- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 October 2014 17:09
- Hits: 1524
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เลือกซื้อเหนือ 1541 จุด - ต่ำกว่าขาย
SET รีบาวด์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และขึ้นสวนทางกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค ปิดตลาดที่ 1539.91 จุด (+7.19 จุด, +0.47%) ปรับตัวขึ้นแทบทุกกลุ่มยกเว้น ปิโตรเคมี และ อิเล็กทรอนิกส์ลงสวนตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันทรงตัว เบรนท์ US$86/bbl มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 41,725 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2,764 ล้านบาทสอด คล้องกับเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงเหลือ 32.40 บาท/US$ และกองทุนซื้อสุทธิเพิ่มเป็น 1,954 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
จีนรวมกับ 21 ชาติในเอเชียรวมไทยได้ลงนาม (MOU) จัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนในการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ โรงไฟฟ้า และเครือข่ายโทรคมนาคมในเอเชีย ส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโต จีนเป็นผู้จัดหาเงินทุนเริ่มต้นเกือบทั้งหมดจากจำนวน US$50,000 ล้านญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าร่วมทำข้อตกลง
ธปท. รายงานเงินกู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 2/57 มียอดคงค้างสุทธิ 10.03 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้น +8.11%YoY และ +1.44%QoQ ซึ่งเทียบเท่า 84% ของจีดีพี ณ สิ้นปี 56 และ 83% จีดีพีไตรมาส 1/57 และ 75% งวดเดียวกันปี 56 ความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนลดลงในไตรมาส 2/57 ส่วนหนึ่งจากภาระหนี้เดิมอยู่ในระดับสูงจากการก่อหนี้มากในช่วงก่อนหน้า สะท้อนจากสัดส่วนสินเชื่อค้างชำระเกิน 1 เดือนต่อสินเชื่ออุปโภคบริโภคของธ.พาณิชย์เพิ่มขึ้นจาก 5.8% ในไตรมาส 1/56 เป็น 6% ในไตรมาส 2/57ตามการด้อยลงของคุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อส่วนบุคคล
ธปท.เตรียมเสนอแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายในเฟสที่ 2 เพื่อสร้างความสมดุลเงินทุนเคลื่อนย้ายแล้ว ยังช่วยให้ผู้ลงทุนไทยมีทางเลือกกระจายความเสี่ยงในการลงทุนมากขึ้น ธปท. จะผ่อนคลายเพิ่มเติมเปิดโอกาสให้คนไทยไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หรือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซึ่งก่อนหน้านี้เปิดให้เฉพาะนักลงทุนรายใหญ่ออกไปลงทุน แต่เฟส 2 จะเปิดให้นักลงทุนทั่วไปสามารถออกไปลงทุนโดยตรงต่างประเทศได้
ความเชื่อมั่นฟื้นคืน? ในวันนี้เราคาดว่าหากตลาดสามารถปรับตัวขึ้นได้เป็นวันที่ 3 และยืนเหนือแนวต้าน 1,541 จุดมีโอกาสที่แรงซื้อเก็งกำไรจะกลับเข้าสู่ตลาดระยะสั้น แนะนำเลือกซื้อเก็งกำไร แต่ควรกำหนดจุดตัดขาดทุน หาก SET ยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1541 จุด คาดว่าจะเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นกดดันดัชนีและราคา แนะนำขาย
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตหุ้นลงเหลือ 10%
เราถือครองหุ้นเหลือ 10% และถือเงินสด 90% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 2 บริษัทคือ HMPRO, และ ADVANC
Accumulate: -- รอสะสมหุ้น
Trading: เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1541 จุด ต่ำกว่า รอ
เปรียบเทียบดัชนี
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 10% ถือเงินสด 90%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +0.3%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.8%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +2.1%
ผลตอบแทนตลาด SET = +13.3%
พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 5 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
วันที่ 15 ต.ค. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 200% เหลือ 10% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 0%)
รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%
Analysts
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130