- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 October 2014 16:58
- Hits: 1350
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +2127.51, NASDAQ +30.92 และ S&P +13.76 หลังกลับมาให้ความสำคัญมากขึ้นต่อปัจจัยพื้นฐาน รวมทั้งได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการของหลายบริษัทที่ออกมาเป็นบวก เช่น แคทเทอร์พิลลาร์ และ 3เอ็ม เป็นต้น ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน หลังตลาดผันผวนอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และยอดขายบ้านใหม่ - กย. ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 467,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่กค.’51 โดยปัจจัยหนุนดังกล่าวช่วยชดเชยปัจจัยกดดันจากประเด็นความกังวลการระบาดของอีโบลา จากรายงานว่าแพทย์ชาวนิวยอร์กที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศกีนีในแอฟริกาตะวันตก เป็นบุคคลรายที่ 4 ในสหรัฐฯ ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสดังกล่าว และเป็นรายแรกในนิวยอร์ก
.....ขณะที่ FTSE -30.42, CAC -28.78 และ DAX -59.51 ภายใต้ความกังวลเกี่ยวกับผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ของธนาคารในยุโรป ที่มีแนวโน้มว่าธนาคาร 25 แห่งในอียู ไม่ผ่านการทดสอบความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธค. -US$1.08 อยู่ที่ US$81.01 ต่อบาร์เรล ภายใต้ประเด็นความกังวลอุปทานน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น หลังอิรักปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน - ตค. และลิเบียยังคงผลิตน้ำมันในปริมาณสูง แม้ทั้ง 2 ประเทศ อยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ ขณะที่
ซาอุดิอาระเบียลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบนั้นไม่ได้เป็นสัญญาณว่าการผลิตของประเทศลดลง
....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$2.7 อยู่ที่ US$1,231.8 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากการเข้าเก็งกำไร หลังราคาปรับตัวลดลง ประกอบกับได้รับปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าช่วยกระตุ้นความต้องการลงทุนในทองคำ
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -2,763 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -17,253 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : คาดยังมีความผันผวน? หลังตลาดต่างประเทศเคลื่อนไหวในแดนบวก / ลบ ตามปัจจัยที่มีผลต่อตลาดในแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตามคาดนักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ระหว่างรอผลการประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) ว่าจะมีการส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังวงเงิน QE จะหมดลงในเดือนนี้ แต่จากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยก่อนกลางปี’ 58
....ทางด้านประเด็นในประเทศ คาดได้รับปัจจัยกดดันจาก Fund Flow ที่ล่าสุดต่างชาติขายสุทธิกว่า 2,700 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคาด ภาพรวม Fund Flow ยังมีความผันผวน แรงซื้อ / ขายสุทธิ สลับกัน ขณะที่อยู่ระหว่างประกาศผลการดำเนินงาน – 3Q/57 ที่คาดยังมีแรงเก็งกำไร (ทั้ง + / -) ต่อเนื่องถึงกลางเดือนพย.
.....และยังแนะติดตามความชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินลงทุนกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 8 ปี (ปี’ 58 – 65) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะสรุปในเดือนพย. หลัง (21/10/57) ครม. อนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี’58 - 65 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว
....รวมถึงประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 2.27% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.42 อยู่ที่ 16.11
หุ้นแนะนำ : TASCO
ประเด็นที่ต้องติดตาม (27 - 31 ต.ค.’57)
27/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ - ตค. (2) ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) - กย.
28/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - กย. (2) ราคาบ้าน - สค. (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค - ตค. (4) เฟด เริ่มการประชุมกำหนดนโยบายการเงินวันแรก
29/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกน้ำมัน (2) เฟด ประกาศมติการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน
30/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ตัวเลขประมาณการครั้งแรก GDP – 3Q/57
31/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) รายได้ส่วนบุคคล - กย. (2) ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน – 3Q/57
(3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก - ตค. (4) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - ตค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788