WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
ขายระยะสั้น
  หลังเฟดประกาศยุติโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ QE ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 6 ปี หุ้นยุโรปปรับตัวลง และตลาดหุ้นเอเชียขึ้นและลงคละกัน ขณะที่ SET วานนี้ขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมจากวันก่อนหน้าที่ 1570 จุด และปรับตัวลดลงปิดเท่ากับราคาเปิดที่ 1565 จุด ปิดตลาดที่ 1565.35 จุด (+2.68 จุด, +0.17%) SETHD (+0.38) ปรับตัวขึ้นสูงกว่าตลาดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยมีลักษณะขึ้นลงคละกลุ่ม และ มูลค่าซื้อขายลดลงเหลือ 4.1 หมื่นล้านบาทจาก 5.1 หมื่นล้านบาทในวันก่อนหน้า เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องที่ 32.53 บาท/US$ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอีก 132 ล้านบาท และกองทุนซื้อสุทธิต่อเนื่องวันที่ 6 อีก 575 ล้านบาท

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
  ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันยังใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่ เนื่องจากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ หากยกเลิกไป จะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯรายงานจีดีพีไตรมาส 3/57 เติบโต 3.5% ลดลงจากเติบโต 4.6% ในไตรมาส 2/57 และเทียบกับหดตัว 2.1% ในไตรมาส 1/57 แต่ สูงกว่าตลาดคาดการณ์จะเติบโตที่ 3.0%
  สนง.เศรษฐกิจคลัง คาดว่าดุลการค้าไทยจะเกิน ดุลเพิ่มขึ้นจากปี 56 มาอยู่ที่ US$19.4 พันล้าน (โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ US$18.0 – 20.2 พันล้าน) จากการหดตัวของมูลค่าการนำเข้าสินค้า -5.7% (โดยมีช่วงคาดการณ์ -6.0% ถึง -5.5%) ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวเล็กน้อยเพียง 0.1% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ -0.2 ถึง 0.4%) ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ US$9.0 พันล้านคิดเป็น 2.2% ของ GDP (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 2.1 – 2.3% ของ GDP) ปรับลดคาดการณ์ จีดีพีไทยในปีนี้ลงเหลือเติบโต 1.4% (กรอบ 1.2-1.7%) จากเดิม 2.0% (กรอบ 1.5-2.0%) โดยครึ่งหลังของปี 57 คาดว่าจะเติบโต 2.9% และปี 58 ว่าจะเติบโต 4.1% (กรอบ 3.6-4.6%)

  ผลตอบรับจากหลังจากการยุติมาตรการ QE3 ของเฟดและจีดีพี ไตรมาส 3/57 ของสหรัฐฯแม้ว่าจะออกมาดีกว่าคาด แต่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์–น้ำมันดิบเบรนท์ และทองคำ กลับปรับตัวลดลง ขณะที่ US Dollar Index แสดงการแข็งค่าขึ้นเหนือระดับ 86 (เงินบาทอ่อนค่า) เราประเมินว่าจิตวิทยาเชิงบวกในภาพใหญ่จะหมดลงหรือได้รับรู้ไปแล้ว แม้ว่า SET จะปรับตัวขึ้นได้ 6 วันติดต่อกัน แต่ใน 2 วันทำการหลังสุด ทำได้เพียงทรงตัวในกรอบแนวต้าน 1,560-1,570 จุด เทียบเท่า Prospective P/E 18 เท่า ซึ่งเป็นแนวต้านเชิง valuation ที่แข็งแกร่ง มีนัยถึงความเสี่ยงทางลงได้จากนี้ เราคาดหวังถึงแรงขายระยะสั้น แนะนำขายต่อเนื่อง หรือรอดู

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ถือลดพอร์ตหุ้น 10%

  เราถือครองหุ้นเหลือ 10% และถือเงินสด 90% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 2 บริษัทคือ HMPRO, และ ADVANC

  Accumulate : -- รอสะสมหุ้น

  Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1565 จุด ต่ำกว่า รอ

  เปรียบเทียบดัชนี

  สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
  พอร์ตหุ้น 10% ถือเงินสด 90%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +0.6%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.8%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +2.4%
ผลตอบแทนตลาด SET = +15.7%

  พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 5 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
  วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
  วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
  วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
  วันที่ 15 ต.ค. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 200% เหลือ 10% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 0%)
  รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%


Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!