- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 January 2021 13:54
- Hits: 11935
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-1-2021
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ปรับลงต่อ ปัจจัยต่างประเทศเป็นลบมากขึ้น
มุมมอง SET Index: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ วันพฤหัสฯ ปรับลงต่อ... หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยลดลง 0.97% ส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับลงแรงของหุ้น DELTA* (-9.71%) และบรรยากาศในตลาดหุ้นอาเซียนเป็นลบหลังจาก IMF ปรับลดประมาณการ GDP ไทยและหลายประเทศในอาเซียน... สำหรับในวันนี้ปัจจัยจากต่างประเทศเป็นลบ และตลาดหุ้นโลกอยู่ในภาวะ risk-off ค่อนข้างชัดเจน (อ่านรายละเอียดในย่อหน้าถัดไป) และน่าจะกดดันดัชนีฯ ต่อ... ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงประเมินความเสี่ยงทางลง (price downside) ของ SET Index ที่ 1,465 จุด อิงตัวเลข earnings yield gap เฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 4.1%, สมมติฐานดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีที่ 1.3% และ EPS ปี 2564 ที่ 79
ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นลบ: i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ลดลงค่อนข้างแรง หลังจากกลุ่มยุโรปมีประเด็นขัดแย้งกับ AstraZeneca เรื่องการส่งมอบวัคซีนฯ ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของยุโรป ในขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ นั้น ผลการประชุม ธ.กลางหรือเฟด มีมติคงดอกเบี้ยระยะสั้นและคงนโยบาย QE ไว้ที่ 1.2 แสนล้านดอลล่าร์ฯ ต่อเดือน ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนส่วนหนึ่งที่หวังว่าเฟดจะส่งสัญญาณเพิ่ม QE หลังการติดเชื้อ COVID-19 เร่งตัวขึ้น ทั้งนี้ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ แข็งค่า... น่าจะกดดันภาพของฟันด์โฟลว์ในระยะสั้นนี้
ปัจจัยในประเทศ - เป็นกลาง: ในวันนี้ติดตามการแถลงประมาณการเศรษฐกิจไทยของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ซึ่งน่าจะมีการปรับลด GDP ปี 2564 ตามทิศทางของนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้ากว่าเดิม รวมทั้งน่าจะมีการรวมผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ เข้าไปสุทธิกันทั้งหมดด้วยเช่นกัน
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร AI, RS*
AI (เป้าพื้นฐาน 2.58 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 2.2 บาท / แนวต้าน 2.4 - 2.5 บาท (Stop loss 2.14 บาท) 2) จากการ Conference call กับผู้บริหาร i) การรับรู้รายได้ ส่งมอบลูกถ้วยไฟฟ้าใน 4Q63 มากกว่า 3Q63 ขณะที่อัตรากำไรยังทรงตัวสูง ii) ธุรกิจไบโอดีเซล AIE คาดโตเด่น YoY QoQ ลุ้นกำไรดีสุดในรอบปี จากปริมาณการส่งมอบน้ำมันไบโอดีเซลที่มากขึ้น (ขยายกำลังการผลิตในเดือน พ.ย.) และราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ปรับขึ้นสูง 3) ประเมิน Dividend yield +5% ... กำไรปี 2563 ของ AIE ลุ้นดีกว่าที่คาดไว้ปัจจุบันที่ 346 ล้านบาท (Turnaround จากที่ขาดทุน -156 ล้านบาท ในปี 2562) นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไร AIE แนวรับ 0.90 บาท / แนวต้าน 0.95 - 1.0 บาท (Stop loss 0.85 บาท)
