WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ปรับขึ้นเล็กน้อย
      ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะปรับขึ้นต่ออีกเล็กน้อย ด้วยปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่เป็นบวกเมื่อวันศุกร์ จากการรายงานผลประกอบการบริษัทเอกชนส่วนใหญ่เป็นที่น่าพอใจของนักลงทุน อีกทั้ง กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่สำหรับครอบครัวเดี่ยวในเดือน ก.ย. 2557 เพิ่มขึ้น 0.2% สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2551 นอกจากนี้สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบล่า ล่าสุดได้บรรเทาลงบ้าง หลังสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐยืนยันว่าพยาบาลชาวอเมริกันในเท็กซัส ซึ่งติดเชื้ออีโบล่าจากการดูแลผู้ป่วย ได้ปลอดจากเชื้อดังกล่าวแล้วและกำลังจะออกจากโรงพยาบาล
  แนวรับ/แนวต้าน : 1534/1547
  กลยุทธ์ : ขายทำกำไรบางส่วนที่บริเวณแนวต้าน
  สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40%: พอร์ตหุ้น 60%
  นักลงทุนระยะสั้น : แนะนำเก็งกำไร PS (41.75), KGI (3.70), VGI (14.40)
  นักลงทุนระยะยาว : GFPT (24.50), CK (34.00)

จับข่าวมาเก็งกำไร
  VGI : ผู้บริหารเปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับพันธมิตรรุกตลาดสื่อโฆษณาบนจอโทรทัศน์ LED ในแถบภูมิภาคอาเซียน ซึ่งก่อนหน้านี้ VGI ได้ร่วมมือกับบริษัท สยาท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อรุกตลาดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในการใช้จอโทรทัศน์ LED ขนาดใหญ่โฆษณาสื่อสินค้าที่เมืองเวียงจันทน์ ซึ่งคาดว่าจะรุกตลาดประเทศกัมพูชาเป็นประเทศต่อไป สำหรับทิศทางรายได้บริษัทคงเป้าหมายรายได้ที่เติบโตปีละ 17% (ข่าวหุ้น)

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
  - "แบงก์ชาติ" ยอมรับส่งออกไทยส่อติดลบฉุดเศรษฐกิจปีนี้เสี่ยงโตต่ำ 1.5% แนะทำใจ ลุ้นปีหน้าโตได้ 4.8% หวังลงทุนรัฐปลุกลงทุน บริโภคเอกชนฟื้น พร้อมจี้วางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนส่งออกระยะยาวหลังไทยตกขบวนผลิตสินค้าเทคโนโลยีใหม่ ด้านนโยบายการเงินส่งสัญญาณ "คงดอกเบี้ยยาว" ส่วนภาคธุรกิจ เผยกำลังซื้อต่างจังหวัดยัง "ซบเซา" เหตุราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำหนี้ครัวเรือนสูง ประชาชนระวังใช้จ่ายโหมแคมเปญ หวังยอดขายเข้าตามเป้า ลุ้นอานิสงส์ "มาตรการรัฐ" ปลุกความเชื่อมั่นกระตุ้นใช้จ่ายช่วงปลายปี พร้อมเป็นแรงส่งหนุนเศรษฐกิจปีหน้าฟื้นเต็มตัว

ปัจจัยต่างประเทศ
  + ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 127.51 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 16,805.41
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (24 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการซึ่งบริษัทต่างๆได้ทยอยเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง ส่วนข่าวการยืนยันผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในนิวยอร์กนั้นไม่ส่งผลต่อภาวะการซื้อขายมากนัก
  + สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง เมื่อวันศุกร์(24 ต.ค.) 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 81.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่งผลให้ตลอดสัปดาห์ ราคาน้ำมันร่วงลง 2.1%และเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 โดยเทรดเดอร์มองว่า การที่ซาอุดิอาระเบียลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบนั้นไม่ได้เป็นสัญญาณว่าการผลิตของประเทศลดลง

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!