- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 October 2020 18:15
- Hits: 15174
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 9-10-2020
“ม.เยียวยาใกล้บรรลุDJ-น้ำมันบวก แต่เพื่อนบ้านเริ่มขาย”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : VGI (จาก Fully Valued เป็นถือ)
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ เพิ่มต่อเนื่อง ปิด +11.12 จุด ที่ 1274.83 จุด มูลค่าซื้อขาย 56 พันลบ. เพิ่มขึ้นเหมือนเพื่อนบ้าน รับข่าวบวกไทยออกมาตรการ “ช็อปดีมีคืน” ลดภาษี 3 หมื่นบาทก่อนสิ้นปี และไทยมีต่ออายุเราเที่ยวไปด้วยกันถึงต้นปี 64 รวมทั้งโปรดเกล้างบประมาณปี 64 ต่างประเทศสดใสขึ้นหลังทรัมป์กลับลำเร่งสภาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนซื้อสุทธิมาก-โบรกเกอร์ ขายสุทธิมาก-รายย่อย YTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 284 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET-ผันผวนก่อนหยุด แนวโน้มม.เยียวยาใกล้บรรลุ ดาวโจนส์-น้ำมันตอบรับดี ไทยมีชุมนุมสัปดาห์หน้า ปัจจัยบวกคือ ทั้งทำเนียบขาวและเดโมแครตมีทีท่าจะบรรลุมาตรการเยียวยาได้ แม้ตัวเลขยื่นขอสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วสูงกว่าคาด แต่ถือว่าต่ำสุดตั้งแต่มี.ค.ซึ่งมีโควิด-19 ดาวโจนส์ +122 จุดน้ำมัน WTI +1.24 เหรียญ ดาวโจนส์ Future เช้านี้ยังเพิ่มได้ ดัชนีกังวล VIX ลดลงเป็น 26.4 จุด ส่วนไทยม.กระตุ้นเศรษฐกิจ 1 แสนลบ.จะช่วยให้เศรษฐกิจหดตัวน้อยลงด้านปัจจัยลบคือ ม.หอการค้าไทยสำรวจดัชนีความเชื่อมั่น ก.ย.เป็น 50.2 ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านลดลง เริ่มมีแรงขาย หลังขึ้นมาติดต่อกัน สำหรับไทยการชุมนุมมีวันที่ 14 ต.ค.เรียกร้องให้นายกฯลาออก และให้รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ สำหรับกลยุทธ์ระยะสั้น ความเสี่ยงยังมาก ควรเล่นรอบ ระยะนี้คาดดัชนีซื้อ-ขายช่วง 1260-1290 จุด หากหลุด 1265 จุดเป็นสัญญาณไม่ดีอีกครั้ง ให้ Stop Loss ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังไม่สดใสความเสี่ยงคือ หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง และการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ เงินออมบางส่วนไหลเข้าตลาดหุ้น มีมาตรการเยียวยา จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี แนวรับคือ 1230-1220 จุด และ แนวต้าน 1280-1290จุด สำหรับเป้าหมายดัชนีทางพื้นฐานปี 63 เป็น 1340 จุด ด้วย Forward P/E ที่ระดับ 25.4 เท่า จากคาดการณ์ EPS ปี 63 และ 64 ที่มีการเปลี่ยนแปลงคือ -41%/+28% y-o-y ตามลำดับ ปัจจัยน่าติดตามคือ 1) มีหุ้นใหม่เข้าตลาดหลักคือ SET วันนี้ กลุ่มอาหาร เป็นสายฟู้ดเทค ได้แก่ NRF (บ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์โปรดิวซ์) ราคา IPO 4.60 บาท ธุรกิจคล้ายกับ RBF คือ ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรส อาหารสำเร็จรูป และโปรตีนจากพืช เป็นต้น คาดว่าจะได้รับความนิยมในระยะนี้ SCBS เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 2) ส่วนหุ้น DELTA พุ่งทะยาน YTD ขึ้นมาแล้ว 265% ได้ประโยชน์จาก 5G และมีแนวคิดแตกพาร์ จากปัจจุบันที่1.00 บาท ราคาพื้นฐาน DBS เพียง 120 บาท
# Stock Pick Today ADVANC 5G จะกระตุ้นราคาหุ้นได้ บริษัทเริ่มประกาศให้บริการ 5G อย่างเป็นทางการใน 4Q63F คาดว่าจะได้ลูกค้า 5G ทั้งหมด 1 ล้านรายภายในสิ้นปี 64F (คิดเป็นประมาณ 2% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด) ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อเครื่องต่อเดือนจะดีขึ้นใน 4Q63F หลังจากผู้ให้บริการพยายามขยับราคาในส่วนUnlimited data ของ Prepaid และกระตุ้นให้ผู้ใช้บริการซื้อบริการเสริมต่างๆ โด คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 208 บาท ประเมินด้วยวิธี DCF
กลยุทธ์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นบวกเล็กๆต่อ {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”ต่อ (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)}ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบมีรีบาวด์ฯสั้นๆ(“SMA10”หนุน)ก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1280 (หรือ 1290 – 1300) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า1265” (แนวรับย่อย “1230 – 1220 / 1200” จุด)} กลยุทธ์ “เก็งกำไรสั้นๆ”
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Investment Digest : ADVANC
CPALL
Company Update : HMPRO (ถือ -ราคาพื้นฐาน 15.20)
VGI (ถือ -ราคาพื้นฐาน 6.96)
Turnover List Watch : คาด BEAUTY เข้าเกณฑ์ติด Cash Balance
New Listing : NRF
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: ทรัมป์ว่ามีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับเดโมแครตมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
# ปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ พร้อมระบุว่า การเจรจาของทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยดี และมีการพูดคุยกันถึงการทำข้อตกลงที่มากกว่าการช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน
+ สหรัฐ: ทำเนียบขาวต้องการให้สภาคองเกรสอนุมัติกฎหมายช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจ
# ทางด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ทำเนียบขาวต้องการที่จะให้สภาคองเกรสอนุมัติกฎหมายช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจเป็นรายมาตรการ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนหน้า
-/+ สหรัฐ: ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก 840,000 ราย สูงกว่าคาด แต่ทำยอดต่ำสุดตั้งแต่ มี.ค.63
# ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 840,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 825,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ849,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
# อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่มีการเปิดเผยในวันนี้ ถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่รัฐบาลประกาศชัตดาวน์ในกลางเดือนมี.ค.เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดบวก 122.05 จุด ขานรับทรัมป์หนุนมาตรการกระตุ้นศก.
# ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่แสดงมุมมองบวกว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาด ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้นขานรับความหวังเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมสายการบิน
+ น้ำมัน: WTI ปิดพุ่ง $1.24 หลังพายุเดลต้าฉุดการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่า อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน "เดลต้า" ส่งผลให้ผลิตน้ำมันในอ่าวต้องถูกระงับลงมากกว่า 90% นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ
- • ทองคำ: ปิดบวก $4.3 รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคืบหน้า
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ขานรับความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงมุมมองบวกว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก.ย.63 อยู่ที่ 50.2 ลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
# ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.63 อยู่ที่ระดับ50.2 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยมีสาเหตุสำคัญจากความกังวลเรื่องการเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะการชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักศึกษา ตลอดจนการลาออกจากตำแหน่งรมว.คลัง ของนายปรีดี ดาวฉาย ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดเงิน-ตลาดทุน
+ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐจะช่วย GDP ไตรมาส 4/63 หดตัวน้อยลงเหลือ -4 ถึง -5%
# มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาลในภาพรวมที่จะมีเม็ดเงินกว่า 1 แสนล้านบาท ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 นี้ คาดว่าจะทำให้ GDP ไตรมาส 4/63 หดตัวน้อยลงเหลือ -4 ถึง -5%จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว -6 ถึง -7% ซึ่งจะทำให้ภาพรวมจีดีพีปีนี้ หดตัวราว -7 ถึง -9% ขณะที่ปี 64 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวได้ 3-4%
- • มาตรการ "ช้อปดีมีคืน" อาจจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้เพียงชั่วคราว
# ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า มาตรการ "ช้อปดีมีคืน" คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้เพียงชั่วคราว และมีผลประโยชน์ต่อการจ้างงานค่อนข้างจำกัด ขณะที่ผู้ได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่น่าจะเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่อยู่ในระบบภาษี ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) อาจไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงเท่าใดนัก จากเงื่อนไขเวลาที่กำหนดไว้ในช่วง 23 ต.ค.-31 ธ.ค.63 มาตรการดังกล่าวจึงช่วยกระตุ้นการบริโภคได้เพียงในช่วงเวลาที่กำหนด
-การเมืองไทย: คณะราษฎร ออกแถลงการณ์ประกาศจัดการชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.
# คณะราษฎร ออกแถลงการณ์ประกาศจัดการชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน โดยเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี, ให้เปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจากประชาชน และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ นำสถาบันกษัตริย์กลับมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตาม ครรลองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web