RS* (เป้าพื้นฐาน 28.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 22.0 บาท และ 21.8 บาท / แนวต้าน 24 - 25 บาท (Stop loss 20.8 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไรปี 2564 โต +44% YoY จาก i) การขยายกลุ่มสินค้าใหม่ๆที่จะขาย ii) กำไรที่จะเพิ่มจากการลงทุนในธุรกิจใหม่ บริหารสินทรัพย์-สินเชื่อรายย่อย (คาดกำไรจากธุรกิจใหม่นี้ราว 77 ล้านบาทในปี 2564 คิดเป็น 9% ของประมาณการฯกำไรปี 2564) iii) ลุ้นการซื้อธุรกิจเพิ่มเติมอีกภายในปีนี้ ซึ่งจะเป็น Upside ของประมาณการฯปีนี้ 3) PE ปี 2564 = 25.5 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีกที่ +30 เท่า
หุ้นมีข่าว
(+) EXIM BANK เตรียมเสนอมาตรการอุ้มสายการบินให้บอร์ดอนุมัติ 28 ม.ค. นี้ ก่อนเสนอคลัง ต้นเดือนก.พ. 64 ย้ำเน้นการจ้างงานเป็นหลัก (บางกอกโพสต์) เรามองข่าวดังกล่าวเป็นบวกเล็กน้อยต่อสายการบินของไทย หลังเผชิญผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รอบสอง แม้ว่าสถานการณ์ทางธุรกิจเริ่มพัฒนาทางบวกมาหลังจากการระบาดรอบแรก (เช่น อัตราการบรรทุกของเส้นทางบินในประเทศของ AAV ฟื้นตัวขึ้นมาจนถึงระดับ 100% ระหว่างเดือน ต.ค.-พ.ย.63 แล้ว)แต่สถานการณ์กลับมาแย่ลงในเดือน ธ.ค.63 จากการระบาดรอบใหม่ ทั้งนี้ สายการบินได้รับผลกระทบทางลบมาตั้งแต่ 2Q63 ส่งผลลบต่อความสามารถในการทำกำไรและปรับลดพนักงานลงจากสถานการรณ์ดังกล่าว เราเชื่อว่า มาตรการช่วยเหลือทางด้านเงินกู้ของ EXIM BANK จะช่วยสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น นอกจากนี้ เราคาดว่าโอกาสการฟื้นตัวทางธุรกิจจะมีมากขึ้นในช่วง 2H64 และปี 2565 เรายังคงมองว่า AAV แข็งแกร่งกว่าสายการบินรายอื่น ดังนั้น เรายังคงแนะนำซื้อ โดย ให้ราคาเป้าหมายปี 2564 ไว้ที่ 3.25 บาท (อิง P/BV ระดับ 0.9x, -0.5 SD)
(+) BGRIM* รุกโซลาร์รูฟ-ลอยน้ำ มีแล้วในมือ 115 MW (ทันหุ้น) BGRIM* ติดเครื่องรุกโซลาร์รูฟท็อป-โซลาร์ลอยน้ำ เต็มสูบทั้งในและต่างประเทศ หลังปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแล้วกว่า 115 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการทำสัญญาอีก 9 โครงการ กำลังผลิตรวม 24 เมกะวัตต์ ฟากโบรกเคาะกำไรไตรมาส 4/2563 โต 48% ที่ 635 ล้านบาท ได้โรงไฟฟ้าใหม่หนุน
(+) CHAYO ดีล AUCT ต่อยอด เพิ่มช่องขายทรัพย์ลูกหนี้ (ทันหุ้น) CHAYO ควง AUCT ต่อยอดธุรกิจรับทรัพย์ นำรถเข้าร่วมประมูลขายทอดตลาดเพิ่มช่องทางช่วยเหลือลูกหนี้ มีโอกาสที่จะรุกขยายพอร์ตลิสซิ่งเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ด้าน AUCT เตรียมลานจอดรถรองรับแล้ว 3-4 หมื่นคัน
(+) III ชี้ E-Commerce หนุนธุรกิจ รองรับดีมานด์ขนส่งต่อเนื่อง (ทันหุ้น) III มองโควิด-19 ระบาดกระทบโลจิสติกส์จำกัด ตั้งการ์ดป้องกันความเสี่ยงธุรกิจ มองความต้องการขนส่งสินค้ายังมีตามการเติบโตของ E-Commerce ชูโรง Cool Chain Logistics หนุนรายได้ปี 2564 เข้าเป้าโต 15-20% พร้อมเดินหน้าศึกษา M&A ต่อยอดธุรกิจ มีลุ้นปีนี้ได้ข้อสรุปอย่างน้อย 1 ดีล
(+) SA ปั๊มรายได้ปีนี้โต 5-6 พันล้าน เปิด 2 โครงการใหม่ 6 พันล้าน เล็งตั้งกองรีทส์ (ข่าวหุ้น) “ไซมิส แอสเสท” กางแผนปี 64 ตั้งเป้ารายได้รวมโต 5,000-6,000 ล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อกกว่า 7,300 ล้านบาท เล็งเปิด 2 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท เตรียมเข้าซื้อ NPA มารีโนเวท-เพิ่มมูลค่า นอกจากนี้ซุ่มศึกษาตั้งกองรีทส์ เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจในอนาคต
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดขายล๊อกกำไร: MIRCO (Trailing stop 5.7 บาท) STGT* (Trailing stop 40 บาท)
