WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 29-10-2020dbs

 

“กังวลโควิดดาวโจนส์ดิ่ง 943 จุด น้ำมัน-ทองคำร่วงหนัก” • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ERW (จากถือเป็นซื้อ) # ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ ปิดลบเล็กน้อย ปิด -1.01 จุด ที่ 1207.94 จุด มูลค่าซื้อขายปานกลาง 55 พันลบ. ดัชนีลดเหมือนเพื่อนบ้านแต่น้อยกว่า มีรีบาวด์ระหว่างวัน เก็งกำไรหุ้นยางพารา และแบงก์ แม้ว่ามีปัจจัยลบรอบด้านคือ ผู้ติดเชื้อสูง ม.กระตุ้นเศรษฐกิจไม่คืบ รวมทั้งติดตามงบการเงิน บจ.ที่ทยอยประกาศออกมา ขณะที่ดาวโจนส์ Future ลดลง และผู้ชุมนุมยังสงบ ซื้อสุทธิมาก-สถาบัน ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ YTD ต่างชาติขายสุทธิสูงเป็น 295 พันลบ.

 

# ปัจจัยและกลยุทธ์:

SET-ผันผวนทางลง ผู้ติดเชื้อสูง ม.กระตุ้นเศรษฐกิจไม่คืบ น้ำมันดิ่ง แต่ดัชนีตอบรับน้อยลง ปัจจัยลบมีมากคือ กังวลสหรัฐติดเชื้อสูงมาก กระทบเศรษฐกิจ เยอรมัน ฝรั่งเศสยกระดับรับมือไวรัส ทรัมป์ยอมรับม.กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ทันก่อนเลือกตั้ง นักลงทุนกังวลผลเลือกตั้งสหรัฐไม่แน่นอน ดาวโจนส์ดิ่งลง 943 จุด น้ำมัน WTIร่วง 2.18 เหรียญ ดัชนีกังวล Vix พุ่งไปถึง 40.28 จุด เข้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านลบถ้วนหน้า ส่วนไทย อัยการนัดฟังตัดสินคดีแฟลชม็อบ 14 ธ.ค.อดีดแกนนำ อนาคตใหม่ ด้านปัจจัยบวกคือ วานนี้ครม.อนุมัติ 4 โครงการใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มูลค่าไม่มาก 111 ล้านบาท โครงการคนละครึ่ง ใช้สิทธิ์หมดแล้ว 10 ล้านราย และดาวโจนส์ Future เช้านี้รีบาวด์เพิ่มราว 200 จุด และระยะหลัง SET ไม่ได้ลบมากตามต่างประเทศ บางครั้งมีรีบาวด์

 

           สำหรับกลยุทธ์ระยะสั้น ความเสี่ยงยังมาก ควรเล่นรอบ ระยะนี้คาดดัชนีซื้อ-ขายในช่วงลดลงเป็น 1200-1230 จุด หากหลุด 1205 จุดเป็นสัญญาณไม่ดีอีกครั้ง ให้ Stop Loss ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังไม่สดใส ความเสี่ยงคือ หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง และการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า แม้มีสะดุดบ้าง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ เงินออมบางส่วนไหลเข้าตลาดหุ้น มีมาตรการเยียวยา จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี Defensive และปันผลสูง แนวรับคือ 1190-1180 จุดและ แนวต้าน 1220-1230 จุด ปัจจัยน่าติดตามคือ 1) ช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก ทำให้ยังมีการเก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์ เช่น ถุงมือยางคือ STGT และแผ่นยางที่ใช้ทำถุงมือยางและรถยนต์จีนรุ่งขึ้น ใช้ยางรถมากขึ้น คือ STA และ NER แม้ราคาหุ้นขึ้นไปสูง แต่รอเล่นรอบได้ 2) วันนี้มีหุ้น IPO เข้าใหม่ตลาด MAI คือSHRINKFLEX (SFT) ทำธุรกิจฉลากฟิล์มหดรัดรูป ราคา IPO 3.80 บาท มี บล. RHB เป็นผู้จัดจำหน่าย การเก็งกำไรหุ้นเข้าใหม่มักอยู่ในช่วงระยะสั้น กลยุทธ์คือ หาจังหวะขายทำกำไร 3) STARK หุ้นร่วงหนักทำบิกล็อตปรับฟรีโฟลท ที่ราคา 1.40 บาท เป้าหมายคือ เข้า SET-50 และ 4) AGE เข้าซื้อขายตลาดหลัก SET จากเดิมMAI วันแรก # Stock Pick Today: KIAT (Initiating Coverage) กำไร-ปันผลสุดโดดเด่น ปัจจุบันให้บริการขนส่งวัตถุอันตรายในกลุ่มปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ แก๊ซอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์พิเศษอื่นๆ

