- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 September 2020 11:59
- Hits: 17577
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 25-9-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 24 ก.ย.63 ปิด -16.55 จุด อยู่ที่ 1,247.46 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,230 ลบ.ต่างชาติขาย 1,282 ลบ. สถาบันขาย 2,605 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 330 ลบ. ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 509 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น KBANK,CPALL,PTTGC,PTT,STGT และมียอดขายหุ้น AOT,CBG,PTTEP,SCC,BDMS มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 1,022 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ AOT,KBANK,MINT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 4,113 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 77,369 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 4,370 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +0.20%, S&P500 +0.30%, Nasdaq +0.37% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Nvidia, Apple และหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน หลัง ก.พาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่ ส.ค. +4.80% อยู่ที่ 1.011 ล.ยูนิต สูงสุดในรอบ 14 ปี ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 870,000 ราย สูงกว่าคาดที่ 866,000 ราย นักลงทุนยังรอสภาผู้แทน ฯ สหรัฐพิจาณามาตรการเยียวยาในสัปดาห์หน้า ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -1.02% กังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า จากการระบาดไวรัสรอบ 2 ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเดินทาง และกลุ่มน้ำมันปรับลดลง แม้ว่าวานนี้ IFO รายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมัน ก.ย. อยู่ที่ 93.4 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ส.ค. ที่ 92.5
Market View
- • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ฟื้นตัว หลังสภาผู้แทนราษฎร์สหรัฐเตรียมเสนอมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ลล.ดอลลาร์ เข้าพิจาณาในสัปดาห์หน้า โดยผลการเจรจาเบื้องต้นระหว่างประธานสภาผู้แทน ฯ แนนซี่ เปโลซี กับรมว.คลัง มนูชินอยู่ในทิศทางบวก ขณะที่วันพุธหน้าจะเริ่มดีเบตรอบแรกระหว่างทรัมป์ & ไบเดน ส่วนท่าทีทรัมป์ต่อการถ่ายโอนอำนาจหลังการเลือกตั้งอาจไม่ราบรื่น หากแพ้การเลือกตั้งอย่างไม่ราบรื่นจากข้อสงสัยของทรัมป์ต่อโอกาสทุจริตการเลือกตั้งผ่านการลงคะแนนทางไปรษณีย์ สำหรับตลาดหุ้นฝั่งยุโรปถูกกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในสเปนเพิ่มขึ้น 1 หมื่นราย ฝรั่งเศสเพิ่ม 1.6 หมื่นราย โดยนักลงทุนยังรอผลการทดลองวัคซีนเฟส 3 ใน ต.ค. – พ.ย. นี้ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -1.31% ต่างชาติ สถาบัน พอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ หลัง ธปท. ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีหน้า +3.6% จากเดิมคาดที่ +5% จากภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวช้ากว่าคาด โดยปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลงเหลือ 9 ล.ราย จากเดิมที่ 16.2 ล.ราย จากความเสี่ยงการระบาด Covid-19 รอบ 2 ในยุโรปและหลายประเทศ ขณะที่ รมว.พลังงาน สุพัฒนพงษ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจเผยช่วง 3 เดือนท้าย เตรียมใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 แสน ลบ. ส่วนประเด็นการเมือง วานนี้สภามีมติ 432/255 เสียง ให้ตั้ง กมธ.ศึกษาแก้ไข รธน. ซึ่งไม่ตรงตามความต้องการของกลุ่มผู้เรียกร้อง ส่งผลให้ปัจจัยเสี่ยงการเมืองอาจสูงขึ้น
Daily Strategy
- • ประเมินดัชนี SET ฟื้นตัวในกรอบจำกัดโดยมีแนวรับ 1,240 – 1,260 จุด จากความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าและปัจจัยเสี่ยงการเมือง แนะนำซื้อกลุ่ม Defensive เช่น STGT, CPF,TU และ ITEL, INSET ( +ลงทุนโครงข่าย 5 G, ธุรกิจ Cloud Service)
- • JMT* (ซื้อ / ราคา Bloomberg Consensus 37.00 บาท) การเพิ่มทุนแบบ General Mandate ของ JMT ไม่น่ากังวลหลังผู้บริการออกมาชี้แจง ประเด็นที่สำคัญคือ JMT มีโอกาสเติบโตสูงจากแนวโน้ม NPL ในระบบธนาคารทีจะออกมาอย่างมากใน 2H63 ต่อเนื่องถึงปี 64 นอกจากนี้ยังต้องการเงินเอาไว้ใช้ทำดีล M&A โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากการออกหุ้น PP ซึ่งทางผู้บริหารมองว่า Dilution ที่เกิดขึ้นจะน้อยกว่าผลบวกที่ได้ ส่วนการใช้เงินเพิ่มทุนจาก RO จะเป็นทางเลือกสุดท้าย อนึ่ง JMT จะใช้เงินลงทุนรวมในปีนี้ 6 พันล้านบาท และปีหน้า 1 หมื่นล้านบาทในการซื้อหนี้ โดยแหล่งเงินทุนระยะสั้นจะมาจากการ Exercise warrants, เงินจากหุ้นกู้ และการปรับโครงสร้าง J Fintech กับกลุ่ม KB Kookmin
