- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 October 2014 17:13
- Hits: 1737
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เน้นซื้อตามค่าบวก...จับตาประชุมเฟด 28-29 ต.ค.นี้
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวันศุกร์ SET Index ปิดปรับขึ้น 7.19 จุดที่ 1539.91 ปัจจัยหนุน คือ รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในตลาดหุ้นสหรัฐ, การซื้อกลับหุ้น BBL, การเก็งกำไรแนวโน้มผลประกอบการบจ.ไทย & ข่าว M&A นักลงทุนสถาบันในประเทศนำซื้อสุทธิ 2 พันล้านบาทส่วนต่างชาติยังคงขายสุทธิอีก 2.7 พันล้านบาท สำหรับสัปดาห์นี้ ปัจจัยที่จับตา คือ การประชุม FOMC ในวันที่ 29-29 ต.ค. ว่าจะประกาศยุติโครงการQE3 และส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนการทำทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test)
ธนาคารยูโรโซน พบว่ามี 25 แห่งมีแนวโน้มว่าจะไม่ผ่าน (ทดสอบแล้วผ่าน 105 แห่ง) โดย 13 แห่งกำลังพิจารณาแก้ไขภาวะทุนสำรองที่ต่ำกว่าข้อกำหนด สำหรับปัจจัยภายใน ติดตามเรื่องการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 ที่ยังถูกตั้งคำถามจากเครือข่ายประชาชน และต้องการให้รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบ, การทำ Preview และรายงานกำไร 3Q57 บริษัทจดทะเบียน ปัจจัยเสี่ยง คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย & เศรษฐกิจโลกที่ล่าช้ากว่าคาด, การแพร่ระบาดของไวรัสอีโลบาที่กดดันธุรกิจสายการบิน & ท่องเที่ยว โรงแรม อย่างไรก็ตาม กลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวันยังไปได้ดี หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น CPALL
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดโดยรวมในระยะสั้นมากเป็นบวกเล็กๆ โดยมีแนวต้าน 1545, 1550-1560 ค่าลบของหุ้นและ SET Index ดูไม่ดีต่ำกว่า 1530 ควร Stop loss หรือลดพอร์ตตาม เพราะมีสิทธิลงไปทำ New Low ที่ 1510 (+/-10 จุด) ดังนั้นในการเข้าซื้อใหม่จึงเน้นซื้อตามด้วยค่าบวกสำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ทางเทคนิคและให้ถือต่อ ได้แก่ MJD, PPS, APURE, BEAUTY, S, INTUCH ส่วนที่เข้าใหม่เป็น LHBANK,LPN, IFEC, GENCO หุ้นที่หลุด List คือ –ไม่มี- และหุ้นที่แนะนำไปแล้วและอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit ประกอบด้วย ADVANC, TIES
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
• ยูโรโซน : ธนาคาร 25 แห่งไม่ผ่าน Stress Test การทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ธนาคารยุโรป 130 แห่ง พบว่าธนาคาร 25 แห่งมีแนวโน้มไม่ผ่านการทดสอบ โดยมีฐานเงินทุนต่ำกว่าข้อกำหนดของ ECBที่ 2.5 หมื่นล้านยูโร (12 แห่งเพิ่มทุนในปี 57 แล้ว 1.5 หมื่นล้านยูโร และอีก 13 แห่งกำลังจะแก้ไขเรื่องฐานเงินทุนต่ำ) อย่างไรก็ตาม หลังทำการทดสอบ ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเพียงเล็กน้อย
• สหรัฐ : ประชุม FOMC วันที่ 28-29 ต.ค.57 จับตาดูว่าจะประกาศยุติโครงการ QE3 & และส่งสัญญาณเรื่องอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือไม่
- อีโบลา : WHO เป็นห่วง & จับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยในช่วงมี.ค.-19 ต.ค.57 มีผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาแล้วเกือบ 1 หมื่นราย (ไม่รวมที่ไม่ตรวจพบ & ยังไม่แสดงอาการ) เสียชีวิตแล้วเกือบ 5 พันราย ส่วนใหญ่อยู่ในไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลี ภาคตะวันตกของแอฟริกา..เศรษฐกิจ3 ประเทศนี้คิดเป็น 1% ของ GDP โลก (ที่มา : IMF)
•/- ยูโรโซน : ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้นบ้างแต่ยังต่ำ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นเบื้องต้นต.ค. +0.3 จุดจากเดือนก่อนหน้าเป็น -11.1ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นเบื้องต้นในสหภาพยุโรป +0.6 จุด เป็น-7.4...แต่ดัชนีโดยรวมยังติดลบ บ่งชี้ว่าผู้บริโภคไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจ
- ถ่านหิน : จีนกำลังทบทวนแผนพลังงานปี 59-63...ลดสัดส่วนถ่านหิน เพิ่มพลังงานลม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีนเปิดเผยว่า กำลังผลิตของพลังงานลมที่เหนือกว่า 200 วัตต์/ตารางเมตรที่ระดับความสูงเกินกว่า70 เมตร (Developable Wind Energy) ของจีนนั้น อยู่ที่ 5,500 กิกะวัตต์สำหรับถ่านหิน อยู่ในช่วงซบเซา โดยในช่วง 9M57 ผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างส่านซี โคล อินดัสทรี และไชน่า โคล เอ็นเนอร์จี มีกำไรสุทธิลดลงแรง 71%YoY และ 79%YoY ตามลำดับ โดยหลักมาจากราคาถ่านหินที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ...ยังคงแนะนำ Underperform BANPU
+/- ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นราว 0.7% ขานรับผลประกอบการบจ.ที่ออกมาดี แต่ความวิตกเรื่องไวรัสอีโบลายังทำให้ตลาดผันผวนได้อีก
- สัญญาน้ำมันดิบอ่อนตัวต่อ โดย WTI ส่งมอบธ.ค. -1.08 US$ ปิดที่81.01 US$/bbl ส่วน BRENT - 70 เซนต์ ปิดที่ 86.13 US$/bbl
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบธ.ค. +2.7 US$ ปิดที่ 1,231.8US$/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
• MPI ส.ค.57 ดีขึ้นอย่างช้าๆ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมรายงานMPI เดือนส.ค. -2.7%YoY ลดจากก.ค.ที่ -5.3%YoY และ +2.6%MoMสำหรับอุตสาหกรรมที่ผลิตลดลงคือ รถยนต์ เครื่องประดับ น้ำตาล กลั่นน้ำมัน และเครื่องแต่งกาย ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 60.29
ความเห็น DBS Retail Research : อัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ต่ำเพียง 60% ทำให้ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบขยายกำลังการผลิต ยังผลให้การลงทุนและสินเชื่อเพื่อการลงทุนภาคเอกชนในปี 58 จะเติบโตในอัตราที่ไม่สูง แต่สินเชื่อภาครัฐ สินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและสินเชื่อ SME มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น แบงค์เด่น เป็น KBANK, KTB, TMBส่วนอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะโตได้ดีในปี 58 คือ พาณิชย์, อาหาร, ขนส่ง,ท่องเที่ยว & โรงแรม, อสังหาฯ โดยมาจากฐานที่ต่ำ การขยายสาขา & เข้าซื้อกิจการ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น หุ้นเด่น คือ CPALL, CPF, GFPT,TUF, AOT, BTS, CENTEL, MINT, AP, PS, SPALI, LPN, CPN, CK,STEC แต่ในระยะสั้นหุ้นสายการบิน & ท่องเที่ยวอาจถูกกระทบจากอีโบลา
- ธปท.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจโตไม่ถึง 1.5% จากส่งออก &การเบิกจ่ายภาครัฐน้อยกว่าคาด (ส่งออกอาจติดลบ) การปรับขึ้นดอกเบี้ยยังไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เพราะเศรษฐกิจยังฟื้นช้า & หนี้สินภาคครัวเรือนสูง
+ BBL : NVDR ได้ยกเลิกการชะลอการลงทุนหุ้น BBL ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับและช่วยหนุนดัชนีให้ปรับขึ้น
-/• ราคาหุ้น TUF ปรับลงแรง...กังวลราคาทูน่าผันผวน ราคาทูน่าที่ผันผวนมากใน 3Q57 (ช่วงราคาประมาณ 1,300-1,800 เหรียญUS$/ตัน) ทำให้กระทบมาร์จิ้นของธุรกิจ OEM ใน 4Q57 (ซึ่งคิดเป็น 41% ของรายได้ธุรกิจทูน่า ซึ่งคิดเป็น 47% ของรายได้รวม) รวมทั้งปริมาณขายใน 4Q57 จะลดลง QoQ โดยเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล (3Q เป็น High season ของการขายในต่างประเทศ) และปริมาณผลผลิตลดลงในช่วงอากาศหนาว อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวของราคาหุ้นเป็นจังหวะซื้อลงทุนใน TUF (TP : 88 บาท)เนื่องจาก 1) ปี 58 มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยหลักมาจากการเข้าซื้อกิจการ,2) มาร์จิ้นมีโอกาสดีและเสถียรขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจปลายน้ำ, 3) มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีทั้งด้านสินค้า ที่ตั้งโรงงาน และฐานลูกค้า
• รมว.คลังไทยลงนามร่วมตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank : AIIB) กับรมว.คลังประเทศต่างๆ ทั้งนี้จีนเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดจัดตั้ง AIIB และจะเป็นแหล่งเงินทุนให้กับประเทศสมาชิก โดยจะถือหุ้นเกิน 50%
นักกลยุทธ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค [email protected]