 

            โดยเป็นเจ้าของรถกว่า 700 คัน ข้อดีจับตลาดธุรกิจเฉพาะบริการขนส่งวัตถุอันตราย เคมีภัณฑ์ เชื้อเพลิง ทางรถ คู่แข่งน้อยราย บริษัทย่อยมีศักยภาพเติบโตคาดการณ์กำไรสุทธิปี 63 และ 64 ทำสถิติสูงสุดใหม่โต 62%/15% y-o-y แม้มีโรคระบาดโควิด-19 มีฐานะเป็นเงินสดสุทธิ กระแสเงินสดแข็งแกร่ง คาดอัตราผลตอบแทนปันผลปี 63 และ 64สูงมาก 7.9%/9.1% เริ่มวิเคราะห์แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานใช้ P/E ปี 64 13.5 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย -0.5 SD กลยุทธ์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบ {“ปิดลบเล็กน้อย”ใต้“SMA10วัน”ต่อเนื่อง (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่งลง”เป็นหลัก แต่“ค่าบวก”(มี“Oversold + Divergence”ในกราฟรายนาที“หนุน”) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน1220 – 1230 (หรือ 1240) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1205” (แนวรับย่อย “1190 – 1180 / 1160”) จุด} Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com Inside Story Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ Single stock futures : รายสัปดาห์ Initial Coverage : KIAT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 0.75) Company Update : ERW (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 3.30) MTC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 58.00) Stock in Focus : BCH (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 17.00) Turnover List Watch : TRUBB มีโอกาสสูงที่จะติด ส่วน TKN หลุดแล้ว New Listing : SFT Key Drivers TODAY ปัจจัยต่างประเทศ - โควิด-19 : กังวลสหรัฐมีผู้ติดเชื้อสูง จะกระทบต่อเศรษฐกิจมาก # ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก

 

           โดยสถานการณ์ในสหรัฐนั้น ข้อมูล่าสุดจาก Worldometer ระบุว่า ขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 9,039,170 ราย และมีผู้เสียชีวิต 232,101 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในโลกทั้งในแง่ของยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต -ยุโรป: รัฐบาลเยอรมนีและฝรั่งเศสยกระดับคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 # ทางด้านรัฐบาลเยอรมนีและฝรั่งเศสประกาศยกระดับการคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังพบว่าอัตราผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วยุโรปพุ่งขึ้นเกือบ 40% ภายในเวลา 1 สัปดาห์ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในยุโรปมีมากกว่า 1.3 ล้านรายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดยมีจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของตัวเลข 2.9 ล้านรายทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตกว่า 11,700 ราย ซึ่งพุ่งขึ้น 37% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ - สหรัฐ: ทรัมป์ยอมรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอาจไม่เกิดขึ้นก่อนเลือกตั้ง # ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมายอมรับเองว่า สหรัฐอาจไม่สามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้ เนื่องจากทำเนียบขาวไม่สามารถประสานความคิดเห็นที่แตกต่างกับบรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา และสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส - สหรัฐ: นักลงทุนกังวลความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ # นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งกังวลว่า หากนายโจ ไบเดน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ก็อาจจะเกิดภาวะ "คลื่นสีน้ำเงิน" หรือ "Blue Wave" ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พรรคเดโมแครตครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส

 

              ขณะที่นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งกังวลว่า หากปธน.ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอีกครั้ง ก็อาจทำให้ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงดำเนินต่อไป - ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดร่วง 943.24 จุด วิตกโควิดฉุดเศรษฐกิจโลก # ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงกว่า 900 จุดเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้ประเทศต่างๆประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกนอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐ และความล่าช้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ - น้ำมัน: WTI ปิดร่วง $2.18 วิตกสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง,โควิดฉุดดีมานด์ # สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% เมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐและยุโรป • ทองคำ: ปิดร่วง $32.7 เหตุดอลล์แข็งกดดันตลาด # สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,900 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐและยุโรปเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

