- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 28 October 2014 17:20
- Hits: 1737
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งตัวแคบๆ รอผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ
KGI มอง SET วันอังคารแกว่งตัวหรือบวกแคบๆ คาดเม็ดเงินจากฝั่งกองทุนไทยยังหนุน SET ในช่วงเม็ดเงิน LTF/RMF เริ่มเข้าสู่ตลาดหุ้นและกองทุนทริกเกอร์กลับมาคึกคัก อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นเอเชียยังไม่เป็นใจ ส่งผลให้ต่างชาติอาจยังขายสุทธิต่อและ SET คงบวกไม่แรง สหรัฐฯ รายงานยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending home sales) ก.ย. ต่ำกว่าคาด และรายงานการซื้อพันธบัตร cover bond ของ ECBในสัปดาห์แรกอยู่ที่ 1.7 พันล้านยูโร ซึ่งถือว่าไม่มาก (แต่เรายังคาดว่าปริมาณการซื้อจะเร่งตัวขึ้นในระยะถัดไป) ภาพรวมตลาดหุ้นโลกยังอยู่ช่วงรอผลประชุมเฟดคืนวันพุธ แนะถือหุ้นไปก่อน // หรือขึ้นขายลงซื้อ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
สะสมหุ้นเดินเรือต่อ / ซื้อ PTG, CHO
หุ้นกลุ่มเดินเรือ (TTA* เป้า Consensus 26.0 บาท) (RCL เป้า Consensus 11.7 บาท) ยังคงแนะนำให้สะสมต่อ ค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นมาอีก 8% มาอยู่ที่ระดับ 1285 จุดเพิ่มขึ้น 30%ภายในหนึ่งสัปดาห์ โดยมีปัจจัยบวกจากการสั่งซื้อสินแร่เหล็กของประเทศจีน แนวโน้มระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกเนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการขนส่งสินค้า อย่างไรก็ตามหุ้น PSL อาจจะมีแรงขายออกมาวันนี้เนื่องจากการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ขาดทุน 146 ล้านบาท
หุ้น TOP*, PTTGC*: อาจมีแรงขายวันนี้ เป็นโอกาสให้เริ่มสะสม หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีช่วงไตรมาสแรกปี 2559 จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลงนั้น มาจากการคาดการณ์ที่ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันจากกลุ่มนอกภูมิภาคอเมริกาเหนือ อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยคาดว่าเป็นโอกาสให้เริ่มสะสมหุ้นในกลุมโรงกลั่นเนื่องจากปรับตัวลงมาแรงมากตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. ประกอบกับราคาน้ำมันปัจจุบันก็อยู่ในระดับที่โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดประมาณการแล้ว
สะสม PTG ต่อ (เป้า Consensus 4.96 บาท): ราคาหุ้นปรับขึ้น 7% จากวันศุกร์ที่เราแนะนำไป โดยฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการอ่อนตัวของราคาน้ำมัน ทำให้รายได้ PTG จะขยายตัวได้ดีขึ้นจากการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 85 เหรียญสหรัฐต่อบาเรลล์และแนวโน้มการปรับราคา LPG และ NGV จะส่งผลให้ผู้บริโภคหั้นมาใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น หากการขยายปั๊มน้ำมันเป็นไปตามเป้า
CHO: (เป้า Consensus 4.10 บาท): น่าจะได้ผลบวกจากข่าว ประจิน ให้ ขสมก.เร่งอี-อ๊อคชั่นรถเมล์ NGV ล็อตแรก 489 คันให้เสร็จภายในเดือนพ.ย.นี้ และทยอยรับมอบเดือนม.ค.-มี.ค. 2558 ระบุ
