- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 December 2020 14:13
- Hits: 13637
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 9-12-2020
Market Wrap-Up
• SET ปิดวันที่ 8 ธ.ค.63 ปิด +29.09 จุด อยู่ที่ 1,478.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 123,462 ลบ.ต่างชาติซื้อ 6,688 ลบ. สถาบันขาย 1,558 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 62.9 ลบ. ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 7,721 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น PTT,KBANK,PTTEP,AOT,ADVANC และมียอดขายหุ้น IVL,CPALL,TU,KKP,SAWAD มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 4,425 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KBANK,PTTGC,PTT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 1,772 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 83,278 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 4,107 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +0.35%, S&P500 +0.28%, Nasdaq +0.50% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพรับข่าว FDA สหรัฐเตรียมอนุมัติให้วัคซีนของ Pfizer สามารถใช้ในกรณีฉุกเฉิน ขณะที่สภาคองเกรสกำลังพิจารณา ม.กระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.08 แสน ล.ดอลลาร์และร่างงบประมาณรายจ่ายในวันศุกร์นี้ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด +0.20% รับข่าวอังกฤษเริ่มฉีดวัคซีนต้าน Covid-19 ของ Pfizer แล้ว ส่วน ZEW เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมัน ธ.ค. อยู่ที่ 55.0 เพิ่มขึ้นจาก พ.ย.ที่ 39.0 และสูงกว่าคาดที่ 45.5
Market View
• ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500 , Nasdaq ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพนำโดย Pfizer รับข่าว FDA สหรัฐคาดจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉินในวันพรุ่งนี้ ส่วน J&J เผยจะทราบผลทดลองเฟสสุดท้ายแบบโดสเดียวใน ม.ค. นี้ ซึ่งเร็วกว่าคาด ขณะที่ Moderna ได้รับคำสั่งจองวัคซีนจากสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มจาก 4.5 ล.โดส เป็น 7.5 ล.โดส นักลงทุนให้น้ำหนักบวกต่อข่าวพัฒนาวัคซีนและการพิจารณา ม.กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 9.08 แสน ล.ดอลลาร์และร่างงบประมาณรายจ่าย แต่ล่าสุด รมว.คลังสหรัฐ มนูชินได้เสนอร่าง ม.กระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.16 แสน ล.ดอลลาร์ แต่ประธานสภา ฯ นางเพโลซีไม่เห็นด้วยกับร่างดังกล่าวเนื่องจากมีการลดงบประกันว่างงานจาก 1.8 แสน ล.ดอลลาร์ เหลือ 4 หมื่น ล.ดอลลาร์ ส่งผลต่อความไม่แน่นอนว่าจะสามารถผ่าน ม.กระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันในวันศุกร์นี้หรือไม่ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด +2.01% ต่างชาติซื้อ 6.6 พัน ลบ. สถาบันขาย 1.5 พัน ลบ. ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA ปรับขึ้นรับเทรนด์ WFH และถูกนำเข้าคำนวณดัชนี SET50 ขณะที่กลุ่มธนาคาร ท่องเที่ยวปรับขึ้นจากคาดการณ์แนวโน้มกำไรปีหน้ามีโอกาสฟื้นตัว หลังการแจกจ่ายวัคซีนได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้เม็ดเงินต่างชาติยังไหลเข้าซื้อหุ้นไทย โดยเช้านี้ค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 30.01 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่การประชุม ครม.วานนี้ได้อนุมัติโครงการคนละครึ่งเฟส 2 คาดส่งผลบวกต่อสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจอีกราว 1 แสน ลบ. ในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า ปัจจัยเสี่ยงต้องระวัง คือผู้ติดเชื้อใหม่ของบุคคากรทางการแพทย์ 4 ราย ว่าจะส่งผลเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อหรือไม่
Daily Strategy
• ดัชนี SET ได้แรงหนุนจากแรงซื้อต่างชาติจากแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่า โดยวาง Filter แนวรับที่ 1,460 หากยืนได้ดัชนีอยู่ในโมเมนตัมขาขึ้น โดยมีแนวต้าน 1,490 – 1,500 แนะนำซื้อ ADVANC, CPALL, KCE และเก็งกำไรกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์ เช่น ASP, KGI
• MAKRO* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 44.89 บาท) รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q63 อยู่ที่ 1,572 ล้านบาท(+6.1% YoY, +33.3%QoQ) ยังสามารถเติบโตได้ดีต่อเนื่อง โดยยอดขายกลุ่ม Food Service ฟื้นตัวจากไตรมาสที่2 เนื่องจากร้านอาหารและโรงแรมกลับมาเปิดให้บริการได้ใหม่ ในส่วนของ 4Q63 เป็นต้นไป คาดว่าจะยังขยายตัวต่อเนื่องจากการช่องทางขาย Offline-to-Online และการขยายสาขา นอกจากนี้ MAKRO* ยังรับอานิสงค์จากโครงการ “คนละครึ่ง” ทางอ้อม (พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยซื้อวัตถุดิบไปทำอาหาร)และโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว (ผลบวกต่อสาขาใกล้แหล่งท่องเที่ยว และยอดขายกลุ่ม Food Service) ตลาดคาดกำไรสุทธิปี63 และ ปี64 ที่ 6,524 ลบ. ( +4.47%YoY ) และ 7,272 ลบ.( +11.48%YoY) ตามลำดับ
• มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว วานนี้ ครม.ปรับปรุงรายละเอียดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน-กำลังใจ เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ทั้งในเรื่องการขยายสิทธิจำนวนวันในการจองห้องพัก การเพิ่มจำนวนห้องพัก การขยายเวลาใช้สิทธิโครงการจากสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.64 เป็น 30 เม.ย.64 อนุมัติให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวสามารถรับ E-Voucher ได้เช่น ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจรถเช่า ธุรกิจสปา การปรับเกณฑ์สนับสนุนบัตรค่าโดยสารเครื่องบินจาก 2,000 บาท ต่อที่นั่งเป็น 3,000 บาท ต่อที่นั่ง ในเมื่องท่องเที่ยวหลัก 7 จังหวัด นอกจากนี้ยังมีข่าวบวกจากการคลายล็อกทักท่องเที่ยวต่างชาติ STV (Special Tourist VISA) จากเฉพาะประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำปรับเป็นรับทุกสัญชาติแต่ต้องกักตัว 14 วัน รวมถึงข่าวการบวกจากประสิทธิภาพวัคซีน Sinovac ของจีนและการแจกให้ประเทศอินโดนีเซียสร้าง Sentiment บวกต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นที่จะได้รับผลบวก ได้แก่ ERW, CENTEL,MINT, SHR, VRANDA, AOT, AAV, BA, ASAP, SPA
2
Daily Key Factors
Oil Update (0) WTI Futures ม.ค. ปิด $-0.16 อยู่ที่ $45.60 /บาร์เรล Brent Futures ก.พ. ปิด $+0.05 อยู่ที่ $48.84 /บาร์เรล กังวลอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันลดลงจากสถานการ์ระบาด Covid-19 ขณะที่ S&P Global Platt เผยกลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิต 670,000 แสน บาร์เรล รวมอยู่ที่ 25.21 ล.บาร์เรล/วัน วันพรุ่งนี้ EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาคาดลดลง 7 แสน บาร์เรล
Gold Update (+) Gold Futures ก.พ. ปิด +8.9 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,874.90 ดอลลาร์/ออนซ์ จากคาดการณ์สหรัฐจะออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อลดผลกระทบจากไวรัสระบาด ขณะที่ Dollar Index แข็งค่า +0.18% อยู่ที่ 90.9495
Fund Flow (+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ 169.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +221.7 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -52.1 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี่แข็งค่าอยู่ที่ 30.02 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -41 จุด อยู่ที่ 1,121
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.9278%
(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.517/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 201,517 ราย รวมอยู่ที่ 15,585,105 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2,857 ราย รวมอยู่ที่ 293,358 ราย / ฝรั่งเศสติดเชื้อเพิ่มขึ้น 13,713 ราย รวมอยู่ที่ 2,309,621 ราย ( Worldometers )
Economic Calendar
ในประเทศ
4 ธ.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ
8 ธ.ค. สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออก
สัปดาห์ที่2 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
สัปดาห์ที่3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม,ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
ต่างประเทศ
8 ธ.ค. US แนวโน้มพลังงานระยะสั้นจากมุมมองของ EIA
9 ธ.ค. US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ( ต.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
10 ธ.ค. EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ธ.ค.)
EU แถลงการณ์นโยบายการเงินของ ECB
EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
11 ธ.ค. US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
Theme Strategy
(Theme Post-COVID19 แนวโน้มกำไรฟื้นตัวได้เร็ว
(1) กลุ่ม Cyclical Stock พลังงาน PTT, PTTEP ปิโตรเคมีและโรงกลั่น BCP, ESSO*, IRPC, IVL*, PTTGC, SCC*, SPRC*, TOP
(2) กลุ่มอิงการบริโภครับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ BJC, CBG*, CPF, CPALL, CRC*, GLOBAL*, HMPRO*, ICHI*, MINT*, OSP*, SCCC*, SCGP*
(3) กลุ่มบริการ เช่น โรงพยาบาล BCH, BDMS*, BH* โรงภาพยนต์ MAJOR*
(4) กลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีศักยภาพในการเติบโต BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*
(5) กลุ่มการเงินสินเชื่อ JMT*, SAWAD*
(6) กลุ่มยานยนต์ SAT, AH
(7) MSCI Rebalancing M*, TFG*, RBF*, VGI*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 25% Alternative Investment etc. Gold 15% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio December 2020: STARK*, AH*, CRC*, M*, SCGP*, CBG*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Nattawat Poosunthornsri Assistant Analyst
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web