- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 October 2014 16:12
- Hits: 2209
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
ขาย หรือ รอ
SET เมื่อวันพุธ เปิดตลาดบวกขึ้นมาถึง 7.5 จุด ตามกระแสเชิงบวกจากทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปที่ปรับตัวขึ้นแรงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ในระหว่างวัน SET กลับมาแกว่งตัวในกรอบก่อนจะปิดที่ระดับ 1532.72 จุด เพิ่มขึ้น 6.58 จุด โดยมีการสลับขึ้นลงคละกลุ่ม หุ้นกลุ่มหลักที่ดันดัชนี ได้แก่ ปิโตร (+2.7%), ท่องเที่ยว (+1.4%), อสังหาฯ (+1.3%), สื่อสาร (+1.2%) ขณะที่กลุ่มธนาคาร ปรับตัวลดลงสวนทางตลาดราว 0.8% มูลค่าการซื้อขาย 37,276 ล้านบาท ต่ำกว่าระดับ 4 หมื่นล้านบาท เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน กองทุนในประเทศซื้อสุทธิมากถึง 1,095 ล้านบาท (1-22 ต.ค. ซื้อสุทธิ 2,310 ล้านบาท) ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อยราว 109 ล้านบาท (1-22 ต.ค. ขายสุทธิรวม 10,737 ล้านบาท)
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
ธ.กลางยุโรป (ECB) กำลังพิจารณาที่จะซื้อหุ้นกู้ในตลาดรอง และอาจตัดสินใจเรื่องนี้ในเดือนธ.ค. โดยอาจเริ่มเข้าซื้อต้นปี 58 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจยูโรโซนซึ่งแทบไม่ขยายตัวและเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเพียง 0.3% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าซื้อหุ้นกู้ซึ่งจะเป็นการขยายโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ภาค เอกชน ECB ได้เริ่มเข้าซื้อตราสารหนี้ covered bonds เมื่อวันที่ 20 ต.ค.
ครม.เห็นชอบมาตรการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้ โดยย่อคือ: ห้างหุ้นส่วนสามัญ ในด้านวิธีการหักค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามจริงจากเดิมแบบเหมา หจก.ที่ได้รับเงินได้เช่นดอกเบี้ย, เงินปันผล, และเงินได้จากการขายอสังหาฯที่มิได้มุ่งทางการค้าหรือกำไรได้ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้แล้วจะต้องนำรายได้พึงประเมินไปรวมคำนวณกับเงินได้ประเภทอื่นเพื่อเสียภาษีตอนสิ้นปี (เดิมให้สิทธิไม่ต้องนำเงินได้) ส่วนคณะบุคคลจะต้องนำเงินได้พึงประเมินตามสัดส่วนมารวมคำนวณเป็นเงินได้พึงประเมินของตนตอนสิ้นปี โดยไม่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีตอนสิ้นปีอีก เริ่ม 1 ม.ค. 58
มาตรการเก็บภาษีทยอยประกาศเพิ่มเติม มองว่าจะมีผลต่อจิตวิทยาต่อตลาดในระยะสั้น 2 ระดับคือสะท้อนถึงฐานะการคลังปัจจุบัน และจะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อในแต่ละระดับของมาตรการภาษีที่ใช้
การที่ตลาดเมื่อวันพุธพยายามผลักดันราคาให้สูงขึ้น แต่พบกับแรงขายทุกครั้งที่ดัชนี/ราคาดีดตัวขึ้น เป็นสิ่งที่แสดงถึงการขาดความเชื่อมั่นถึงการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร แม้ SET สามารถปรับขึ้นปิดในแดนบวกได้ ในระยะสั้น เรายังมีความกังวลถึงความเสี่ยงทางลงมากกว่าแรงดีดขึ้นหรือเทคนิคเคิลรีบาวด์ วันนี้เราแนะนำขาย โดยเฉพาะขายในจังหวะที่ราคาปรับตัวขึ้น หรือรอดู
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตหุ้นลงเหลือ 10%
เราถือครองหุ้นเหลือ 10% และถือเงินสด 90% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 2 บริษัทคือ HMPRO, และ ADVANC
Accumulate : -- รอสะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1530 จุด ต่ำกว่า รอ
เปรียบเทียบดัชนี
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 10% ถือเงินสด 90%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +0.3%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.8%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +2.1%
ผลตอบแทนตลาด SET = +13.3%
พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 5 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
วันที่ 15 ต.ค. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 200% เหลือ 10% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 0%)
รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130
หรือ โทร 02-5538899 ( 6 คู่สาย )