอรันทีน" รับเปิดประเทศเม.ย.นี้ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "ก.ท่องเที่ยว" นำร่อง 5 จังหวัดเปิดพื้นที่ "แอเรียควอรันทีน" รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ กักตัวในโรงแรม 14 วัน คาดเริ่มได้ เม.ย.นี้ จ่อชง ศบค.ไฟเขียว หวัง WHO เคาะเกณฑ์ "วัคซีนพาสปอร์ต" เร็ว ปีนี้ตั้งเป้านักท่องเที่ยวเข้าไทย 5 ล้านคน
(+) EA* จับตาไตรมาส 2 รับทรัพย์ เดินเครื่องโรงแบต-รถไฟฟ้า (ทันหุ้น) EA* เตรียมเดินเครื่องโรงงานแบตเตอรี่-ผลิตรถบัสไฟฟ้าในไตรมาส 2/2564 ก้าวเข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว อัดงบลงทุน 6,000 ล้านบาท ลุยแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าต่อเนื่อง ล่าสุด Amita บริษัทลูกของ EA ผนึก ITRI คว้ารางวัล R&D100 พัฒนาแบต Solid-State
(+) RBF ติดเครื่องลุยกัญชง จ่อขายรร.ตัดค่าเสื่อม (ทันหุ้น) RBF เร่งเครื่องทำโรงสกัด - เพาะปลูกกัญชง ยื่นเรื่อง อย.รออนุมัติ พร้อมวางเกมรุกขยายตลาด Plant Base หลังเห็นแนวโน้มการเติบโตดี ปักธงยอดขายปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-12% จากปีก่อน เล็งสร้างโรงงานสุราบายา ในอินโดนีเซีย เฟส 2 รอโควิด-19 คลี่คลาย ส่วนแผนขายโรงแรม 2 แห่ง รอบอร์ดอนุมัติ
(0) SCB* ปล่อยกู้ 1.5 พันล้าน ปิดจ๊อบ 'นิมิตหลังสวน' ปีหน้า PACE เริ่มจ่ายคืนหนี้งวดแรก 5 พันล้าน (ข่าวหุ้น) ไทยพาณิชย์ปล่อยกู้ PACE ลุยก่อสร้างโครงการนิมิต หลังสวน วงเงิน 1,500 ล้านบาท ตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง ก่อนโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้า มั่นใจเพซเริ่มจ่ายเงินคืนแบงก์ 5 พันล้านบาทภายในปี 2565 ส่วน ดีน แอนด์ เดลูก้า รอปรับโครงสร้างหนี้ ขณะที่ผู้บริหาร SCB* ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โต 3-5% จากธุรกิจเวลท์และธุรกิจขายประกัน
(+) IMH เทกโอเวอร์'รพ.ประชาพัฒน์' จ่อรับรู้รายได้ 312 ล้านทันที (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ" ประกาศทุ่มเงิน 161 ล้านบาท ซื้อกิจการ "โรงพยาบาลประชาพัฒน์" ขนาด 100 เตียง ยกระดับการให้บริการผู้ป่วยทั่วไป คนไข้ สปสช. ประกันสังคม จ่อเตรียมบุ๊กรายได้ทันที 312 ล้านบาท มั่นใจหนุนรายได้ทั้งปีโตก้าวกระโดดแตะ 650 ล้านบาท ส่งซิกศึกษาแผนซื้อกิจการเพิ่ม ปูทางอนาคตต้องมีเตียงมากกว่า 1,000 เตียง
(+) MAJOR* ล้ำสมัยใช้เงินดิจิทัลแลกตั๋วหนัง (ไทยโพสต์) เมเจอร์ พร้อมลุยขายตั๋วผ่านออนไลน์ ล่าสุดผนึกพันธมิตรใหม่ ประเดิมรับแลกตั๋วหนังด้วยสกุลเงินดิจิทัล ตอบโจทย์เทรนด์มาแรงยุคปัจจุบัน
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
III (เป้า Consensus 7.45 บาท ... สูงสุด 8.5 บาท) แนวรับ 7.15 บาท / แนวต้าน 7.6 - 7.8 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Stop loss 7.0 บาท)
ILM (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 14.2 บาท / หากยืนเหนือแนวราคา 14.5 บาทได้ แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 14 บาท)
LH* (เป้าพื้นฐาน 9 บาท) แนวรับ 8.1 บาท / แนวต้าน 8.2 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 8.05 บาท)
LEO (เป้าพื้นฐาน 7.3 บาท) แนวรับ 6.2 บาท / แนวต้าน 6.4 บาท และถัดไป ±6.8 บาท (Stop loss 6.0 บาท)
SA (เป้าพื้นฐาน 9.2 บาท) แนวรับ 6.95 บาท / แนวต้าน 7.3 บาท และถัดไป 7.6 บาท (Stop loss 6.8 บาท)
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 20.7 บาท) แนวรับ 20.5 บาท / แนวต้าน 21.5 บาท (Trailing stop 20.5 บาท)
WHA* (เป้าพื้นฐาน 3.7 บาท) แนวรับ 3.24 บาท / แนวต้าน 3.34 - 3.4 บาท (Stop loss 3.1 บาท)
PTTEP* (เป้าพื้นฐาน 122 บาท) แนวรับ 112 บาท / แนวต้าน 116 - 120 บาท (Trailing stop 110 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
PTG* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 27 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯปี 2564 - 65 ขึ้น +6% และ +5% ตามลำดับ หลักๆจากการปรับสมมติฐานธุรกิจ Non-oil (ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ) และการเปิดปั๊ม LPG เพิ่ม 50 แห่ง ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯปรับเป้าหมาย PE ขึ้นเป็นใช้ 20 เท่า (เดิม 19 เท่า) คงคำแนะนำ "ซื้อ" ... ประเมินมี Upside จากธุรกิจใหม่ i) กัญชง และ ii) โรงไฟฟ้าขยะ
CENTEL* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ i) ผลการดำเนินงานใน 1Q64 คาดจะชะลอตัวลง ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ii) อย่างไรก็ดีสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มดีขึ้นตามลำดับ จะทำให้ผลการดำเนินงานฟื้นตัวได้หลังจากนี้ ยังคงแนะนำ "ซื้อ"
EGCO* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 308 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก ผู้บริหารตั้งเป้าแผนลงทุน 5 ปีข้างหน้าไว้ด้วยงบลงทุน +1.5 แสนล้านบาท และประเมินว่าจะเป็นการมุ่งเน้นกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซและพลังงานทดแทนมากขึ้น (ลดสัดส่วนไฟฟ้าจากถ่านหิน) ทั้งนี้เป้าหมายการจ่ายปันผล แม้จะใช้งบลงทุนจำนวนมากแต่จะกำหนดการจ่ายขั้นต่ำไว้ไม่ต่ำกว่าที่เคยจ่ายในปี 2563 ที่ 6.5 บาท/หุ้น
WHAUP* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวกเล็กน้อย i) คาดยอดขายน้ำจะเพิ่มขึ้น จากลูกค้าใหม่ ii) รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการโซลาร์รูฟท๊อป อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯปี 2564 ลง -20.7% จากการปรับสมมติฐานยอดขายน้ำใหม่ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ... มี Upside จากการ M&A ธุรกิจที่เวียดนาม คาดรู้ผลใน 2Q64
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web