- • STA* ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 46.50 บาท*) ผลการดำเนินงานในปี 2563 มีแนวโน้มเติบโตสดใส โดยอุปสงค์ต่อการใช้ยางพาราในอุตสาหกรรมผลิตล้อยางรถยนต์เริ่มฟื้นตัวขึ้น นอกจากนั้นบริษัทลูกอย่าง STGT ก็มีแนวโน้มกำไรไตรมาส 3-4 เติบโตต่อเนื่อง QoQ ตาม Order คำสั่งซื้อถุงมือยางที่เต็มกำไรการผลิตพร้อมกับการปรับราคาขายขึ้นต่อเนื่อง ในส่วนของการประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ของ STA Bloomberg Consensus ประเมินเฉลี่ยที่ 5.9 พัน ลบ. และ 5.36 พัน ลบ.พลิกจากขาดทุนในปี 2562 และชะลอตัวลง -9%YoY ในปี 2564
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures พ.ย. ปิด $+0.38 อยู่ที่ $40.31 /บาร์เรล Brent Futures พ.ย. ปิด +$0.17 อยู่ที่ $41.94 /บาร์เรล ได้แรงหนุนหลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 1.6 ล.บาร์เรล เป็นการลดลงสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน แนวโน้มราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากอุปสงค์ที่แนวโน้มชะลอตัว หลังอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศสเริ่มใช้มาตรการควบคุมการระบาดไวรัส ซึ่งอาจกระทบต่ออุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมัน
Gold Update (+) Gold Futures ธ.ค.ปิด +8.50 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,876.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.04 % อยู่ที่ 94.3565 หลังรายงานผู้รับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 870,000 ราย และผู้ขอรับสวัสดิการต่อเนื่องอยู่ที่ 12.6 ล.ราย นักลงทุนหันกลับซื้อทองคำอีกครั้ง จากความกังวลการถ่ายโอนอำนาจ หลังการเลือกตั้งสหรัฐจะไม่ราบรื่น
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -46.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -28.7 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -15.8 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -1.9 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 31.55 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +179 จุด อยู่ที่ 1,605
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 0.672% , 2 ปี อยู่ที่ 0.137
(+) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 6.8273/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 45,031 ราย รวมอยู่ที่ 7,185,147 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 919 ราย รวมอยู่ที่ 207,515 ราย / อินเดียติดเชื้อเพิ่มขึ้น 85,919 ราย รวมอยู่ที่ 5,816,103 ราย ( Worldometers )
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที่4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
23 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 6/2563
28 ก.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดสัมมนาวิชาการประจำปี(BOT Symposium 2020)
30 ก.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ต่างประเทศ
21 ก.ย. CN อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC
US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
22 ก.ย. US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales)
US คำแถลงการณ์ของพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
23 ก.ย. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
24 ก.ย. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ยอดขายบ้านใหม่ ( ส.ค.)
25 ก.ย. US ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock โรงไฟฟ้า BGRIM*, BPP*, CKP*, GPSC*, GULF* อสังหาฯ ที่มีปันผลสูง AP*, NOBLE*
(2) กลุ่มอิงการบริโภคในประเทศรับมาตรการกระตุ้นของรัฐ เครื่องดื่ม CBG*, ICHI*, OSP*, SAPPE*, BGC*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL ในระบบเพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน CHAYO*, JMT*, SINGER*, MTC*, SAWAD*, AUCT* ประกัน TQM*
(4) Theme เงินบาทอ่อนค่า กลุ่มส่งออกอาหาร CPF*, GFPT*, TFG*, TU* สินค้าโภคภัณฑ์ STA*, STGT ราคาถั่วเหลือง TVO* ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ DELTA*, HANA*, KCE* SMT*, SVI*, WICE*
(5) ค่าระวางเรือปรับขึ้นในช่วง High Season RCL*, PSL*
(6) กลุ่มสินค้าไอทีฯ COM7*, SYNEX*, SPVI*, JMART*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2020: WICE*, JKN*, BGC*, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web