- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 May 2014 17:47
- Hits: 3222
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +63.19, NASDAQ +31.47, S&P +8.04, FTSE -4.81, CAC +14.94 และ DAX +47.10 โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัย หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ออกมาดีกว่าคาด
….ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่มีปริมาณซื้อขายเบาบาง ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในอังกฤษ
....ราคาปิดน้ำมันดิบล่วงหน้า (Nymex) ส่งมอบ มิ.ย. +US$0.61 อยู่ที่ US$104.35 ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความวุ่นวายในยูเครนและลิเบีย และจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัว
.....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน มิ.ย. อยู่ที่ -US$3.3 อยู่ที่ US$1,291.7 ต่อออนซ์ จากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากสหรัฐประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีเกินคาด
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -6,777 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -27,650 ล้านบาท (สิ้นปี ’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : ยังคงผันผวน? คาดมีโอกาสปรับขึ้น หาก คสช. สามารถจัดตั้งคณะรัฐมนตรีได้เร็ว และไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเราคาดว่าจะยังคงมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ของนักลงทุนต่างชาติในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และไอซีที ในขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจการบริหารประเทศ คาดว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศ และจะกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในระยะสั้น ในขณะที่ตลาดยังคงจับตาผลของการรัฐประหารครั้งนี้ ว่าจะนำพาประเทศเข้าสู่ความสงบได้อย่างไร? และจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเพื่อมาบริหารประเทศได้เร็ว และมีนโยบายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และผลักดันให้ระบบเศรษฐกิจเคลื่อนต่อไปได้ คาดว่าจะส่งผลดีต่อภาพเศรษฐกิจโดยรวม
....สำหรับกลยุทธ์ เราแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาลดลงมาจากการขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในประเทศ เช่นหุ้นในกลุ่มส่งออก และกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีความผันผวนของผลประกอบการต่ำ
…..นอกจากนี้ยังคงต้องจับตา (1) การทำหน้าที่ขององค์กรอิสระต่างๆ เช่น ปปช., ศาล ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป (2) การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีที่จะเข้ามาบริหารประเทศ จะสามารถเข้าบริหารประเทศได้เมื่อไหร่? และนโยบายทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศจะเป็นไปในรูปแบบใด? รวมถึงประเด็นความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดมีน้ำหนักมากขึ้นหลังจากนี้ไป ที่อาจเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลต่อการพิจารณาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.54% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.67 อยู่ที่ 11.36
หุ้นแนะนำ : PTTEP
ประเด็นที่ต้องติดตาม (26 - 30 พค. ’57)
26/5/57 : ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ
27/5/57 : (1) สหรัฐฯ เปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน เม.ย. (2) สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ เปิดเผยราคาบ้านเดือน มี.ค.(3) มาร์กิตเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือน พ.ค. (4) สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือน พ.ค.
28/5/57 : EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
29/5/57 : (1) สหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (2) สหรัฐฯ เปิดเผยประมาณการขั้นสุดท้ายของ GDP ประจำ 1Q/14 (3) สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ เปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือน เม.ย.
30/5/57 : (1) สหรัฐฯ เปิดเผยรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือน เม.ย. (2) ISM เปิดเผยดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือน พ.ค.
(3) รอยเตอร์เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือน พ.ค.
นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789