EPG* (เป้าพื้นฐาน 9.4 บาท) แนวรับ 8.5 บาท / แนวต้าน 8.8 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 8.2 บาท)
BCPG* (เป้าพื้นฐาน 17.3 บาท) แนวรับ 15.5 บาท / แนวต้าน 16.5 -17.0 บาท (Trailing stop 15.5 บาท)
SPRC* (เป้าพื้นฐาน 9.8 บาท) แนวรับ 9.15 บาท / แนวต้าน 9.6 - 9.8 บาท (Trailing stop 9.0 บาท)
KBANK* (เป้าพื้นฐาน 161 บาท) แนวรับ 125 บาท / แนวต้าน 130 - 140 บาท (Trailing stop 122 บาท)
CWT (เป้าพื้นฐาน 4.26 บาท) แนวรับ 3.6 บาท / แนวต้าน 4.0 – 4.2 บาท (Stop loss 3.4 บาท)
AQUA (ยังไม่มีเป้าหมายใน Consensus) แนวรับ 0.45 บาท / แนวต้าน 0.48 - 0.50 บาท (Stop loss 0.44 บาท)
GPSC* (เป้าพื้นฐาน 87.5 บาท) แนวรับ 80 บาท / แนวต้าน 85 - 90 บาท (Stop loss 79 บาท)
JMT* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท ... เป้าสูงสุดใน Consensus 44 บาท) แนวรับ 38 บาท / แนวต้าน 39 - 41 บาท (Stop loss 37 บาท)
PTG* (เป้าพื้นฐาน 21.2 บาท) แนวรับ 17.4 บาท / แนวต้าน 18.0 - 18.5 บาท (Stop loss 17 บาท)
WHA* (เป้า Consensus 3.6 บาท) แนวรับ 3.12 บาท / แนวต้าน 3.2 - 3.3 บาท (Stop loss 3.0 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
SCC* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 472 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยฯ รายงานกำไร 4Q63 = 8 พันล้านบาท (+13.3% YoY, -17.4% QoQ) เป็นไปตามที่คาด แต่ต่ำกว่า Consensus -7.6% โดยกำไรที่ดีขึ้น YoY เป็นผลจาก Spread ปิโตรเคมีที่ดีขึ้น ขณะที่กำไรที่อ่อนแอลง QoQ เป็นผลจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน รวมทั้งมีการตั้งสำรองสินทรัพย์ด้อยค่า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q64 คาดว่าจะดีขึ้น QoQ จากโรงงานที่ปิดซ่อมบำรุงกลับมาดำเนินการผลิตและส่วนแบ่งรายได้จาก SCGP* ที่เพิ่มขึ้น ... ประกาศปันผล 8.5 บาท/หุ้น (XD 8 เม.ย.)
BEC แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 9.25 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 4Q63 = 179 ล้านบาท (+198% QoQ, Turnaround YoY) เป็นผลทั้งจากรายได้ที่ดีขึ้นและต้นทุนที่ลดลง (ผลจากการปรับโครงสร้างภายในที่ได้ผล) ฝ่ายวิจัยฯปรับปรุงประมาณการฯปี 2563 - 64 ขึ้นสะท้อนประเด็นดังกล่าว โดยเฉพาะปี 2564 ที่คาดจะมีกำไร +556 ล้านบาท (ปรับขึ้น +10%) คงคำแนะนำ "ซื้อ"
BAM* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 24.6 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 4Q63 = 885 ล้านบาท (+197% QoQ, -47% YoY) ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อการขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในปีนี้ ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับลดประมาณการฯปี 2563 - 64 ลง -35% และ -37% ตามลำดับ คงคำแนะนำ "ถือ"
Strategic SET daily
January 28, 2021 Market strategy Thailand
1 อดิศักดิ์ คำมูล
2 66.2658.8888 ต่อ 8843
จิตวิทยาตลาดวันนี้: -- กรอบราคา 1497 - 1504 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1504 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1504-1525 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1497 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1497-1475 จุด
แนวรับวันนี้: 1497/1475 แนวต้านวันนี้: 1504/1523
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web