                    • ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้ # นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2563 (ประมาณการเบื้องต้น), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์ + วานนี้ ครม. อนุมัติ 4 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ # โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ 4 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจประกอบด้วย 1.โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน 2.โครงการยกระดับบุคลากรท่องเที่ยวไทย 3.โครงการพัฒนาเนินทรายงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และ 4.โครงการต้นแบบ SHA สร้างสถานประกอบให้มีความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ตามวิถีท่องเที่ยวแนวใหม่ รวมใช้งบประมาณกว่า 111 ล้านบาท •/- การเมืองไทย: อัยการนัดฟังคำสั่งคดี "แฟลชม็อบ 14 ธ.ค.62" ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ-พิธา วันนี้ # อัยการนัดฟังคำสั่งคดีแฟลชม็อบในวันนี้ เวลา 10.00 น.กรณีกล่าวหาร่วมกระทำผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 จากเหตุการณ์ชุมนุมแฟลชม็อบ บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่14 ธ.ค.62 และแกนนำข้างต้น ขณะที่การชุมนุมระยะนี้เพลาลง ไม่รุนแรง

 

                 # ผลกระทบ: ขณะนี้ต้องยอมรับว่าปัจจัยการเมืองเป็นลบเพิ่มจากภาวะเศรษฐกิจโลกและไทยที่ชะลอตัวลงจากโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งยังแก้ปัญหาไม่สำเร็จ อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ ที่อิงตามความมั่นใจของต่างชาติ เช่นท่องเที่ยว เดินทาง โรงแรม สายการบิน สนามบิน ศูนย์การค้า รับเหมาก่อสร้าง ตลอดจนนิคมอุตสาหกรรม จากนี้ไปจะขึ้นกับระยะเวลาของการชุมนุม หากยิ่งยืดเยื้อก็จะยิ่งส่งผลลบกับดัชนี SET และภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ความคืบหน้าในการประชุมสภาวิสามัญ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญต้องเป็นไปตามขั้นตอน และต้องใช้เวลาพอควร • ศาล รธน.ให้"ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์"พ้น ส.ส.เหตุถือหุ้นสื่อ จากคำร้อง 64 ราย ส่วนที่เหลือรอด # ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 9 พรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้นกิจการสื่อ จึงให้สิ้นสภาพ ส.ส.ตั้งแต่วันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 6 ก.พ.62 เนื่องจากเป็นคุณสมบัติที่ขัดต่อการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.

 

              ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยผู้ถูกร้องที่เหลือไม่ได้ถือหุ้นในกิจการสื่อแต่อย่างใด + ประชาชนยังให้ความสนใจโครงการ "คนละครึ่ง" ล่าสุดไม่มีสิทธืเหลือแล้ว # กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง 10 ล้านคน และมีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 3.8 แสนร้านค้า ซึ่งล่าสุดไม่มีสิทธิ์เหลือแล้ว มีการมาจับจองไปทั้งหมด +/• นายกฯลงนามโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา # เป็นส่วนหนึ่งของรถไฟฟ้าไทย-จีน เป็นระยะที่ 1 ความยาว 253 กิโลเมตร ประกอบด้วย 6 สถานีใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 179,412.21 ล้าน แบ่งหน้าที่ก่อสร้างระหว่างไทย-จีน มีการแบ่งสัญญาก่อสร้างงานโยธา เป็น 14 สัญญาปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ 1 สัญญา ช่วงกลางดง-ปางโศก อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 1 สัญญา ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ซึ่งมีความก้าวหน้าร้อยละ 42 รวมถึงเตรียมลงนามในสัญญาก่อสร้าง 9 สัญญา และอยู่ในกระบวนการหาผู้รับจ้างอีก 3 สัญญา คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงได้ในปี 2569 (สำนักข่าวไทย)

 

             # ผลกระทบ: มีหนึ่งสัญญาคือ 4-3 บ.ร่วมทุน CAN ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทจีนกับ NWR เสนอราคาต่ำสุดที่11.5 พันลบ. ต่ากว่าราคากลาง 1.8 พันล้านบาท หรือราว 15% คาดว่าจะได้ลงนามในสัญญา อาจมีการเก็งกำไรหุ้นNWR แต่ตอนทำจริงต้องดูว่าจะมีกำไรมากน้อยเพียงใด โดยปัจจุบันแนะนำ ซื้อ NWR ส่วนอีก 3 สัญญาที่กำลังคัดเลือกคาดว่าจะมีผู้ประกอบการจีนเข้ามาประมูลเช่นเคย แต่ผู้รับเหมาไทย อาจรอดูราคากลางก่อน ว่าจะแข่งขันได้หรือไม่

 

               นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!