ถือต่อหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน: DEMCO น่าสนใจ ผู้บริหาร DEMCOประกาศเร่งระดมทุน2พันล. รุกโซลาร์ฟาร์ม-พลังงานขยะ คาดสรุปสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 1-2 แห่ง กำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ต้นปีหน้า ลุยเข้าประมูลโซลาร์ฟาร์ม 1,400 เมกะวัตต์ หวังได้งานไม่ต่ำกว่า 10-15% คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) มีมติให้ขยายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน(โซลาร์ฟาร์ม)อีก 800 เมกะวัตต์ (MW) ทำให้กรอบการรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มขยับเป็น 2.8 พันเมกะวัตต์ โดยจะต้องจ่ายไฟฟ้าภายในเดือนธ.ค.2558
ฝ่ายวิจัยคาดว่า หุ้นที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงคือ ผู้ผลิตแผงโซ่ล่าร์ และรู้รับเหมาก่อสร้าง เช่น หุ้น SOLAR, DEMCO และ GUNKUL* ในขณะที่ผู้ประกอบการจะขึ้นอยู่กับขนาดของโครงการ (จำนวนเมกะวัตต์) ที่จะประมูลได้เพิ่มและความพร้อมทางด้านการเงินเพราะต้องมีระดับหนี้สินต่อทุนต่ำ จากข่าวล่าสุด EA และ IFEC แสดงความพร้อมและสนใจที่จะประมูลเพิ่ม
... หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า i) KAMART (เป้าสูงสุดใน Consensus 7.6 บาท) แนวโน้มรายได้ยังเติบโตเด่นคาดปีหน้า +20-25% YoY และราคาหุ้น Laggard BEUATY ii) KCE* (เป้า Consensus 45.8 บาท) 1) แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/57 ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ +/- 600 ล้านบาท (+25% QoQ) iii) CPF* (เป้าพื้นฐาน 33 บาท เป้า Consensus 35.6 บาท) 1) Consensus คาดกำไรไตรมาส 3/57 4 พันล้านบาท (+50% YoY และ +12% QoQ) โตเด่น YoY และ QoQ iv) BJCHI* (เป้าพื้นฐาน 51 บาท) ประเมินแนวโน้มกำไร 2H57 โต 125% HoH + PE <10 เท่า Dividend yield 6%
(+) AOT* บอร์ด ทอท. ไฟเขียวลงทุน สุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 6.16 หมื่นล้าน รองรับฝูงบิน-ผู้โดยสาร ทั้งนี้ นสพ ลงข่าว ไม่จะเป็นต้องใช้เงินกู้ลงทุน เพราะขณะนี้มีเงินสดสูง 4.4 หมื่นล้านบาท รวมกับรายได้แต่ละปีสามารถลงทุนได้จนจบโครงการ
... กลุ่มสายการบิน (AAV*, NOK*) 1) มีประเด็นบวก 2 เรื่อง i) ราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนหลักของธุรกิจปรับลงแรง ii) ครม มีมติ อนุมัติมาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยว 2) เราประเมิน AAV และ NOK จะได้อานิสงค์สูงสุดจาก 2 ประเด็นนี้ (THAI* รายได้อิงกับประเทศในยุโรป ที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่ AAV และ NOK เน้นเส้นทางในภูมิภาคฯ)
... หุ้นกลุ่มหลักที่แนะนำ “ซื้อสะสม” สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำไปแล้ว แนะนำ “ถือ” หุ้นที่น่าสนใจได้แก่ i) BBL* (เป้าพื้นฐาน 225 บาท) ราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่มแบงก์ (ราคาลงมาก่อนหน้าจาก MSCI ปรับลดน้ำหนัก ไม่เกี่ยวกับพื้นฐาน) ii) CK* (เป้าพื้นฐาน 33.6 บาท) ราคาหุ้นปรับฐานเป็นโอกาสสะสม คาดผลการดำเนินงานเป็นขาขึ้นต่อเนื่องใน 2-3 ปีข้างหน้า (อุตสาหกรรมฯโต + บ.ลูก (BMCL*, BECL*, CKP*) ธุรกิจโตเด่น ) iii) SPALI* (เป้าพื้นฐาน 29 บาท) เป็นหุ้นเด่นกลุ่มอสังหาฯ คาดกำไรปีหน้าโต >50% YoY ... นักลงทุนอาจพิจารณาเลือกเก็งกำไร SIRI* (เก็งกำไรประเด็นจับมือ BTS*) และ RICHY (เตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ภายในเดือนนี้ .. ปลดล๊อกตั้งแต่ IPO ยังไม่มีโครงการใหม่)
