WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
ขายทำกำไร/ขายระยะสั้น
  SET รีบาวด์วานนี้ เปิดตลาดบวก 2.8 จุดและขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1548.04 จุด และปิดตลาด 1547.89 จุด (+7.98 จุด, +0.52%) สวนทางตลาด TIPs ขึ้นนำตลาดโดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (+2.2%) สื่อสาร (1.3%) และพลังงาน (+0.66%) มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จำนวน 46,179 ล้านบาท แต่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิ 1,344 ล้านบาทต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ขณะที่เงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องปิดที่ 32.42 บาท/US$ และกองทุนซื้อสุทธิต่อเนื่องวันที่ 3 อีก 1,906 ล้านบาท

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
  ประชุมเฟดจะเริ่มในวันที่ 28-29 ต.ค. แถลงมติอัตราดอกเบี้ย และรายงานตัวเลขประมาณการจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งแรกของสหรัฐฯ (วันที่ 30 ต.ค.) ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ยกเลิกมาตรการ QE ในวงเงินที่เหลืออยู่ US$1.5 หมื่นล้าน รวมถึงสัญญาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังการตรึงดอกเบี้ยต่ำไปอีกระยะหลังการสิ้นสุดมาตรการ ล่าสุดตลาดคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ของการขึ้นอัตราดอก เบี้ยจะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2558
  ประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะมีขึ้นในวันที่ 6 พ.ย. คาดหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐ กิจ และล่าสุด อีซีบี ประกาศว่ามีธนาคารพาณิชย์ 25 แห่งจากทั้งสิ้น 130 แห่ง หรือเกือบ 1 ใน 5 ที่ไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ซึ่งเป็นธนาคารที่มีฐานเงินทุนต่ำกว่าข้อกำหนดที่ระดับ 2.5 หมื่นล้านยูโรซึ่งต้องเพิ่มทุน ในจำนวนนี้มีธนาคาร 12 แห่งที่ได้ทำการชดเชยภาวะฐานเงินทุนต่ำกว่าข้อกำหนดด้วยการเพิ่มเงินทุนอีก 1.5 หมื่นล้านยูโรในปี 57 และมีธนาคาร 13 แห่งที่วางแผนที่จะแก้ไขภาวะฐานเงินทุนต่ำกว่าข้อ กำหนด
  ฝรั่งเศสรายงานผลสำรวจอัตราการว่างงานเดือนก.ย.มีอัตราการว่างงานพุ่งสูงทำสถิติใหม่ โดยมีผู้ว่างงานมากถึง 3.4 ล้านคน ส่งผลให้สัดส่วนของผู้ว่างงานสูงถึง 10.3% สูงสุดเป็นประวัติการณ์

  ในสัปดาห์นี้ประเมินน้ำหนักของตลาดในภาพใหญ่จะถูกชี้นำจากปัจจัยต่างประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งจะเห็นผลต่อแรงขาย/ซื้อจากฝากนักลงทุนต่างชาติ จับตาการตอบ สนองของตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ ยุโรป และทุนเคลื่อนย้าย (ค่าเงิน US$ แข็งค่า–เงินบาทอ่อนค่า) และปัจจัยภายในจะผูกติดกับผลประกอบการ 3Q14 ซึ่งจะมีผลในหุ้นรายตัว และมีโอกาสสูงที่กำไรต่อหุ้น (EPS) SET จะเติบโตต่ำกว่าหรือทรงตัวลบได้จากคาดการณ์ ซึ่งวานนี้เราประเมิน SET เกิดการดีดขึ้นทางเทคนิคหรือเทคนิเคิลรีบาว์ดนั้น เชื่อว่าหากตลาดยังปรับขึ้นต่อเนื่อง (แนวต้านหลัก 1550 จุด) จะพบกับแรงขาย เรามองความตลาดมีเสี่ยงทางลง แนะนำขายทำกำไรสั้น หรือขายเพื่อระยะสั้น (หุ้นแนะนำขายเชิงเทคนิค TRUE, KTB, BLAND, STEC, CK)

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตหุ้นลงเหลือ 10%

  เราถือครองหุ้นเหลือ 10% และถือเงินสด 90% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 2 บริษัทคือ HMPRO, และ ADVANC

  Accumulate : -- รอสะสมหุ้น

  Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1545 จุด ต่ำกว่า รอ

  เปรียบเทียบดัชนี

  สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
  พอร์ตหุ้น 10% ถือเงินสด 90%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +0.5%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.8%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +2.3%
ผลตอบแทนตลาด SET = +14.4%

  พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 5 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
  วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
  วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
  วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
  วันที่ 15 ต.ค. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 200% เหลือ 10% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 0%)
  รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%

Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!