WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 4-1-2021May
วันพุธที่ผ่านมา SET แกว่งตัวลงขานรับความกังวลตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศที่เร่งตัวขึ้น โดย SET ปิดที่ 1,449.35 (-12.60 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.8 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 7.8 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 511 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 911 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 9,670 สัญญา)
TOA (เริ่มคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 40 บาท) เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวชั้นนำในประเทศไทย (ส่วนแบ่งตลาด 48.7%) คาดกำไรปี 64-65 เติบโตเฉลี่ย +8%CAGR ผสานฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดในมือ และ เงินลงทุนระยะสั้นสูงถึง 6,365 ล้านบาท เพิ่มความน่าสนใจในการทยอยสะสม 
สถานการณ์ COVID-19 เปิดความเสี่ยงมากขึ้น : ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นปีคาดมีแรงกดดันหลักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศที่เร่งตัวขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อใหม่ราว 300 คนต่อวัน และมีการกระจายตัวออกไปมากถึง 53 จังหวัด โดยเราเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวยังมีโอกาสที่จะเร่งตัวขึ้นต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังผ่านเทศกาลปีใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเฝ้าระวังที่สำคัญ ดังนั้นในช่วงนี้จึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนให้มากยิ่งขึ้น โดยแนะชะลอการลงทุน และจับตาปัจจัยสำคัญที่จะใช้เป็นจุดในการพิจารณาการเข้าซื้ออีกครั้ง เช่น 1) สัญญาณตัวเลขการติดเชื้อมีทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่ 2) ภาครัฐฯมีการออกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อมากน้อยแค่ไหน 3) การเกิดสัญญาณ Panic sell หรือไม่ ซึ่งหากเราเริ่มเห็นสัญญาณต่างๆ เริ่มทยอยออกมา และตลาดหุ้นตอบรับปัจจัยลบไปในระดับหนึ่ง (ตลาดหุ้นต่างประเทศหลังเกิดการระบาดในระลอกที่ 2 ย่อตัวราว 5-10%) ก็อาจจะเป็นสัญญาณที่ดีในการทยอยกลับเข้าไปลงทุนอีกครั้ง โดยกลุ่มที่น่าสนใจในจังหวะตลาดย่อ เช่น กลุ่มพลังงาน&ปิโตรเคมี (PTT, PTTGC), ไฟแนนซ์ (SAWAD), ไฟฟ้า (GULF), อสังหาฯ (LH, SPALI) ส่วนสำหรับกลุ่มที่โดนผลกระทบจาก COVID-19 โดยตรง เช่น การท่องเที่ยว การบริโภค ธนาคาร คาดราคาหุ้นในระยะสั้นอาจปรับตัวลงแรง แต่อาจเป็นจังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ทยอยรับในช่วงตลาด Panic sell เพื่อรอลุ้นการฟื้นตัวในช่วงถัดไป
Investment Strategy : วันนี้คาด SET ย่อตัว โดยประเมินแนวรับ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,465 จุด เน้นหุ้นที่ปัจจัยหนุนเฉพาะตัว โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “TOA, CPF, GULF“
BCH เปิดรพ.ใหม่ ปี 64 รายได้โต 15% (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : โรงพยาบาลใหม่ในปราจีนบุรีจะมีผู้ป่วยประกันสังคมประมาณ 40,000-80,000 คน โดยฐานผู้ประกันตนของโรงพยายาลมีประมาณ 900,000 คน และช่วยเพิ่มรายได้ประกันสังคมประมาณ 4.4%-8.8% และยังมีการฟื้นตัวของรายได้จากผู่ป่วยทั่วไปอีก ดังนั้นรายได้ที่เติบโต 10-15% เป็นไปได้สูง เรามีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น BCH
LH น่าซื้อเป้าราคา 10 บาท ปันผลครึ่งหลังปี 63 ยีลด์ 3% (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : 4Q63 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของบริษัทฯจากยยอดขายแนวราบที่ดี ยอดโอนจากคอนโดเดอะรูมพญาไทที่สร้างเสร็จ อีกทั้งยังมีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ ในขณะที่ปี 64 ทั้งในแง่ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจให้เช่า เราคาดจะมีการเติบโตกำไรเกิน 20% โดยเงินปันผลปี 64 เพิ่มขึ้นเป็น 0.65 บาท ยีลด์สูงเกิน 7% แนะนำซื้อ เป้า 9.50 บาท
STGT ชูพาร์ใหม่พรุ่งนี้ จับตาวอลุ่มเทรดสนั่น (ทันหุ้น)
ความเห็น : นอกจากประเด็นนี้ การที่บริษัทได้ปรับนโยบายปันผลจากไม่ต่ำกว่า 30% เป็น 50% ยังเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่น และ ทิศทางผลการดำเนินงานในระยะยาวอีกด้วย สอดคล้องกับมุมมองของเราว่า STGT กำลังจะกลายร่างเป็นหุ้นปันผลในปี 2564 นี้ เราคงคำแนะนำ ซื้อ 96.50 (หรือบนพาร์ใหม่ 48.25)
คมนาคมจ่อประมูลปีนี้ 3 แสนล้าน สายสีม่วงใต้-ทางคู่สายใหม่-ส่วนต่อขยายสีแดง (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : 4 โครงการ มูลค่ากว่า 3 แสนล้าน คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้  ทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง และส่วนต่อขยายสายสีแดง 3 ช่วง  รวมถึง รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกและงานระบบ 1.27 แสนล้านบาท  จะช่วยเพิ่มงานกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง  เราคงให้น้ำหนักกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเท่าตลาด หุ้นที่แนะนำเก็งกำไรในกลุ่มในช่วงอ่อนตัว คือ CK (เป้าหมาย 24.00 บาท) และ STEC (เป้าหมาย 18.00 บาท)

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!