... กลุ่มพลังงานทดแทน IFEC (เป้าสูงสุดใน Consensus 11.4 บาท) แนะนำ “ซื้อ” รอข่าวบวกเรื่อง Strategic Partner + ปิดดีลซื้อธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่มเติมเร็วๆนี้ / SOLAR (ไม่มีเป้า Consensus)
ประเด็นข่าวร่วมธุรกิจกับบริษัทญี่ปุ่น คาดปิดดีลต.ค.นี้
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: BTS*, SCC*
พอร์ตเก็งกำไร: SUTHA, IFEC, TSR กลุ่มรับเหมาฯ, กลุ่มวัสดุ, กลุ่มนิคมฯ (HEMRAJ*), กลุ่มบ้าน (SPALI*, RICHY), กลุ่มแบงก์ (BBL*)
ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
(+) DTAC* / TRUEGIF DTAC เซ็นสัญญาเช่าเสากับ TRUEGIF เบื้องต้น 100 เสา และจะเพิ่มอีกปีหน้า 500 เสา เพื่อรองรับแผนการพัฒนาคุณภาพโครงข่าย เรามีมุมมองเป็นบวกต่อทั้งคู่ เพราะการทำ infrastructure sharing จะเป็นการลดต้นทุนการขยายโครงข่ายของ DTAC ในขณะเดียวกันก็เพิ่มช่องทางรายได้ให้กับ TRUEGIF จากขนาดของdeal ที่เล็กทำให้เราคิดว่ายังไม่มีนัยยะ แต่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงทิศทางระยะยาวของอุตสาหกรรม ที่ถ้าเกิดมีพัฒนาการด้านนี้มากขึ้น ย่อมจะทำให้ต้นทุนของอุตสาหกรรม ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญในระยะยาว
WHA* และ HEMRAJ* ขึ้นเครื่องหมาย H เมื่อวานนี้ และ WHA ได้ออกมาปฏิเสธข่าวการเข้าซื้อ HEMRAJ (SET) ความเห็น: เรามองว่าดีลนี้มีโอกาสเป็นไปได้เนื่องจากทั้งสองบริษัทประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันและมีลูกค้าในกลุ่มเดียวกัน แต่ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ จึงทำให้ผู้บริหารยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง เราคาดว่าอาจเป็นรูปแบบการ swap หุ้น
(+) JAS* ตั้งอินฟราฟันด์ปีนี้ บันทึกรายได้ 3 หมื่นล้าน ส่งซิกจ่ายปันผลพิเศษ-ลูกค้าบรอดแบนด์ 2 ล้านราย (ข่าวหุ้น) JAS ประกาศตั้ง “อินฟราฯฟันด์” ภายในปีนี้ เชื่อบันทึกรายได้ 30,000 ล้านบาท “พิชญ์” ระบุชัดนำเงินที่ได้ “ใช้ลงทุน-ใช้หนี้บางส่วน-จ่ายปันผลผู้ถือหุ้น” ย้ำชัดปีหน้าลงทุน 7,000 ล้านบาท ขยายไฟเบอร์ออพติกทั่วประเทศ ตั้งเป้าหมายลูกค้าบรอดแบนด์ทะลุ 2 ล้านราย ตัวเลข EBITDA ไม่ต่ำ 6,000 ล้านบาท
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘ค่าเฉลี่ยสิบแปดสัปดาห์ที่ต้าน 1550 จุด
ดัชนี SET วันนี้ หากดีดขึ้นปิดเหนือแนวต้าน 1550 จุด อาจรักษาแรงผลักขึ้นทดสอบแนวต้าน 1565 จุด แต่หากดัชนี SET วันนี้ลดลงหรือปิดต่ำกว่าแนวต้าน 1550 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดลงสู่แนวรับ 1528 จุด
แนวรับวันนี้: 1541/1536/1528 แนวต้านวันนี้: 1550/1556/1562
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]