- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 December 2020 15:57
- Hits: 10865
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-12-2020
Market Wrap-Up
• SET ปิดวันที่ 25 ธ.ค.63 ปิด +34.78 จุด อยู่ที่ 1,486.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 88,244 ลบต่างชาติซื้อสุทธิ 64 ลบ. สถาบันซื้อสุทธิ 1,490 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อสุทธิ 538 ลบ. ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิ 437 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น CPALL, HANA, MTC, PTTEP, SCGP และมียอดขายหุ้น AEONTS, DELTA, IVL, KTC, VGI มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 2,328 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ PTTGC, IVL, PTT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 4,370 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 84,873 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 154 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปวันศุกร์ปิดทำการในวันหยุดคริสต์มาส โดยมีปัจจัยบวกหลังอังกฤษสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับอียูได้ โดยต้องขอสัตยาบันจากสภาอังกฤษในวันที่ 30 ธ.ค. ขณะที่รัฐสภาอียูจะพิจารณาข้อตกลงในต้นปีหน้า ส่วนดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทรงตัว หลังรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. +1.2% ชะลอตัวจากเดือน ต.ค. +3.9% จากยอดขายรถยนต์สหรัฐที่ชะลอตัวและความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์ระบาด COVID-19
Market View
• ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA สัปดาห์ทีผ่านมาปิดทรงตัว ได้ปัจจัยหนุนหลังสภาคองเกรสผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ยอมลงนามรับรองมาตรการดังกล่าว โดยต้องการเพิ่มเช็คช่วยเหลือประชาชนจาก 600 ดอลลาร์/ราย เป็น 2,000 ดอลลาร์/ราย ซึ่งประธานสภาผู้แทนฯ นางเพโลซีจะเปิดสภาในวันจันทร์นี้เพื่อพิจารณาปรับเพิ่มเม็ดเงินช่วยเหลือตามข้อเสนอของประธานาธิบดีทรัมป์ ทางฝั่งยุโรปอังกฤษสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับอียูก่อนเส้นตายวันที่ 31 ธ.ค. โดยสามารถตกลงกันในประเด็นการทำประมง ซึ่งอังกฤษจะเรียกคืนโควตาการทำประมงในน่านน้ำอังกฤษ 25% คิดเป็นมูลค่า 198 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากอียูภายในระยะเวลา 5 ปีครึ่ง จากเดิมอังกฤษต้องการเรียกสิทธิ์คืนถึง 80% จากข้อตกลงดังกล่าวช่วยลดความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวหากเกิดกรณี Brexit No Deal โดยภาพรวมภาวะเศรษฐกิจโลกปีหน้าคาดทยอยฟื้นตัวแต่ในช่วง 1Q64 การฟื้นตัวอาจชะลอตัวหลังจากเกิดการระบาดรอบ 2-3 ในยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ส่งผลให้ต้องใช้มาตการล็อคดาวน์อีกครั้ง สำหรับดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาทรงตัว WoW ต่างชาติซื้อสุทธิ 2.89 พัน ลบ. สถาบันขาย 8.1 พัน ลบ. โดยดัชนี SET ฟื้นตัวจากบริเวณ 1,400 จุด หลังรัฐบาลใช้มาตรการควบคุมการระบาดตามโซนพื้นที่เสี่ยง ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามวันอาทิตย์ ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 121 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 94 ราย แต่ที่น่ากังวลคือพบผู้ติดเชื้อใน จ.ระยอง 28 ราย คาดจะเป็นการระบาดแบบกลุ่มคัสเตอร์ใหม่ ส่งผลให้แนวโน้มการติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น และรัฐบาลอาจต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น
Daily Strategy
• ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับฐานลงสู่ระดับ 1,450-1,460 จากความเสี่ยงการระบาดในกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ที่ จ.ระยอง แนะนำซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น BBL, PTTGC, IVL, PSL, TVO
• MTC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 64.00 บาท) รายงานกำไรสุทธิงวด 9M63 อยู่ที่ 3,844 ล้านบาท +23.73%YoY ยังเติบโตได้ดี ตามระดับการเติบโตของสินเชื่อ โดยยังคงเน้นในส่วนของ ลูกค้ากลุ่มมอเตอร์ไซต์ ด้านผู้บริหารมองว่า การยื่นไฟลิ่งของเงิน “เงินติดล้อ” จะไม่กระทบผลการดำเนินงานเนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าหลักคนละกลุ่ม ขณะที่กรณีการร่วมทุนของออมสินกับ SAWAD ใน “เงินสดทันใจ” ยังไม่น่ากังวล เพราะมีดอกเบี้ยใกล้เคียงกันที่ราว 18-19% โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปีหน้าที่ 20-25% ใกล้เคียงกับการเติบโตของปีนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 63 และ ปี 64 ที่ 5,158 ลบ.+21.7%YoY และ 5,916 ลบ.+14.71%YoY ตามลำดับ
