วันพุธที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1500 จุด แต่มีแรงขายทำกำไรทำให้ SET ลดช่วงบวก โดยสิ้นวัน SET ปิดที่ 1,482.67 (+3.75 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 1.23 แสนล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 1.23 แสนล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 2,574 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 1,684 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 4,300 สัญญา)

SINGER (ปรับราคาเป้าหมายขึ้นสู่ 21.0 บาท) คาดปี 64 กำไรเดินหน้าทำ All Time High จากกำไรซื้อที่ฟื้นตัว ผสานพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียน (C4C) ที่ขยายตัวได้ในทุกไตรมาส ขณะที่ Valuation ยังเทรดต่ำกว่ากลุ่มถึง 30% 

ขานรับเศรษฐกิจฟื้นตัว : ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกยังมีแนวโน้มค่อยๆฟื้นตัวขึ้น จากทั้งพัฒนาการเชิงบวกของวัคซีนที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทางองค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือ FDA ได้อนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer แล้ว ซึ่งคาดจะเริ่มฉีดได้ในช่วงสัปดาห์นี้ และเป้าหมายของนายโจ ไบเดนคือต้องการจะฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ภายใน 100 วันแรกหลังจากขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค. 64 นอกจากนี้คาดเศรษฐกิจโดยรวมยังได้รับแรงหนุนจากการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม โดยการประชุม ECB ในสัปดาห์ก่อนมีมติปรับเพิ่มวงเงินโครงการ PEPP อีก 5 แสนล้านยูโร สู่ 1.85 ล้านล้านยูโร ส่วนทางวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพิ่มเติม ส่วนไทย เชื่อว่ามาตรการการคลังจะยังคงทยอยออกมาหนุนเศรษฐกิจช่วง 4Q63-1Q64 ต่อเนื่อง ซึ่งด้วยปัจจัยทั้งหลายข้างต้นคาดจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และจะยังคงเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดแรงเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยเรายังคงเชื่อว่ากระแสเงินทุนยังคงทยอยไหลเข้า ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่า และ SET ยังมีโอกาสในการปรับตัวขึ้นในระยะกลาง โดยเราประเมินเป้าหมายดัชนี ปี 2564 ที่ระดับ 1,600 จุด (อิงกรอบ PE19x ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย PE Ratio ของ SET 5 ปีย้อนหลัง + 1.0 Standard Deviation) โดยเลือก SCC, LH, TMB, SINGER เป็น Top Picks ประจำ 1Q64 

Investment Strategy : วันนี้คาด SET แกว่งขึ้น ประเมินแนวรับ 1,460 และแนวต้าน 1,500 จุด เน้นหุ้นเด่นประจำไตรมาส 1Q64 โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “SCC, LH, TMB, SINGER”

โรงงานชิ้นส่วน ผวารถยนต์ไฟฟ้า บีบ 800 รายปิดตัว (ฐานเศรษฐกิจ)

ความเห็น : หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่เราศึกษา คือ AH, SAT, STANLY คาดจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจาก แม้ว่าจะเป็นรถ BEV ก็จะยังใช้ชิ้นส่วนเหมือนเดิม  โดยผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยจะขึ้นกับค่ายรถยนต์ของญี่ปุ่นเป็นหลัก  โดยถ้าหากสมมติเปลี่ยนเป็นรถ BEV ทั้งหมด STANLY ซึ่งผลิตไฟหน้า-ไฟท้ายรถยนต์จะได้ประโยชน์มากสุด  เราคงให้น้ำหนักกลุ่มยานยนต์เท่าตลาด

ชงงบชดเชยเสียงเพิ่ม (ข่าวสด)

ความเห็น : เป็นเรื่องที่ AOT ทำต่อเนื่อง และถึงแม้เราจะประมาณการขาดทุน 8,500 ล้าน สำหรับปีการเงิน 2564 แต่ AOT มีเงินสดเพียงพอที่จะทำการชดเชย

'ซัพพลายเออร์‘ ผวาค้าปลีก ควบรวมเพิ่มอำนาจต่อรอง (กรุงเทพธุรกิจ)

ความเห็น : รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน แจ้งว่า บริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เห็นชอบเงื่อนไขการซื้อขาย เทสโก้ สโตร์ในไทยและมาเลเซียแล้ว โดยจะแจ้งข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อธุรกรรมเกี่ยวกับการซื้อขายได้เสร็จสิ้นในวันที่ 18 ธ.ค. ซึ่งเราคาดว่าแม้จะกระทบต่อกำไรของ CPALL และ CPF ในระยะสั้นจากดอกเบี้ยจ่ายสำหรับเงินกู้ในการซื้อเทสโก้ แต่เชื่อว่าเป็นบวกในระยะกลางจาก Synergy ในการทำธุรกิจ และโอกาสในการขยายฐานลูกค้า