- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 December 2020 11:59
- Hits: 10409
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 23-12-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 22 ธ.ค.63 ปิด +22.61 จุด อยู่ที่ 1,424.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 87,824 ลบ.ต่างชาติซื้อ 2,014 ลบ. สถาบันขาย 2,559 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 126 ลบ. ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 2,745 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น KBANK,CPALL,SCB,GPSC,CPF และมียอดขายหุ้น PTT,SCC,CBG,BANPU,BAM มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 4,503 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KBANK,PTT,BANPU โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 18,938 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 107,477 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,008 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -0.67%, S&P500 -0.21%, Nasdaq +0.51% หุ้นกลุ่มสายการบิน ธุรกิจเรือสำราญ โรงแรม และพลังงานปรับลดลง หลังอังกฤษรายงานการกลายพันธุ์ของ Covid-19 แม้ว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสน ล.ดอลลาร์และ กม.งบประมาณปี 64 หน่วยงานรัฐวงเงิน 1.4 ลล.ดอลลาร์ ส่วน Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค. ลดลงอยู่ที่ 88.6 & พ.ย. 92.9 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด +1.18% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีและธนาคาร ยังคาดหวังการเจรจาข้อตกลงการค้าอังกฤษ – อียูจะสำเร็จ โดย EU พร้อมขยายเวลาเจรจาต่อจนถึงปีหน้า
Market View
- • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากประเด็นไวรัส Covid-19 กลายพันธุ์ในอังกฤษ และแพร่เชื้อเร็วขึ้นกว่าเดิม 70% ส่งผลให้ 40 ประเทศในยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลางระงับการเดินทางเข้า – ออกจากกอังกฤษ สหรัฐสั่งให้ผู้โดยสารจากอังกฤษต้องตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง 72 ชม. ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงาน สายการบิน ท่องเที่ยวปรับลดลง ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐจากผลกระทบ Covid-19 วงเงิน 9 แสน ล.ดอลลาร์ ที่ผ่านการพิจารณาจากสภาคองเกรสวานนี้นั้น ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ขอให้แก้ไขวงเงินช่วยเหลื่อใหม่และยังไม่เซ็นต์อนุมัติวงเงินดังกล่าว ส่งผลให้เช้านี้ Down Jones Futures -0.33% ส่วนการเจรจาข้อตกลงการค้าอังกฤษ – อียู ยังไม่ได้ข้อสรุปและมีเห็นต่างในประเด็นประมง โดยอียูต้องการสิทธืทำประมงในน่านน้ำอังกฤษอีก 6 ปี แต่อังกฤษให้เพียง 3 ปี แต่ประเด็นดังกล่าวยังไม่กดดันมาก เนื่องจากอียูอาจเลื่อนเส้นตายการเจรจาออกไปหลังปีใหม่ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด +1.61% ต่างชาติซื้อ 2 พัน ลบ. สถาบันขาย 2.5 พัน ลบ. ดัชนีเริ่มฟื้นตัวหลังจากช่วงเช้าปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 1,400 จุด โดยนายก ฯ แถลงยังไม่มีประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ขณะที่ ศบค. วานนี้รายงานผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 427 ราย เป็นแรงงานต่างด้าวใน จ.สมุทรสาร 397 ราย, ในประเทศ 16 ราย และมีรายงานผู้ติดเชื้อบ้างในพื้นที่นนทบุรี อยุธยา สมุทรปราการ ภูเก็ต โดยหากมีการประกาศล็อกดาวน์รอบ 2 คาดจะส่งผลกระทบต่อ GDP ราว 0.20 – 0.30% ช่วงบ่ายนี้ติดตามประชุม กนง.คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.50%
Daily Strategy
- • ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,410 แนวต้าน 1,430 – 1,440 ระหว่างรอประเมินการระบาดนอกพื้นที่สมุทรสาคร หากไม่พบติดเชื้อใหม่สูงมากกว่า 100 ราย/วัน คาดยังไม่จำเป็นต้องใช้ ม.ล็อกดาวน์ แนะนำทยอยซื้อ BBL, SAWAD, PTTGC, TVO, PSL
- • CHAYO* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 9.19 บาท) รายงานกำไรสุทธิงวด 9M63 อยู่ที่ 118.30 ล้านบาท (+29.25% YoY) ยังเติบโตได้ดี ผลจากการเพิ่มของรายได้ดอกเบี้ย และ กำไรจากการขายNPA รับอานิสงค์ปริมาณ NPL ในระบบสูงขึ้น เป็นปัจจัยหนุนต่อธุรกิจบริหารหนี้ (โดย ณ 3Q63 NPL ของธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ 513.9 พันลบ. เพิ่มจาก 3Q62 ที่ 469.5 พันลบ. ขณะที่ทาง CHAYO* ยังตั้งเป้าซื้อหนี้เสียอย่างต่อเนื่องในช่วง 4Q63 (งบลงทุนปี 63 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ณ 9M63 ใช้ไปแล้ว 250 ล้านบาท) ซึ่งการขยายตัวของพอร์ตหนี้ดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการในปี64 ตลาดคาดกำไรสุทธิปี63 และ ปี64 ที่ 158.25 ลบ. ( +42.02%YoY ) และ 218 ลบ.( +37.76%YoY) ตามลำดับ