• SIS* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 23.75 บาท) รายงานกำไรสุทธิ 3Q63 ที่ 154 ล้านบาท +55%yoy, +4%QoQ หนุนจากยอดขายที่เติบโตหลังเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ Xiaomi ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 4Q63 และปี 64 คาดยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปัญหาสินค้าในกลุ่มมือถือขาดตลาดคลี่คลาย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนจากความต้องการสินค้าไอที โดยเฉพาะอุปกรณ์ 5G และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวเนื่องกับการประชุม (E-meeting) สอดคล้องกับการทำงาน WFH ส่วนสถานการณ์ COVID-19 เป็นบวกต่อการขายสินค้าเครื่องสแกนอุณภูมิ ด้านธุรกิจเช่าใช้ Data Center and Cloud Service ปัจจุบันมีฐานลูกค้าที่ใช้บริการแล้วเกือบ 300 ราย มีโอกาสในการขยายการให้บริการได้อีกมาก ขณะเดียวกันยอดขายสินค้าและบริการเกี่ยวกับ Cybersecurity มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ภายหลังที่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ตลาดคาดกำไรปี 63-64 ที่ 660 ล้านบาท +56%YoY และ 690 ล้านบาท +4.5%YoY
Daily Key Factors
Oil Update (-) สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI Futures ก.พ. -1.77% อยู่ที่ US$48.23/bbl Brent Futures มี.ค. -1.86% อยู่ที่ US$51.29/bbl ปรับลดลงระหว่างรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าอังกฤษ - อียู ขณะที่ รมว.พลังงานรัสเซียเผยการประชุมโอเปกวันที่ 4 ม.ค.นี้ จะเสนอการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นอีก 5 แสน บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.พ.นี้
Gold Update (0) สัปดาห์ที่ผ่านมา Gold Futures ก.พ. ทรงตัว อยู่ที่ US$1,883.20/Oz ได้แรงหนุนจาก Dollar Index แข็งค่า +0.33% อยู่ที่ 90.32 และกังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ลงนามอนุมัติ
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมาซื้อสุทธิ 15.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย 95.8 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -48.26 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -32.11 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี่ทรงตัวที่ 29.987 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(0) ดัชนี BDI ปิดที่ 1,366 ปิดทำการในวันหยุดคริสต์มาส
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.948%
(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.54/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 127,740 ราย รวมอยู่ที่ 19,573,847 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,215 ราย รวมอยู่ที่ 341,138 ราย / อังกฤษติดเชื้อเพิ่มขึ้น 30,501 ราย รวมอยู่ที่ 2,288,345 ราย (Worldometers)
(+) จีนขยายเวลายกเว้นเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ ประเภทน้ำมัน, เคมีภัณฑ์ 6 รายการเป็นเวลา 1 ปี
Economic Calendar
ในประเทศ
28 ธ.ค. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
30 ธ.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที่5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง,ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
29 ธ.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ธ.ค.)
30 ธ.ค. US ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
31 ธ.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (ธ.ค.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
01 ม.ค. วันปีใหม่ – วันหยุด
Theme Strategy
(Theme Post-COVID19 แนวโน้มกำไรฟื้นตัวได้เร็ว
(1) กลุ่ม Cyclical Stock พลังงาน PTT, PTTEP ปิโตรเคมีและโรงกลั่น BCP, ESSO*, IRPC, IVL*, PTTGC, SCC*, SPRC*, TOP
(2) กลุ่มอิงการบริโภครับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ BJC, CBG*, CPF, CPALL, CRC*, GLOBAL*, HMPRO*, ICHI*, MINT*, OSP*, SCCC*, SCGP*
(3) กลุ่มบริการ เช่น โรงพยาบาล BCH, BDMS*, BH* โรงภาพยนต์ MAJOR*
(4) กลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีศักยภาพในการเติบโต BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*
(5) กลุ่มการเงินสินเชื่อ JMT*, SAWAD*
(6) กลุ่มยานยนต์ SAT, AH
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 25% Alternative Investment etc. Gold 15% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio December 2020: BCP, CRC*, M*, SCGP*, PSL*, STARK*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Nattawat Poosunthornsri Assistant Analyst
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web