- • SAT (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 15.70 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q63 อยู่ในทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ จากยอดการผลิตรถยนต์ของไทยใน 4Q63 อยู่ที่ราว 4.4 แสนคัน +23%QoQ นอกจากนี้บริษัทยังเริ่มทยอยรับรู้รายได้ออเดอร์งานใหม่ราว 50 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดขยับขึ้นมาตามอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น คาดการณ์กำไรสุทธิปี 63 อยู่ที่ 280 ล้านบาท -69%YoY และปี 64 กำไรสุทธิ 583 ล้านบาท กลับมาขยายตัว 108%YoY ตามยอดผลิตรถยนต์จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.50 ล้านคัน รวมถึงออเดอร์งานใหม่ที่จะเพิ่มเติมเข้ามาประมาณ 300 ล้านบาท ขณะที่การปรับประสิทธิภาพไลน์การผลิตจะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นอยู่ที่ราว 18.0-18.5%
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures ก.พ. ปิด $-0.95 อยู่ที่ $47.02 /บาร์เรล Brent Futures ก.พ. ปิด $-0.83 อยู่ที่ $50.08 /บาร์เรล อุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันถูกกระทบ หลังหลายประเทศสั่งระงับการเดินทางไป – กลับจากอังกฤษ เย็นวันนี้ EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาคาดลดลง 3.3 ล.บาร์เรล
Gold Update (-) Gold Futures ก.พ. ปิด -12.50 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,870.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.68% อยู่ที่ 90.65 นักลงทุนถือดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
Fund Flow (+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ซื้อสุทธิ +24.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +66.9 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -27.2 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -15.4 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี่อ่อนค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 30.202 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +7 จุด อยู่ที่ 1,330
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.908%
(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.54/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 173,479 ราย รวมอยู่ที่ 18,659,027 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2,936 ราย รวมอยู่ที่ 330,384 ราย / อังกฤษติดเชื้อเพิ่มขึ้น 36,804 ราย รวมอยู่ที่ 2,110,314 ราย ( Worldometers )
(-) API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 2.7 ล.บาร์เรล
Economic Calendar
ในประเทศ
23 ธ.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 8/2563
สัปดาห์ที่4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
21 ธ.ค. CN อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC
22 ธ.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3)
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (พ.ย.)
23 ธ.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ยอดขายบ้านใหม่ (พ.ย.)
24 ธ.ค. US วันคริสต์มาส - ปิดทำการก่อนกำหนด ณ เวลา 13:00
US ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
24 ธ.ค. US วันคริสต์มาส – วันหยุด
Theme Strategy
(Theme Post-COVID19 แนวโน้มกำไรฟื้นตัวได้เร็ว
(1) กลุ่ม Cyclical Stock พลังงาน PTT, PTTEP ปิโตรเคมีและโรงกลั่น BCP, ESSO*, IRPC, IVL*, PTTGC, SCC*, SPRC*, TOP
(2) กลุ่มอิงการบริโภครับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ BJC, CBG*, CPF, CPALL, CRC*, GLOBAL*, HMPRO*, ICHI*, MINT*, OSP*, SCCC*, SCGP*
(3) กลุ่มบริการ เช่น โรงพยาบาล BCH, BDMS*, BH* โรงภาพยนต์ MAJOR*
(4) กลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีศักยภาพในการเติบโต BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*
(5) กลุ่มการเงินสินเชื่อ JMT*, SAWAD*
(6) กลุ่มยานยนต์ SAT, AH
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 25% Alternative Investment etc. Gold 15% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio December 2020: BCP, CRC*, M*, SCGP*, PSL*, STARK*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Nattawat Poosunthornsri Assistant Analyst
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web